เตือนภัย ใกล้ออกพรรษาระวังมิจฉาชีพ! แม่ค้าขายกาแฟชาว ต.โพนทอง  และพระภิกษุในวัดภูปอ ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ สุดช้ำ ถูกแก๊งตุ๋นขายน้ำผึ้งหลอกให้ซื้อน้ำผึ้งบรรจุถุงพลาสติก สูญเงินรวม 6,500 บาท แลกกับน้ำผึ้งปลอม เผยใช้อุบายหลอกให้หลงเชื่อว่าพ่อไปตีผึ้งพลาดท่า ถูกฝูงผึ้งกว่า 200 ตัวรุมต่อยได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อาการโคม่ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จึงนำน้ำผึ้งเร่ขายหาเงินรักษาพ่อ รู้ทีหลังเป็นน้ำผึ้งปลอม ต้มน้ำใส่น้ำตาลผสมสารเหนียว จึงโพสต์เฟสบุกเตือนภัยชาวบ้านและพระทุกวัด  ก่อนตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อซื้อน้ำผึ้งปลอมไปกวนข้าวทิพย์ออกพรรษา ล่าสุดแจ้งความตำรวจไล่ล่าตัวแล้ว 


วันที่ 24 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีผู้ใช้เฟสบุกรายหนึ่ง โพสต์ภาพถุงพลาสติกบรรจุของเหลว สีน้ำตาล ใส่ถาดอลูมิเนียม 3-6 ถุง พร้อมข้อความ X ขออนุญาตเตือนภัยชาวกาฬสินธุ์นะคะ ถ้ามีแก๊งขายน้ำผึ้งมาขาย อย่าหลงเชื่อ อย่าหลงซื้อนะคะ แม่พึ่งโดน 2,500 บาทวันนี้ X ตอนนี้กำลังตระเวนหาขายให้คนเฒ่าคนแก่ค่ะ ระวังกันด้วยนะคะ


ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อเจ้าของเฟสบุ๊กดังกล่าว กระทั่งพบผู้เสียหาย เป็นแม่ค้าขายกาแฟและเครื่องจักสาน อยู่ริมถนนสายโพนทอง-หน้าเรือนจำกาฬสินธุ์  พบกับนางเครือวรรณ เดวี่ อายุ 55 ปี บ้านแสนรัก โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กำลังบริการขายกาแฟให้กับลูกค้าตามปกติ โดยนางเครือวรรณระบุว่า ลูกสาวตนเป็นคนโพสต์ทางเฟสบุ๊ก เพื่อเตือนภัย และให้สังคมโซเชียลเป็นหูเป็นตาช่วยกัน ชาวบ้านทั่วไปจะได้ระมัดระวัง ไม่หลงกลถูกแก๊งขายน้ำผึ้งปลอมหลอกสูญเงิน  ไป 2,500 บาทเหมือนตน และนอกจากนี้ยังมีลูกค้าอีก 2 คนที่มาซื้อกาแฟ ถูกหลอกให้ซื่อพร้อมกับตนคนละ 1 ถุงๆละ 100 บาท รวมเงินที่แก๊งต้มตุ๋นได้เงินจากร้านขายกาแฟตนไปเป็นจำนวนเงิน 2,700 บาท


นางเครือวรรณกล่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่ตนกำลังขายกาแฟให้กับลูกค้า 2 คน มีรถกระบะ 2 ตอน สีขาวคันหนึ่ง ไม่ได้สังเกตแผ่นป้ายทะเบียน วิ่งมาจอดอยู่ข้างร้าน ทีแรกเข้าใจว่าเป็นลูกค้ามาจอดซื้อกาแฟหรือสินค้าประเภทเครื่องจักสานในร้าน แต่คนที่ลงมาจากรถฝั่งซ้ายคนขับ ซึ่งเป็นผู้หญิง รูปร่างท้วม อายุประมาณ 30-35 ปี ถือกระสอบสีขาวบรรจุสิ่งของลงมาด้วย พอเดินมาถึงหน้าร้านก็เอ่ยถามตนว่าชื่อป้าเครือวรรณหรือเปล่า หนูได้รับคำแนะนำจากนางพยาบาล ให้นำน้ำผึ้งมาขายให้ ตอนนี้พ่อหนูป่วยหนัก เพราะไปตีผึ้งแต่กลับถูกฝูงผึ้งกว่า 200 ตัวรุมต่อย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อาการโคม่า หมอ พยาบาลกำลังช่วยกันปั้มหัวใจ หนูไม่มีเงินค่ารักษาและค่าใช้จ่ายในการดูแลพ่อ จึงได้เอาน้ำผึ้งมาขายให้ป้า ในถุงนี้มี 48 ถุงขายถุงละ 100 บาท จะให้เงินหนูเท่าไหร่ก็ได้ ขายแบบเหมายกถุงไปเลย ขอแค่ให้ได้เงินไปเป็นค่าใช้จ่ายดูแลพ่อเท่านั้น


