บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดโครงการ ASEAN INVESTMENT CHALLENGE 2023 หรือโครงการแข่งขันเทรดหุ้นเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ มุ่งเน้นส่งเสริมและฝึกทักษะนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาในกลุ่มประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เทรดหุ้นด้วยเงินทุนจำลองผ่าน Web Platform เพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน พร้อมชิงรางวัลระดับประเทศมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท และรางวัลระดับภูมิภาคมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท ขยายเวลารับสมัครถึงวันที่ 15 ก.ย.66 และเริ่มแข่งขันวันที่ 25 ก.ย.–17 พ.ย.66 พร้อมดึงผู้ชนะที่มีคะแนนสูงสุด 10 อันดับแรกในการแข่งขันระดับประเทศ เข้าร่วมฝึกงานและทำงานกับบริษัทฯ สร้างวิชาชีพที่มั่นคงในอนาคต

นายพัชระนนท์ ชีวเกรียงไกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGS-CIMB เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เปิดโครงการ ASEAN INVESTMENT CHALLENGE 2023 หรือโครงการแข่งขันเทรดหุ้นเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืนระดับ ASEAN โดยมีเป้าหมายในการผลักดันส่งเสริมให้เยาวชนนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาได้เข้าถึงความรู้ด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน เพื่อให้ก้าวทันเทรนด์โลก และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตามหลักการของ ESG หรือ Environmental, Social, และ Governance
    
ทั้งนี้นับตั้งแต่เริ่มเปิดรับสมัครนิสิตและนักศึกษาเข้าร่วมการแข่งขันเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรม AIC สัญจร เพื่อให้ความรู้เรื่อง “การลงทุนฉบับ 101” ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยสยาม ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น โครงการดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนิสิตและนักศึกษาที่ชื่นชอบการลงทุนในหลักทรัพย์อย่างล้นหลาม และมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้ขยายเวลาเปิดรับสมัครไปจนถึง 15 กันยายน 2566

“CGS-CIMB คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยผลักดันให้เยาวชนรุ่นใหม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนอย่างยั่งยืนตามหลักการของ ESG ได้มากยิ่งขึ้นทั้งในทางทฤษฎีและการปฏิบัติ โดยจะมุ่งพัฒนาความรู้ความสามารถในเรื่องของการบริหารจัดการการเงินการลงทุน ส่งเสริมทักษะการ  เทรดหลักทรัพย์ รวมถึงการบริหารพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืน และในอนาคตนิสิตนักศึกษาสามารถนำไปปรับใช้กับการลงทุนได้ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสทางวิชาชีพให้นิสิตนักศึกษาที่ชนะการแข่งขันระดับประเทศ ได้เข้าร่วมฝึกงานและทำงานในบริษัท เพื่อต่อยอดประสบการณ์ความรู้ในองค์กรภาคธุรกิจอีกด้วย” นายพัชระนนท์ กล่าว
    
นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ยุคปัจจุบัน สังคมโลกให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ESG เป็นอย่างมาก  ดังนั้นสำนักงาน ก.ล.ต. มีความพยายามมุ่งเน้นให้คนไทยสามารถเข้าถึงตลาดทุน และยกระดับตลาดทุนไทยทั้งองคาพยพให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ และนักลงทุน ซึ่งในส่วนนี้ ก.ล.ต.ได้มีการกำหนดให้ บจ. เปิดเผยข้อมูลความรับผิดชอบต่อสังคมในรายงานประจำปี
    
“ก.ล.ต. มุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนให้กับเยาวชน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่จะเติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต จึงเดินหน้าร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้สามารถเข้าถึงและส่งเสริมการลงทุนให้กับเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการนี้เรามีความยินดีและคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นการวางรากฐานการลงทุนที่ดีให้กับเยาวชน อันจะส่งผลให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต”
    

ดร. รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลท. เดินหน้าผลักดันเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืน ตามหลักการของ ESG มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Class Room Online และห้องสมุดมารวย เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนอย่างยั่งยืนให้กับผู้ที่สนใจหรือผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องการลงทุน นอกจากนั้นยังจัดให้มีการประเมินบริษัทจดทะเบียนเพื่อคัดเลือกรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (หรือ Thailand Sustainability Investment) เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึง ESG ซึ่งจะช่วยยกระดับการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว ทำให้ธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน

สำหรับโครงการ CGS-CIMB ASEAN INVESTMENT CHALLENGE 2023 จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นปลูกฝังให้กับเยาวชนในระดับอุดมศึกษาที่สนใจในเรื่องของการลงทุน สามารถนำเทคนิคที่ได้จากการเข้าแข่งขันและการทดลองลงทุนหลักทรัพย์ในครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการพิจารณาลงทุนจริง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนได้ในอนาคต

ดร.แมน ชุติชูเดช รองเลขาธิการกลุ่มงานกลยุทธ์ลงทุนและบริหารผู้จัดการกองทุน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กล่าวว่า กบข. ให้ความสำคัญในเรื่องของการลงทุนในหลักทรัพย์เป็นอย่างมาก เนื่องจาก กบข. ถือว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันหลักของประเทศ ทำหน้าที่ในการบริหารและรับผิดชอบในการลงทุนเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในระยะกลางและระยะยาว ฉะนั้นการวิเคราะห์ในเชิงลึกอย่างเป็นระบบและการลงทุนตามหลักการของ ESG จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคัดเลือกหลักทรัพย์ในการลงทุนของ กบข. ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับการลงทุนของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปในตัวอีกด้วย

คุณนรีรัตน์ สันธยาติ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บรรยายเสริมความรู้ให้นิสิตและนักศึกษาในเรื่อง ESG กับการลงทุน เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของ ESG ในฐานะเทรนด์ของธุรกิจโลก และการประเมินการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียน อันจะเป็นแนวทางให้นิสิตและนักศึกษาปรับใช้สร้างกลยุทธ์การประเมินหลักทรัพย์ในการแข่งขันได้

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการ ASEAN INVESTMENT CHALLENGE 2023 แข่งขันในระดับประเทศวันที่ 25 ก.ย.-17 พ.ย.66 (8 สัปดาห์) โดยการเทรดหุ้นบัญชีซื้อขายและเงินทุนจำลองตั้งต้น 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ บน Web platform ผ่านคอมพิวเตอร์หรือ Smart Phone  ชิงเงินรางวัลระดับประเทศรวมกว่า 100,000 บาท ซึ่งจะประกาศผู้ชนะ Top 10 ภายในต้นเดือนธันวาคม 2566 ทั้งนี้ นิสิตนักศึกษาที่ได้รางวัล Top 10 จากการเทรดหุ้นตามเงื่อนไข จะได้รับพิจารณา เข้าฝึกงาน หรือร่วมงานกับ CGS-CIMB ซึ่งเป็นการส่งเสริมความมั่นคงในวิชาชีพต่อไปในอนาคต จากนั้นการแข่งขันในระดับอาเซียนจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2567 ระหว่าง Top 3 จากแต่ละประเทศ โดยแข่งขันนำเสนอแผนการลงทุน (ภาษาอังกฤษ) ชิงเงินรางวัลระดับภูมิภาคอาเซียนรวมกว่า 1,000,000 บาท