“อยากให้เยาวชนคนรุ่นใหม่แบบหนู ได้เห็นคุณค่าของโครงอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านต่างๆ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีประโยชน์มากมาย เป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และประชาชนทั่วไป ส่วนเพลงที่นำมาร้องประกวดครั้งนี้เนื้อหาได้กล่าวถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่พระองค์พระราชทานให้แก่ประชาชน และเป็นการร่วมอนุรักษ์เพลงลูกทุ่งไทยให้อยู่กับพวกเราตลอดไป” นางสาวสลิลทิพย์ ซื่อตรง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมารีวิทยา ปราจีนบุรี  ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดร้องเพลง “ภูมิใจภักดิ์ รักษ์บ้านพ่อ” เนื่องในวันคล้ายวันสถาปณา 44 ปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าว

โดยงานนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 – 12 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา จัดขึ้นภายใต้กิจกรรม “44 ปี แห่งการพัฒนา ปวงประชาอยู่ดีมีสุข” โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานเปิดงาน นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการ กปร. กล่าวรายงานถึงการดำเนินงานและแนวทางการสนองงานตามแนวพระราชดำริในระยะต่อไป

“หนูรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจมากๆ ที่ได้ร้องและบันทึกเพลงนี้ เพราะเนื้อเพลงได้อธิบายเกี่ยวกับพระราชดำริ ตลอดถึงการดำเนินงานของหน่วยงานไปจนถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ เป็นบทเพลงที่สามารถทำให้เยาวชนอย่างหนูเข้าใจในงานของพระองค์ได้โดยง่าย และจะเข้าใจงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงได้เป็นอย่างดี” นางสาวสลิลทิพย์ ซื่อตรง กล่าว

ด้าน เด็กหญิงชนกานต์ เทียนปัญจะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ชนะเลิศการประกวดเรียงความระดับมัธยมศึกษา “44 ปี แห่งการพัฒนา ปวงประชาอยู่ดีมีสุข” กล่าวว่า ได้แนวคิดในการเขียนเรียงความมาจากการเข้าดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา รับทราบว่าอดีตในพื้นที่แห่งนี้มีความแห้งแล้ง แผ่นดินไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ ภายหลังจากมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ก็อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ มีแหล่งน้ำ ประชาชนเพาะปลูกพืชได้อย่างสมบูรณ์

“การเปลี่ยนแปลงเกิดจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงทุ่มเทพระวรกาย แรงใจ เพื่อประชาชนในพื้นที่ทุกคน และทรงสอนให้ทุกคนรู้จักและเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่สามารถนำมาทำได้ที่บ้านของตัวเอง รู้สึกภาคภูมิใจและขอขอบพระคุณพระองค์ท่านมากๆ ที่ทรงพัฒนาสภาพพื้นที่ที่แห้งแล้งสู่ความอุดมสมบูรณ์และได้เสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรนำมาเลี้ยงครอบครัวอย่างมีความสุขได้ในวันนี้” เด็กหญิงชนกานต์ เทียนปัญจะ กล่าว

นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิ นิทรรศการ “44 ปี แห่งการพัฒนา ปวงประชา อยู่ดีมีสุข” การบริหารจัดการน้ำศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ อาหารปลากินพืชลดต้นทุน ปศุสัตว์ สร้างสุข ชีวิตสดใสมีกินมีใช้ด้วยระบบสหกรณ์ เกษตรอัจฉริยะ สร้างป่า สร้างรายได้ การพัฒนาสวนรุกขชาติ ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านธรรมชาติ การใช้ประโยชน์สมุนไพรจากภูมิปัญญาไทย ชีวภัณฑ์สรรสร้าง เกษตรกรรมยั่งยืน การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชเพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรม และศิลปาชีพที่บ้านพ่อ อีกทั้ง มีการจัดกิจกรรมการประกวด กิจกรรมการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ “91 พรรษา 910 กล้า สร้างผืนป่า ที่บ้านของพ่อ” พร้อมการฝึกอบรมอาชีพหลักสูตรระยะสั้น เช่น การทำลูกประคบสมุนไพร การทำพวงกุญแจหญ้าแฝก เขียนเส้นทองบนถุงผ้า ทำคอกเทล สลัดโรล เห็ดสวรรค์ ชาสมุนไพรและยาดองน้ำผึ้ง สเปรย์แก้ปวดสมุนไพร ทำยาหม่องสมุนไพร ทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ เป็นต้น ตลอดถึงการจัดบูธของเกษตรกรต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จจากการได้รับองค์ความรู้และการส่งเสริมจากศูนย์ฯ รวมถึงการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรหมู่บ้านรอบศูนย์ฯ อีกด้วย