นางเครือวรรณกล่าวอีกว่า ตนไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน และไม่เคยคิดที่จะรับซื้อน้ำผึ้งจากใครมาปรุงกาแฟหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตนชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว พอได้ยินหญิงสาวคนดังกล่าวพูดออกมาอย่างนั้น ก็ลืมสงสัยไปเลยว่าพยาบาลคนไหนแนะนำมา คิดแค่ว่าจะให้ความช่วยเหลือคนที่เขาเดือดร้อนตามสวควร จึงบอกว่าไม่ซื้อหรอก ไม่เอาน้ำผึ้งนะ จะให้เงินฟรีๆช่วยค่าดูแลพ่อ  2,000 บาท แต่หญิงสาวคนนั้นก็คะยั้นคะยอให้เอา ว่าไม่อยากตะเวนขาย จะได้รีบไปเฝ้าพ่อที่หมอกำลังปั้มหัวใจอยู่ ด้วยความรู้สึกสงสารและเห็นใจ ในที่สุดตนจึงเอาเงินให้ 2,500 บาท และลูกค้า 2 คนที่มาซื้อกาแฟก็ซื้อช่วยคนละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 2,700 บาท พอได้เงินแล้วหญิงสาวคนนั้นก็ขึ้นรถไป ก่อนที่จะมารู้ในภายหลังว่าน้ำผึ้งที่บรรจุในถุงพลาสติกนั้นเป็นของปลอมทุกถุงเลย  ซึ่งตอนนี้มีอยู่  46 ถุง โดยนำไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ย่ามใจไปต้มตุ๋นชาวบ้านคนอื่นอีก
“เงินน่ะ ถึงแม้จะหายาก กว่าจะขายกาแฟได้แต่ละถ้วยก็แสนยากเย็น แต่หากช่วยคนที่เดือดร้อน ที่มาขอความช่วยเหลือ ตนก็เต็มใจ ไม่เสียดาย แต่ที่เสียความรู้สึกคือ ทำไมเอาน้ำผึ้งปลอม ที่อาจจะเจือสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมาขายให้เราและชาวบ้านคนอื่นด้วย หากหลงดื่มกินโดยไม่ตรวจสอบก่อน จะไม่เจ็บป่วยตายฟรีหรือ” นางเครือวรรณกล่าว 


ด้านนายสุภาพ ชูพันธุ์ อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญด้านการเกษตร ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า หญิงที่มาหลอกขายน้ำผึ้งปลอมนั้น มากับผู้ชายที่เป็นคนขับรถ ท่าทางเป็นสามีภรรยากัน และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ตอนแรกก็เห็นถือกระสอบสีขาวเดินเข้าไปหาและพูดคุยกับนางเครือวรรณ ก่อนที่จะรู้ทีหลังว่ามีการซื้อขายจ่ายเงินค่าน้ำผึ้งให้กันไป ส่วนที่มารู้ว่าเป็นน้ำผึ้งปลอมนั้น เนื่องจากมีลูกค้าร้านกาแฟนางเครือวรรณ คนที่ช่วยซื้อน้ำผึ้งไปเมื่อวานนี้ 1 ถุงเล่าให้ฟัง และบอกว่าคนที่มีความรู้ในเรื่องน้ำผึ้ง ได้ตรวจสอบว่าเป็นของปลอม นอกจากนี้ยังมีคนรู้จักแจ้งมาว่า เมื่อวานนี้ที่วัดภูปอ ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ยังมีแก๊งขายน้ำผึ้งปลอมไปหลอกขายให้พระอีกด้วย โดยพระรูปนั้นถูกตุ๋นซื้อน้ำผึ้งปลอมไว้ฉันเพื่อสุขภาพไปถึง 4,000 บาททีเดียว ซึ่งมิจฉาชีพคนนั้นอาจจะเป็นแก๊งเดียวกันที่กำลังอาละวาดใน อ.เมืองกาฬสินธุ์  2 ตำบล คือ ต.โพนทอง และ ต.ภูปอ ก็อาจเป็นได้ เพราะใช้อุบายแอบอ้างอย่างเดียวกันว่าพ่อไปตีผึ้ง แล้วถูกฝูงผึ้งรุมต่อยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการโคม่า หมอกำลังปั้มหัวใจอยู่ในโรงพยาบาล


