นางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายต่อเนื่องในการส่งเสริม Soft Power และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเฉพาะการตั้งเป้าหมายว่าประเทศไทยจะต้องเป็นผู้นำในด้านเฟสติวัลของโลก ดังนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท.จึงขานรับนโยบายดังกล่าว โดยได้ Kick off กิจกรรมสำคัญ ภายใต้ Thailand Winter Festival งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566 ที่ คลองผดุงกรุงเกษม ย่านหัวลำโพง กรุงเทพมหานคร ถือเป็นเทศกาลแรกในฤดูกาลท่องเที่ยวและเป็นช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 299,730 คน-ครั้ง และรายได้ทางการท่องเที่ยว 1,215 ล้านบาท 

โดนปีนี้ ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความสุขรับประเพณีลอยกระทง เน้นย้ำความสุขและความงดงามของ “วิถีไทย” พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางคลองในเมืองหลวงให้กลับมามีชีวิตชีวา ด้วยการแต่งแต้มสีสันคลองผดุงกรุงเกษมในคืนวันเพ็ญ ภายใต้แนวคิด Moonlight Reflection Loi Krathong Along the Canal    จัดเต็มไฮไลต์การแสดงแสงเสียง Lighting Illumination Show ผ่านกระทงประดับไฟ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานประเพณี 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ โคมล้านนา สัญลักษณ์ของประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, กระทงใบลาน สัญลักษณ์ของประเพณีเผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, กระทงจากกะลามะพร้าว สัญลักษณ์ของประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง จังหวัดตาก, กระทงกาบกล้วย สัญลักษณ์ของประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย จังหวัดสมุทรสงคราม และกระทงรวงข้าว สัญลักษณ์ของประเพณีสมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างการรับรู้ถึงคุณค่าของประเพณีไทย เช่น การแสดงทางวัฒนธรรม  กิจกรรมสาธิตอาหารชาววังและกระทงเอกลักษณ์ 5 พื้นที่ รวมทั้งตลาดย้อนยุครัตนโกสินทร์จัดจำหน่ายอาหารไทยให้ได้เลือกซื้ออย่างเพลิดเพลิน

สำหรับเทศกาลลอยกระทงปีนี้ ททท. ตั้งใจส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience ที่มีคุณค่าและความหมายแก่นักท่องเที่ยว พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเพณีลอยกระทงมิติใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบสู่ความยั่งยืน (Sustainable Tourism) จึงรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ 1 ครอบครัว 1 กระทง เพื่อลดปริมาณกระทงในช่วงเทศกาล รวมทั้งภายในพื้นที่จัดงานมีการบริหารจัดการขยะจากกระทง และให้นักท่องเที่ยวร่วมสืบสานประเพณีไทยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรม DIY ประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระทงกะลามะพร้าว กระทงใบลาน กระทงกาบกล้วย 

นอกจากนี้ ททท. ยังได้สนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีลอยกระทง 5 พื้นที่อัตลักษณ์ทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด ทั้งได้ให้ความร่วมมือของภาคเอกชนร่วมจัดงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF ETERNAL PROSPERITY  ลอยกระทงบนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง และงาน Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ณ 10 พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ท่ามหาราช ท่ายอดพิมาน ล้ง 1919 สุขสยาม และเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ และขอเชิญชวนสัมผัสประสบการณ์งานประเพณีลอยกระทงในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ อาทิ งานประเพณีลอยกระทงตาลปัตร 2566 จ.พระนครศรีอยุธยางานประเพณีลอยกระทงย้อนยุค จ.ลพบุรี ประเพณีล่องสะเปาจาวละกอน จ.ลำปาง เทศกาลโคมแสนดวง จ.ลำพูน เทศกาลลอยพระประทีปพระราชทานสิบสองเพ็งไทสกล กระทงดอกผึ้ง จ.สกลนคร ท่องเที่ยววิถีภูเก็ต ลอยกระทง ริมเลพานหิน จ.ภูเก็ต เป็นต้น

 

ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้เยี่ยมชาวไทยในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมชาวไทยประมาณ 2.04 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวอยู่ที่ 6,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อันจะช่วยให้เกิดการเติบโตของท่องเที่ยว สร้างโอกาสทางธุรกิจ และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตต่อไป