นักธุรกิจไทยถึงช็อก!เหตุการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง ห่วงสวัสดิภาพแรงงานไทยที่ต้องเสียรายได้จำนวนมาก คาดไม่บานปลาย เชื่อไม่กระทบการเจรจาเอฟทีเอกับกลุ่มประเทศอาหรับ

     
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงเหตุการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง ว่า รู้สึกช็อกกังวลว่าจะเป็นอีกสงคราม นอกจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตาม คงต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ส่วนตัวหวังว่าคงไม่บานปลาย และมีมือที่สามเข้ามาร่วมผสมโรง เบื้องต้นเหตุรุนแรง กระทบเรื่องความปลอดภัยของชีวิต รายได้และสวัสดิภาพแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
    
 สำหรับด้านการค้าระหว่างประเทศ ยอดส่งออกและนำเข้าระหว่างไทยกับอิสราเอลต่อปีมูลค่าไม่มาก จึงผลกระทบต่อส่งออกรวมไม่สูง ส่วนเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่ไทยกำลังเจรจาเปิดเสรี(เอฟทีเอ)กับกลุ่มประเทศอาหรับในขณะนี้นั้น ประเทศที่จะทำเอฟทีเอเป็นกลุ่มประเทศในอ่าวอาหรับ 6 ประเทศ ซึ่งไม่รวมอิสราเอล จึงไม่มีผลกระทบอะไร
   
  แหล่งข่าวจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การเจรจาเอฟทีเอไทยกับกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับที่กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าจะไม่มีผลกระทบ ยังจะเดินหน้าตามแผน แต่สำหรับการเจรจาเอฟทีเอกับอิสราเอล ยังไม่ได้เริ่ม แต่เป็นแผนสำหรับปีหน้า 2567 ซึ่งตอนนี้คงต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะการเปิดเจรจาเอฟทีเอต้องดูความพร้อมของทั้งสองฝ่าย
     
ทั้งนี้ ข้อมูลการค้าไทยกับอิสราเอล ช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.66 มีมูลค่า 856.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 1.1% โดยไทยส่งออกไปอิสราเอล 545.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 12.62% และนำเข้า 311.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 14.18% ในปี 2565 มูลค่ารวม การค้าไทย-อิสราเอล 1,401.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 10% โดยไทยส่งออกไปอิสราเอล 850.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 2.92% และนำเข้าจากอิสราเอล 551.66 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ขยายตัว 22.9% สินค้าส่งออกจากไทยไปอิสราเอลที่สำคัญ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋อง อัญมณีและเครื่องประดับ ตู้เย็นและส่วนประกอบ ข้าว เครื่องจักรและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากอิสราเอลอาทิ เครื่องเพชรพลอยและอัญมณี ปุ๋ย เครื่องจักรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบต่างๆ