“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...

ขอแสดงความอาลัย ต่อการอนิจกรรมของ ท่านอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย ได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์แล้ว เมื่อ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 10.32 นาฬิกา ...*...

ท่านอาศิสเป็นผู้นำกิจการศาสนาอิสลาม ที่ปฏิบัติภารกิจและดำเนินชีวิตที่สร้างคุณูปการนานัปการ และเป็นเสาหลักศูนย์รวมใจชาวมุสลิมในไทย และดำรงความเป็นกลางทางการเมือง ...*...

โดยในสมัยรัฐบาล คสช. ปี2557 แม้จะเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ได้ปฏิเสธการรับตำแหน่งนี้ดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ตำแหน่งจุฬาราชมนตรีเป็นผู้นำศาสนาอิสลามในไทย ไม่สมควรรับตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง เหนืออื่นใดคือท่านได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ...*...

 กรณี “เจ้าสัวเปรมชัย” เปรมชัย กรรณสูต  ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ หลังรับโทษ1ใน3 จากคดียิงเสือดำยังไม่ทันซา มาเจอ กรณี “เสี่ยแป้ง” ผู้ต้องหาคดีอุฉกรรจ์หลายดี ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำนครศรีธรรมราช แต่ “เสี่ยแป้ง” แกล้งป่วย วูบหมดสติเพื่อให้ถูกนำตัวส่ง รพ.มหาราชฯ ก่อนสบโอกาสหนีซ้ำเข้าไปอีก สะเทือนถึง ทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ...*...

 เอาจริงๆ ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ก็ทำตามสัญญาที่หาเสียงไปหลายอย่าง ทั้งลดค่าไฟ และลดราคาตั๋วงรถไฟฟ้า เหลือ 20 บาท ในสายสีแดงและสายสีม่วง แต่คนน่าจะไปจดจำ เรื่องที่โซเชียลกำลังเม้าธ์มอย เกี่ยวกับแฟชั่นของท่านผู้นำ ที่ภาพสวมถุงเท้าสีแดง และเนคไทสีแดง...*...

ปัญหาเรื่องการสื่อสารในภาวะวิกฤติก็ส่วนหนึ่ง แต่จัดวางคนให้ถูกกับงาน น่าจะเป็นปัญหาหลักโดยเฉพาะการสื่อสาร ของตัวผู้นำและองคาพยพในนามภาครัฐ ทำให้อดคิดถึง “ 3 ใบเถา” หรือ “3 แม่ครัว” อดีตทีมรองโฆษกรัฐบาล ยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้จริงๆ นายกฯนิดต้องคิดให้ไว จะเปลี่ยนแปลงก่อนหรือจะไปก่อนครบ 1 ปี อย่างที่ในตลาดการเมืองเค้าเม้าท์กันว่า คนรับไม้ต่อจ่อคิวแล้ว!!...*...

กัมมุนา วัตตติ โลโก   สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม วันก่อน สว.วันชัย สอนศิริ สะเทือนใจและเจ็บปวดหลังมีข่าวแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 11 คน ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด กรณี “ยึดสนามบิน”  กระทุ้งไปยังรัฐบาลเศรษฐา “...ไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยและนายกฯเศรษฐาที่ข้ามขั้วสลายความขัดแย้งจะรู้สึกอย่างไร กว่าจะเป็นรัฐบาล ก้าวข้ามคนบาดเจ็บล้มตายหลายร้อยหลายพันคน ตั้งแต่การชุมนุมต่อสู้ทางความคิดการเมือง ห้ำหั่นในสภานอกสภา นำมาสู่การรัฐประหาร 2ครั้ง แบ่งสีเกือบ 20ปี ผ่านการยึดกรุงเทพฯ ยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน และยึดอำนาจรัฐ คนตาย คนพิการ คนติดคุก คนอยู่ระหว่างดำเนินคดีมากมาย กลุ่มยึดอำนาจรัฐได้รับการนิรโทษกรรม แต่กลุ่มประชาชน ต้องรับเวรกรรมอยู่ แต่ละคนที่ลอยหน้าลอยตามีตำแหน่งอยู่ ทั้งที่ผ่านมาและในปัจจุบันไม่คิดช่วยเหลือบ้างหรือ นักต่อสู้พวกนี้ต่อสู้เพื่อตัวเอง ทุจริตคิดชั่ว เป็นโจรเลวทรามต่ำช้าหรือ ไม่ใช่เลย เขาทำเพื่อประเทศ ต่างแต่อุดมการณ์และความคิดเท่านั้น ...*...

 ณ วันนี้ เลิกได้ควรเลิก จบได้ควรจบอย่าถือสาหาความต่อกัน ไม่มีใครผิดถูกหรือดีกว่ากัน ยึดอำนาจรัฐ สาหัสสากรรจ์กว่าอีก ไม่เห็นเป็นอะไร ขอเรียกร้องรัฐบาลจะทำอะไรเรื่องนี้ก็รีบทำ อย่ามัวแต่แต่งตัวโชว์ไปมา หมดเวลาความขัดแย้งแล้วปรองดองให้จริงเสียที เป็นรัฐบาล มีอำนาจแล้ว ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน หรือจะรอให้เขายึดอำนาจรัฐอีกที”...*...

ที่มา:ศรพระราม (24/10/66)