คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์  เศรษฐช่วย

สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและกลุ่มนักรบติดอาวุธฮามาส เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่  7 ตุลาคม 2023 โดยขณะนี้ผ่านไป 7 สัปดาห์แล้ว และได้กลายเป็นวิกฤตทางการเมืองอีกจุดหนึ่งของโลกเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2023 ปรากฏว่าสงครามเพิ่งหยุดพักรบไปชั่วคราว ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลนี้ ผมคิดว่าควรค่าแก่การวิเคราะห์เป็นอย่างมากในบางประเด็น!!!

ในอดีตปาเลสไตน์มีบทบาทสำคัญในทางประวัติศาสตร์ โดยในศตวรรษที่ 4 จักรวรรดิโรมันได้ตั้งอาณานิคมปาเลสไตน์เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์

และหากเราดูแผนที่ก่อนปีค.ศ. 1947 จะเห็นว่า พื้นที่ในเขตแดนของอิสราเอลในยุคปัจจุบันนี้เคยเป็นดินแดนของปาเลสไตน์มาก่อน

แต่ในขณะนี้พื้นที่ๆเป็นส่วนของปาเลสไตน์มีเหลือเพียงบริเวณ “ฉนวนกาซา” แค่  360 ตารางกิโลเมตร ที่ตั้งอยู่ในแถบชายฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

อนึ่งฉนวนกาซาเคยอยู่ในความครอบงำของอียิปต์ ที่อียิปต์มิได้ผนวกรวมเอาเป็นแผ่นดิน จนกระทั่งอิสราเอลชนะสงคราม 6 วัน อิสราเอลจึงเข้ายึดครอง

แต่ในปีค.ศ. 1993 อิสราเอลและปาเลสไตน์ได้ตกลงกันว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์มีอำนาจปกครองในเขตฉนวนกาซาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอาณาเขตบริเวณฉนวนกาซาจึงเป็นเขตอิทธิพลของฮามาสตราบกระทั่งทุกวันนี้ โดยขณะนี้มีจำนวนประชากร 2.3 ล้านคน แถมยังเป็นดินแดนแห้งแล้งทุรกันดาร

ส่วนทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน หรือที่เรียกว่า “เขตเวสต์แบงก์ (West Bank) ที่มีพื้นที่ 5,640 ตารางกิโลเมตร ที่ห่างจากฉนวนกาซาเพียง 93 กิโลเมตร

และแสนจะพิสดารจริงๆที่แผ่นดินของปาเลสไสตน์มิได้ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน

อย่างไรก็ตามในปีค.ศ. 1948 “ประธานาธิบดีแฮร์รี ทรูแมน” แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศ สนับสนุนรับรองการสถาปนาให้อิสราเอลเป็นประเทศเอกราชภายหลังจากที่ชาวยิวได้กระจัดกระจายไปทั่วโลกหลายศตวรรษ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าปาเลสไตน์จะควบคุมดินแดนในแถบฉนวนกาซาแล้วก็ตาม แต่ครอบครองได้แค่เพียงร้อยละ 70 เท่านั้น เพราะพื้นที่ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 30 เป็นที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ของนิคมชาวยิว

ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ชาวปาเลสไตน์ถูกเอารัดเอาเปรียบจากอิสราเอลมาโดยตลอด โดยบ้านของพวกเขาต้องถูกยึดและถูกทำลาย ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามครั้งแล้วครั้งเล่า และที่ผ่านมาชาวปาเลสไตน์ต้องถูกทหารอิสราเอลคร่าชีวิตอย่างมากมาย จึงเป็นที่มาทำให้ชาวปาเลสไตน์ต้องลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อสู้ และเป็นการก่อกำเนิด “กลุ่มนักรบติดอาวุธฮามาส”ที่เกิดสงครามกับอิสราเอลถึงห้าครั้ง!!!

กลุ่มนักรบติดอาวุธฮามาส ของชาวปาเลสไตน์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นขบวนการต่อต้านอิสราเอลโดยตรง

การโจมตีของกลุ่มฮามาสที่มีต่ออิสราเอล ก็มิได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะกลุ่มฮามาสทำการซ้อมรบติดต่อกันมาหลายเดือน ก่อนที่จะเปิดฉากโจมตีอิสราเอลด้วยซ้ำไป

อนึ่งภายหลังที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลสิบวันต่อมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้เดินทางไปพบและกล่าวให้กำลังใจต่อ “นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู”หลังจากกลุ่มฮามาสเข้าโจมตีอิสราเอล 

แต่ในทางกลับกันในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ต้องถูกคร่าชีวิตไปกว่า 3,400 คน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ปาเลสไตน์แค่เพียง 100 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากนั้นก็มิได้แสดงบทบาทอะไร แถมตอนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเดินทางกลับไปถึงสหรัฐฯ เขายังออกมากล่าวแถลงในทำนองที่ว่า “อิสราเอลมีสิทธิโดยความชอบธรรมในการปกป้องตนเอง”

และหากดูความช่วยเหลือที่สหรัฐฯมอบให้แก่อิสราเอลนั้น นับว่ามากที่สุดกว่าทุกๆประเทศในโลก ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาล ทั้งนี้อาจจะเนื่องมาจากอิสราเอลมีกลไกด้านการประชาสัมพันธ์ที่เหนือกว่า อาทิเช่น ระหว่างปีค.ศ. 1951-2022 สหรัฐฯช่วยเหลืออิสราเอลเป็นจำนวนเงินถึง 317.9 พันล้านดอลลาร์ และในปีค.ศ. 2022 สหรัฐฯก็ช่วยเหลืออิสราเอลอีก 3.3 พันล้านดอลลาร์ 99.7% ซึ่งเป็นการช่วยเหลือด้านการทหาร

อย่างไรก็ตามการที่กลุ่มนักรบติดอาวุธฮามาสจับตัวประกันไปเป็นจำนวนมากนั้น สิ่งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำได้ก็แค่เพียงยกหู โทรศัพท์คุยกับ “ชีค ทามีม บิน ฮาหมัด อัลธานี”ประมุขแห่งรัฐกาตาร์ , “นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู” แห่งอิสราเอล ,และ“ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตอห์ เอล-ซิซี” แห่งประเทศอียิปต์ ติดต่อกันหลายครั้งหลายหน

และจากผลของการหยั่งเสียงที่สำรวจโดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2023 เกี่ยวกับท่าทีของชาวอเมริกันในเรื่องราวที่อิสราเอลสู้รบตอบโต้กับกองกำลังฮามาส ปรากฏว่า 50% เห็นพ้องด้วย และ 75% ของคนอเมริกันเล็งเห็นว่า หากสงครามอิสราเอลและฮามาสดำเนินต่อไป ก็อาจจะส่งผลร้ายที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

อนึ่งส.ส.ราชิดา ทลายบ์ ซึ่งมีเชื้อสายปาเลสไตน์คนแรกที่ได้รับเลือกเข้าสู่สภาผู้แทนฯของสหรัฐฯซึ่งขณะนี้เธอได้ออกมาวางตัวเป็นกระบอกเสียงให้แก่ชาวปาเลสไตน์ แต่เมื่อใดก็ตามที่เธอออกมากล่าววิพากษ์วิจารณ์โจมตีอิสราเอล บรรดาเพื่อนๆสมาชิกในสภาคองเกรสต่างก็ออกมาแสดงความไม่พอใจ ต่างเรียกร้องให้ขับไล่เธอออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนฯของสหรัฐฯ!!!

ใครบ้างคือตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไป?

ตัวประกันทั้ง 240 คนที่ถูกจับเป็นเชลย ส่วนใหญ่อาศัยในเมืองต่างๆตามแนวชายแดนของอิสราเอลที่มีอาณาเขตติดกับฉนวนกาซา

จากสำนักข่าวเอพีและสำนักข่าวรอยเตอร์ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2023 ได้ออกมาเปิดเผยว่า พี่น้องคนไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกันมีประมาณ 32 คน

ขณะนี้มีคนไทยที่เดินทางเข้าไปทำงานในอิสราเอลมากกว่า 3,000 คน โดยส่วนใหญ่ทำงานด้านเกษตรกรรม

และเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023  กองทัพอิสราเอลได้เปิดเผยว่า พบศพผู้หญิงสองคนวัย 69 ปี และวัย 19 ปีใกล้ๆกับโรงพยาบาลอัล-ชิฟาในเมืองกาซา โดยที่ผ่านมาทั้งคู่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน!!

อนึ่งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2023 มีข่าวที่น่ายินดีว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสตกลงจะขยายเวลาหยุดยิงสงบศึกในฉนวนกาซาเพิ่มไปอีก 2 วัน เพื่อหาหนทางแลกเปลี่ยนตัวประกันที่ยังมีเหลืออยู่

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นถึงแม้ว่ากลุ่มนักรบติดอาวุธฮามาส จะปล่อยตัวเชลยที่จับไปเป็นตัวประกันชุดสุดท้าย ตามมาด้วยการที่ทั้งสองฝ่ายต่างทำข้อตกลงที่จะขยายเวลาสงบศึกต่อไปอีกสองวันกันแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าอิสราเอลตั้งใจและต้องการจะบีบบังคับให้กลุ่มฮามาสถอนตัวออกไปจากฉนวนกาซา ซึ่งดูๆไปแล้วมิใช่เรื่องง่ายๆ เพราะกลุ่มฮามาสครอบครองดินแดนนี้มาอย่างยาวนาน เท่ากับว่าทุกๆอย่างในสงครามครั้งนี้ ยังไม่มีอะไรแน่นอน และโอกาสที่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสจะปะทุจนต้องออกมาต่อสู้กันอีกครั้ง ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ที่อาจจะขยายจนกลายเป็นสงครามในวงกว้างขึ้นไปอีก ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ให้การสงบสงครามชั่วคราวในครั้งนี้ แปรเปลี่ยนเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายจะหันหน้ามาเจรจายุติสงครามกันแบบถาวรละครับ