องคมนตรีติดตามโครงการด้านพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยนายศุภรัชต์ อินทราวุธ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา สำนักงาน กปร. คณะที่ปรึกษาฯ และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำบ้านสหกรณ์ 1 และอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โดยรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการ โอกาสนี้ องคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายและสร้างประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรในพื้นที่ จากนั้น พบปะเยี่ยมเยียนราษฎรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ และลงพื้นที่เยี่ยมชมพื้นที่โครงการ พร้อมร่วมปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างร่มเงาและความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ต่อไป

โครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำบ้านสหกรณ์ 1 และอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2562 เพื่อช่วยเหลือราษฎรอำเภอแม่ออน ซึ่งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร ตามที่ราษฎรขอพระราชทานพระมหากรุณา โดย กปร. ได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่กรมชลประทานดำเนินกิจกรรมงานขุดสระมีขนาดความจุที่ระดับน้ำเก็บกัก 100,000 ลูกบาศก์เมตร  ปัจจุบันสามารถส่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรบ้านสหกรณ์ 1 จำนวน 227 ครัวเรือน รวม 560 คน และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรประมาณ 255 ไร่ รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้แก่พื้นที่ราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ จำนวน 1 กลุ่มเพื่อร่วมกันบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

ช่วงบ่าย เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้ออันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ รับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการ และการป้องกันการพังทลายของ Slope สระ  การนี้ องคมนตรี ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการ และพบปะเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่  และร่วมปล่อยพันธุ์ปลาลงในอ่างเก็บน้ำ เพื่อขยายพันธุ์และเป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้แก่ราษฎรในพื้นที่ และร่วมปลูกต้นไม้เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้พื้นที่ต่อไป

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้ออันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2523 เกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ ซึ่งกรมชลประทานกำลังก่อสร้างในขณะนั้นความว่า "...ควรพิจารณาก่อสร้างให้สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างเต็มที่ และเสร็จโดยเร็วที่สุด..." เนื่องจากโครงการเกษตรกรรมจอมทองและพื้นที่ของราษฎรบริเวณใกล้เคียง รวมประมาณ 20,000 ไร่ ขาดแคลนน้ำมาก โดยกรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2525 เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง มีขนาดความจุ 2.6 ล้านลูกบาศก์เมตร  สามารถส่งน้ำช่วยเหลือและส่งเสริมพื้นที่เพาะปลูกในเขตโครงการเกษตรจอมทอง ซึ่งมีพื้นที่ชลประทาน 11,549 ไร่ ราษฎรจำนวน 1,305 ครอบครัว โดยมีผลผลิตทางการเกษตร เช่น ลำไยมีผลผลิตเฉลี่ยจำนวน 700 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวมีผลผลิตเฉลี่ยจำนวน 646 กิโลกรัมต่อไร่ มะม่วงมีผลผลิตเฉลี่ยจำนวน 1,600 กิโลกรัมต่อไร่ และพืชผัก (หลังนา) เช่น พริก ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ มันสำปะหลัง เป็นต้น ต่อมามีพระราชดำริเพิ่มเติมความว่า "ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำในลำน้ำแม่ตื่น เพื่อเก็บกักน้ำแล้วผันน้ำลงไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน" ซึ่งกรมชลประทานได้พิจารณาวางโครงการเป็นฝายทดน้ำ เพื่อที่จะทดระดับน้ำใช้การให้มีระดับสูงพอที่จะผันน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ

ประโยชน์ที่เกิดขึ้นสามารถใช้เป็นอาคารทดน้ำจากลำน้ำแม่ตื่น แล้วผันน้ำข้ามลุ่มนํ้าไปสู่อ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ ซึ่งในแต่ละปีมีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยมาก ไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่ชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ ประมาณ 11,549 ไร่ และสำหรับการอุปโภคบริโภคของราษฎร ประมาณ 1,305 ครัวเรือน และใช้เลี้ยงสัตว์ของราษฎรบ้านแม่ตื่น ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรเป็นแหล่งปลูกลำไย และมะม่วงคุณภาพดี สร้างผลผลิตและรายได้ให้แก่เกษตรในพื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และในปี 2564 ได้มีการจัดตั้งกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำโป่งจ้อ ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้น สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ได้แก่ 1) ปรับปรุงฝายแม่ตื่นพร้อมอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 2) ปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำฝั่งขวา เปลี่ยนท่อของระบบผันน้ำเดิมจากท่อ HDPE เป็นท่อเหล็กเหนียว 3) โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ (เพิ่มเติม)

กองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร.