เมื่อวันที่ 20 พ.ย.66 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้พิการชาวจีน ที่ถูกตัดมือ น้ำกรดราดศีรษะเสียโฉม นั่งขอทานหน้าห้างดังย่านปิ่นเกล้าคาดว่าเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ข้าม ว่า กรณีสตรีขอทานชาวต่างชาติ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานงานกับหลายหน่วยงาน เนื่องจากถ้าเป็นคนไทยก็จะเป็นกรณีหนึ่งแต่เมื่อเป็นต่างชาติจะมีความละเอียดอ่อนเพิ่มขึ้นเนื่องจากจะต้องดูในมิติของเรื่องการค้ามนุษย์ด้วยว่าขอทานที่เป็นสุภาพสตรีนั้นโดนแสวงหาประโยชน์หรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องมีการสืบสาวกันพอสมควร เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนระหว่างประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นนี้จะต้องตรวจสอบก่อนว่าเข้าเมืองมาอย่างไร มีเอกสารหรือไม่ ทางพม. ต้องประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง หน่วยงานด้านความมั่นคง และประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบลักษณะของขอทานนี้ว่าถูกใช้ประโยชน์ ด้วยการโดนขู่เข็ญ โดนทำร้ายอย่างไรในการนำมาหาประโยชน์หรือไม่ ต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดเพื่อหาทางดำเนินการต่อไปให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้สังคมประเมินว่าเป็นขบวนการข้ามชาติ นายวราวุธ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเข้าข่ายเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งประเทศไทยให้ความสำคัญและเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง และจะดำเนินการโดยเด็ดขาดหากจับได้และสืบสาวราวเรื่องให้ไปถึงต้นตอ เพราะทราบว่ามีล่ามคนไทยอยู่ด้วย หากใครทราบเบาะแสหรือพบเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องก็ขอให้ส่งข้อมูลมาที่พม. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ 

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ที่รัฐมนตรีจะสายตรงประสานงานกับทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยตัวเอง เพื่อวางกรอบการทำงานร่วมกันในการขยายผลเรื่องดังกล่าว นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงพม.กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องนานหลายปีแล้ว และเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้มีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับและติดตามการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 3/2566 เพื่อทำรายงานส่งต่างประเทศทุกปี โดยพม. ทำงานร่วมกับกระทรวงแรงงานและตำรวจมานานแล้วเพื่อจัดทำรายงานสรุปรอบปีเพื่อส่งต่างประเทศ โดยประกอบด้วย 3 ด้านคือการบังคับใช้กฎหมาย การปกป้องและคุ้มครองสิทธิ และด้านการป้องกัน อย่างไรก็ตามในกรณีนี้พม.กับตร.เป็นหน่วยงานที่ร่วมกันทำงานมายาวนานอยู่แล้ว

“เมื่อเห็นข่าวที่เกิดขึ้นกระทรวง พม. ไม่ได้นิ่งนอนใจแน่นอน เพราะทุกปีเราจะโดนต่างประเทศประเมินดังนั้นการดำเนินการอย่างเด็ดขาดและในทันทีไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาลพิจารณาคดี ตำรวจเร่งจับดำเนินคดี ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเราเร่งดำเนินการอยู่ตลอด และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำงานช่วยกันเพราะท้ายที่สุดส่งผลกระทบต่อสถานะประเทศไทยว่าจะอยู่ในเธียร์2 หรือ1หรือ3 ขอฝากพี่น้องประชาชนเพราะสถานที่ที่ขอทานจะอยู่นั้นส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่พลุกพล่าน เพราะเขาต้องเลือกจุดที่มีคนเดินทางสัญจรไปมา ยิ่งถ้าเป็นนักท่องเที่ยวก็ยิ่งดีใหญ่ ซึ่งบางรายมีรายได้เดือนละนับหมื่นบาท เดือนหนึ่งรวมๆแล้วนับล้านบาท ดังนั้นหากใครพบเห็น ขอทานที่มีท่าทางแปลกๆ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่มากระทรวงพม.จะเร่งส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปดำเนินการ“ นายวราวุธ กล่าว