การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สนับสนุนนโยบาย เปิดเสรีก๊าซธรรมชาติไทยต่อเนื่อง เดินหน้านำเข้า LNG ใช้ที่โรงไฟฟ้าบางปะกง โดยแข่งขันราคาต่ำสุดจากตลาดสากล ตั้งเป้านำเข้า 1.2 ล้านตัน/ปี ลดต้นทุนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า พยุงราคาค่าไฟฟ้า ลดภาระประชาชน เริ่ม ต.ค. 66
   

 ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  เปิดเผยว่า กฟผ. ดำเนินการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะสั้น ตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปี 2570 ปริมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี ตามมติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ด้วยวิธีแข่งขันราคา เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าบางปะกงของ กฟผ. รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเรือขนส่ง LNG ลำแรกเข้าเทียบท่าสถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 2 จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 
     

การจัดหาและนำเข้า LNG ครั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการตาม (ร่าง) แนวปฏิบัติการจัดหา LNG ที่กำหนดโดย กกพ. สำหรับกลุ่มผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติที่จัดหา LNG เพื่อนำมาใช้กับภาคไฟฟ้าที่ขายเข้าระบบ และกลุ่มที่จัดหา LNG เพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ขายไฟฟ้าเข้าระบบ ภาคอุตสาหกรรม และกิจการของตนเอง ซึ่งได้ราคาต่ำกว่าราคาเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา กฟผ. ได้นำเข้า LNG ในราคาที่เหมาะสมตามสถานการณ์ตลาดโลก อีกทั้งเป็นไปตามแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซธรรมชาติระยะที่ 1 และ 2 เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้า ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยต่ำลง ช่วยลดภาระประชาชนได้จริง 
   

นับเป็นโอกาสอันดีของ กฟผ. ในฐานะรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานที่สนองตอบนโยบายรัฐ ในเรื่องลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้จัดหา LNG สำหรับใช้งานในโรงไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางด้านพลังงาน และส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ อันเป็นประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ ตามนโยบายเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ แก่บุคคลที่สามของ กพช.