นายสุภาพกล่าวว่า กรณีแก๊งขายน้ำผึ้งปลอมที่กำลังอาละวาดอยู่นี้ ตนเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก จึงอยากฝากเตือนไปยังชาวบ้านทั่วไป อย่าได้หลงเชื่อ เพราะตามปกติช่วงนี้เป็นฤดูฝน ไม่ใช่ฤดูตีผึ้ง คนที่ขายน้ำผึ้งแท้เขาจะบรรจุใส่ขวด  หรือตัวอย่างน้ำผึ้งจะมีความเหนียวหนืด กลิ่นหอม ส่วนที่นำมาหลอกขายกลับบรรจุใส่ถุงพลาสติก ไม่มีความเหนียวหนืด ไม่มีกลิ่น มีการนำซากตัวผึ้งและชิ้นส่วนของรังผึ้งมาผสม เพื่อตบตาว่าเป็นของแท้ อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นอย่าได้หลงเชื่อ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที จะได้ไม่ถูกหลอกให้เสียเงิน หรืออาจหลงดื่มกินน้ำผึ้งปลอม ที่ไม่รู้ว่าผสมสารอะไรมาหลอกขาย ที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ อย่างที่เรียกว่าเสียทั้งเงินและเสียสุขภาพอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม กรณีแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายน้ำผึ้งปลอมดังกล่าว ผู้สื่อข่าวยังได้รับการยืนยันจากนายกิตติ แก้วกาสี นายกเทศมนตรีตำบลภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ว่า ได้รับแจ้งจากพระภิกษุในวัดภูปอ ว่าถูกผู้หญิงคนหนึ่ง นำน้ำผึ้งเข้ามาเสนอขายจำนวน 40 ถุง ราคา 4,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นน้ำผึ้งคุณภาพดี เก็บไว้ฉันบำรุงสุขภาพ และเก็บไว้เพื่อเป็นส่วนผสมสำหรับกวนข้าวทิพย์วันออกพรรษาก็ได้ ซึ่งตอนนี้ตนมีความจำเป็นมาก เพราะพ่อป่วยหนัก เนื่องจากไปตีผึ้งและถูกฝูงผึ้ง 200 ตัวรุมต่อย ตอนนี้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีเงินค่ายาและค่าใช้จ่ายในการไปเฝ้าพ่อที่ป่วยหนัก  


นายกิตติกล่าวอีกว่า ด้วยความเห็นใจพระรูปนั้นจึงซื้อน้ำผึ้งช่วย แต่หลังจากจ่ายเงินและผู้หญิงคนนี้กลับไป ได้ช่วยกันตรวจสอบน้ำผึ้งจึงรู้ว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม ที่ได้จากการต้มน้ำใส่น้ำตาล ผสมกับสารเหนียว และส่วนผสมอย่างอื่น พร้อมกับชิ้นส่วนของรังผึ้งเก่าและตัวผึ้งที่ตายแล้วเพื่อตบตาให้เห็นเหมือนน้ำผึ้งแท้ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุมีแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายน้ำผึ้งปลอมในพื้นที่ ได้แจ้งเตือนพี่น้อง ประชาชน ทุกหมู่บ้าน พระเณรทุกวัด ให้ช่วยกันระมัดระวังภัย หากพบเบาะแสคนร้าย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที