ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บริษัท เวียตเจ็ท จอยท์ สต๊อค จำกัด รายงานผลประกอบการสามไตรมาสแรกประจำปี 2566 สู่การเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศที่ครอบคลุมทั่วทั้งทวีปเอเชีย-แปซิฟิก ในไตรมาสที่ 3/2566 เวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินกว่า 36,000 เที่ยวบิน และขนส่งผู้โดยสาร 6.8 ล้านคน รวมถึงผู้โดยสารระหว่างประเทศ 2.3 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสที่ 3 ก่อนการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในปี 2562 และเพิ่มขึ้นถึง 127% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ประเทศเวียดนามต้อนรับผู้โดยสารระหว่างประเทศผ่านสนามบินกว่า 23.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 267% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สายการบินสัญชาติเวียดนามขนส่งผู้โดยสารกว่า 11.5 ล้านคน โดย 51% หรือ 5.9 ล้านคนเดินทางกับสายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) ส่งผลต่อการท่องเที่ยวขาเข้าและการลงทุนระหว่างประเทศอย่างมาก

สำหรับฝูงบินของเวียตเจ็ทประกอบด้วยอากาศยาน 103 ลำ รวมถึงอากาศยาน 18 ลำที่ปฏิบัติการบินโดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท พร้อมด้วยอากาศยานใหม่ 2 ลำที่กำลังส่งมอบ สายการบินฯ ได้รายงานอัตราการใช้ที่นั่งโดยเฉลี่ยสูงกว่า 85% และอัตราความน่าเชื่อถือทางเทคนิคที่ 99.72%

พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศยานรวมอยู่ที่ 20,300 ตัน เพิ่มขึ้น 76% เทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 23% ของส่วนแบ่งตลาดการขนส่งสินค้าทางอากาศยานในอุตสาหกรรมการบินเวียดนาม

ขณะเดียวกัน เวียตเจ็ทตอบสนองความต้องการการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมในต่างประเทศด้วยเส้นทางระหว่างประเทศที่ครอบคลุมและมีส่วนช่วยในการพัฒนาการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนในระดับทวิภาคี รวมถึงกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม สายการบินได้เปิดเส้นทางระหว่างประเทศใหม่ 7 เส้นทางในไตรมาสที่ 3/2566 ส่งผลให้มีจำนวนเส้นทางบินทั้งหมด 125 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางบินภายในประเทศ 45 เส้นทาง และเส้นทางบินระหว่างประเทศ 80 เส้นทาง ถือเป็นสายการบินแรกที่มีเที่ยวบินเชื่อมต่อระหว่างเวียดนามและ 5 เมืองใหญ่ของออสเตรเลีย ได้แก่ เพิร์ธ แอดิเลด บริสเบน เมลเบิร์น และซิดนีย์

โดยเวียตเจ็ทรายงานรายได้บางส่วนและรายได้รวมอยู่ที่ 13,548 ล้านล้านดอง (ประมาณ 551.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 14,235 ล้านล้านดอง (ประมาณ 579.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ ในไตรมาสที่ 3/2566 เพิ่มขึ้น 32% และ 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรบางส่วนและกำไรโดยรวมหลังหักภาษีอยู่ที่ 579 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 23.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 55 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 2.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 175% และ 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ขณะที่ อัตราการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้น 201% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 57% ของรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารทั้งหมด และ 35% ของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารทั้งหมด

พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทยังให้ความสำคัญกับรายได้เสริมและการขนส่งสินค้าทางอากาศยานซึ่งมีอัตรากำไรค่อนข้างสูง รายได้รวมของบริษัทซึ่งสูงถึง 5,029 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 204.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) คิดเป็น 40% ของรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศทั้งหมดของสายการบิน และเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ 77% จากไตรมาส 3/2562

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 สินทรัพย์รวมของเวียตเจ็ทมีมูลค่ามากกว่า 76,500 พันล้านดอง (ประมาณ 3.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.5 เท่า ในขณะที่อัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 1.4 เท่า ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีของอุตสาหกรรมการบิน โดยเวียตเจ็ทยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และการท่องเที่ยว เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อถือได้สำหรับองค์กรที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2023 ยอดเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 2,077 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 84.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ยอดดังกล่าวรวมกับเงินทุนหมุนเวียนเน้นย้ำถึงความสามารถในการชำระหนี้สินของบริษัทได้อย่างทันที โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 เวียตเจ็ทได้จ่ายภาษีและค่าธรรมเนียมทั้งทางตรงและทางอ้อมเกือบ 3,750 พันล้านดอง (ประมาณ 152.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

