ปปง.สรุปดำเนินการคดีสำคัญ ยึดอายัดทรัพย์ 16 คดี ยึดอายัดทรัพย์กว่า 1.4 พันล้าน ส่วนคดีหมูเถื่อนรวม 24 รายการ มูลค่ากว่า 53 ล้าน ขณะท่คดีหุ้นสตาร์ค ยึดทรัพย์รวม 349 ล้านบาท พร้อมเร่งสรุปสำนวน ภายในเดือน พ.ย.นี้

    
 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย.66 เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง.  ,นายวิทยา นีติธรรม โฆษก ปปง. และพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงผลการดำเนินงาน 
    
 โดย นายวิทยา เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 11/2566 เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งได้ดำเนินการกับทรัพย์สิน 1,333 รายการ 60 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 2,559 ล้านบาท และมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน 26 รายคดี อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ปปง.ได้สรุปรายคดีสำคัญอันเป็นที่สนใจของประชาชนคือได้ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 16 รายคดี ทรัพย์สิน 430 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 1,422 ล้านบาท สำหรับข้อมูลรายคดีสำคัญดังนี้ 1.ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ปปง. ได้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมจำนวน 42 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 64 ล้านบาท อาทิ รายคดีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด นายทุน มิน หลัด (TUN MIN LATT) กับพวก โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวรวมจำนวน 24 รายการ เป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท การอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีระยะเวลาคือ 90 วัน  
   
  2.ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ปปง. ได้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวรวมจำนวน 17 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 374 ล้านบาท อาทิ รายคดีของ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยคณะกรรมการมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 16 รายการ เป็นเงินสด เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร หลักทรัพย์ และสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 349 ล้านบาท 
    
 พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการยึดอายัดทรัพย์คดีหมูเถื่อนว่า คณะกรรมการธุรกรรม ได้สั่งยึดอายัดทรัพย์ในคดีหมูเถื่อน 24 รายการ เป็นที่ดิน บ้าน รถยนต์ รวมมูลค่า 31 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีรวม 22 ล้านบาท รวมทั้งหมด ยึดอายัด 53 ล้านบาท ปัญหาคือมีการตรวจพบการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนที่จับได้กว่า 2,300 ตู้ มาตั้งแต่ปี 64-65 ทำให้ต้องตรวจสอบย้อนหลังจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาดำเนินการ
    
 ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีหุ้นสตาร์ค ว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เร่งรัดให้สอบสวนต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ ก.ล.ต. ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อบริษัท สตาร์คฯ และกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม รวมถึงกลุ่มบริษัทลูกข่ายต่างๆ ซึ่งการสอบปากคำนั้น คณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำแล้วทั้งสิ้น 160 ราย และได้รวบรวมพยานหลักฐานขยายผลอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสามารถแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาแล้ว 11 ราย แบ่งเป็น บุคคลธรรมดา 6 ราย และนิติบุคคลอีก 5 ราย และได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย ทั้งนี้ ยืนยันคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว จะเร่งรัดสรุปสำนวนการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้
    
 นายวิทยา กล่าวเสริมว่า สำหรับการดำเนินการของสำนักงาน ปปง. ในจำนวนที่เราได้ยึดอายัดไว้ 349 ล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่เป็นเงินสด เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร หลักทรัพย์ เพราะเป็นทรัพย์สินที่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนได้ และแม้มูลค่าความเสียหายจะมีจำนวนมาก แต่เราก็ต้องยกเครดิตให้ก.ล.ต. เพราะก.ล.ต. ได้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการอายัดทรัพย์จำนวนหนึ่งไว้พอสมควร หลังจากนี้ เราต้องเอาทรัพย์สินที่ได้ยึดอายัดไว้ไปพิจารณาว่าเป็นทรัพย์สินที่มีการตระเตรียมสำหรับกระทำความผิดหรือไม่ หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
   
  ทั้งนี้ รายการทรัพย์สินมีจำนวนมาก อาจมีความสลับซับซ้อน มีการจำหน่ายจ่ายโอนไปหลายทอด จึงต้องมีการคัดกรองทรัพย์สิน แต่ขอให้ผู้เสียหายสบายใจได้ว่าทรัพย์สินล็อตแรกนี้ที่เราได้อายัดไว้ ยังไม่ได้ถูกจำหน่ายจ่ายโอนไปไหน ส่วนทรัพย์สินในล็อตที่สองกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยเราจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งที่อยู่ภายในประเทศและที่ไหลออกไปภายนอกประเทศ คาดว่าต้องใช้เวลาในการดำเนินการสักระยะ