อย่างไรก็ตามในระหว่างการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เวียตเจ็ทได้ลงนามข้อตกลงกับโบอิ้งในการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 แมกซ์ จำนวน 20 ลำ ซึ่งมีมูลค่า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังบรรลุข้อตกลงกับ Carlyle Aviation ในการจัดหาเงินทุนสำหรับเครื่องบินมูลค่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อีกทั้งด้วยกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืนและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เวียตเจ็ทดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก ในไตรมาสที่ 3/2566 เวียตเจ็ทบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับนักลงทุนสถาบันในเวียดนาม 3 รายที่ตกลงลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนเหล่านั้นช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการเงินของสายการบินจากการร่วมหุ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในการเติบโต การลงทุน การขยายเครือข่าย และการขยายฝูงบิน ธุรกรรมการลงทุนคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ของปี 2566 และด้วยการดำเนินงานและการพัฒนาอย่างมั่นคงส่งผลให้เวียตเจ็ทได้ยกระดับความน่าเชื่อถือสู่ VnBBB- จาก VnBB+ ด้วยแนวโน้มที่มั่นคงโดย Saigon Ratings ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถืออิสระแห่งแรกของเวียดนาม

รวมทั้งกลยุทธ์ในการสร้างทรัพยากรบุคคลด้านการบินให้ได้มาตรฐานสากล เวียตเจ็ทยังได้ลงทุนในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนากลุ่มผู้ฝึกสอนที่ Vietjet Aviation Academy (VJAA) ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 VJAA ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการและเป็นพันธมิตรการฝึกอบรมของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA)

จึงทำให้ เวียตเจ็ทประสบความสำเร็จได้รับรางวัลมากมายจากองค์กรทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อาทิ "สายการบินชั้นนำของเอเชียเพื่อประสบการณ์ของลูกค้า" จาก World Travel Awards รางวัล "แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด 100 อันดับแรกในเวียดนาม" และรางวัล "10 อันดำบแบรนด์ยอดนิยมที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปี 2566" ในขณะเดียวกัน Vietjet SkyJoy ได้รับรางวัล "ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่" จาก Better Choice Awards ด้วยการผสานเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงและบริการที่ครอบคลุม เวียตเจ็ทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงโปรแกรมประกันภัยการเดินทาง Sky Care ชั้นที่นั่งดีลักซ์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือขั้น และโปรแกรม "บินก่อน จ่ายทีหลัง" ซึ่งรองรับการชำระค่าบัตรโดยสารที่ยืดหยุ่น

ด้านโปรแกรมสมาชิก SkyJoy สำหรับลูกค้าของเวียตเจ็ทช่วยให้สมาชิกสามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์จากพันธมิตรชั้นนำกว่า 250 แบรนด์ในเวียดนาม หรือใช้แลกเป็นบัตรกำนัลบัตรโดยสาร รวมถึงเพลิดเพลินกับราคาบัตรโดยสารราคาพิเศษ ขณะนี้ เวียตเจ็ทมีสมาชิก SkyJoy กว่า 10 ล้านคนในไตรมาส 3/2566 ควบคู่กับความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การเดินทางแก่ผู้โดยสารชาวเวียดนามและชาวต่างชาติหลายล้านคนภายใต้แนวคิด "บินราวกับฝัน" เวียตเจ็ทยังให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในแต่ละท้องถิ่นที่สายการบินดำเนินการ

พร้อมกันนี้เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 เวียตเจ็ทได้เปิดตัวกองทุนฟลายกรีนภายใต้แนวคิด "ตั๋วสีแดงทุกใบเพื่อโลกสีเขียวหนึ่งใบ" โดยเวียตเจ็ทจะบริจาคเงิน 5,000 ดองเวียดนาม (ประมาณ 20 เซ็นต์สหรัฐ) จากการจำหน่ายบัตรโดยสารแต่ละใบแก่กองทุนเพื่อสนับสนุนกิจกรรมและโครงการด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไป