รมว.ต่างประเทศ ยอมรับกังวลเรื่องปล่อยตัวประกันคนไทยที่เหลือกลับประเทศ เหตุความรุนแรงในอิสราเอลยังไม่สงบ เร่งประสานรมต.หลายประเทศช่วยดำเนินการ  กมธ.ตปท." ห่วงตัวประกัน-คนไทย 2 หมื่นกว่าคนที่ยังไม่กลับบ้าน
       
     
ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.66 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ของกรมการกงสุล ถึงความคืบหน้าเรื่องการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในประเทศอิสราเอล ว่า ตอนนี้เราทำงานไม่หยุดหย่อนในการนำตัวประกันอีก 9 คน กลับมา ล่าสุดได้ติดต่อกับรัฐมนตรีในหลายประเทศที่เคยประสานกันไว้ เขาก็ดำเนินการเช่นเดิมเพื่อให้นำตัวประกันออกมาจากพื้นที่ฉนวนกาซา
    
 ในส่วนการขยายระยะเวลาในการหยุดยิงเพื่อปล่อยตัวประกันนั้น ตอนนี้ก็ยังยิงกันอยู่ ในช่วงที่ตนเดินทางกลับมาก็เริ่มยิงกัน ซึ่งตอนที่ไปที่ประเทศอิสราเอลยังพูดคุยกับทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟว่าที่ตนมาก็สงบ ไม่ต้องอยู่ในหลุมหลบภัย แต่หลังจากกลับมาก็ได้รับรายงานทันทีว่ายิงกันอีกแล้ว ซึ่งตรงนี้เรามีความเป็นห่วงและเป็นกังวลมาก หากยิงกันอยู่ก็คงยังไม่ปล่อยตัวประกันในเวลานี้ เนื่องจากว่าการเดินทางอาจไม่ปลอดภัย แต่ก็มีความหวังอย่างยิ่งว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นใหม่
    
 นายปานปรีย์ กล่าวว่า ส่วนการลงพื้นที่เยี่ยม นายอนุชา อ่างแก้ว ตัวประกันที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับมาประเทศไทยที่บ้าน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ในช่วงบ่ายวันนี้ ถือเป็นโอกาสที่ได้เดินทางมาที่นี่ ซึ่งส่วนตัวได้พบตัวประกันชาวไทยมาไม่กี่วันก่อนหน้า และยังไม่มีโอกาสได้พบกับครอบครัว จึงอยากเดินทางไปเยี่ยมและรับฟังว่ากลับมาแล้วอยู่สุขสบายหรือไม่ มีปัญหาอะไรที่อยากให้ช่วยสนับสนุนหรือดูแล เราก็พร้อมทำต่อ
   
  นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะกมธ.ได้ประชุมหารือประเด็นสถานการณ์สู้รบในกาซา และความปลอดภัยของแรงงานไทยอย่างต่อเนื่องโดยกมธ.ขอแสดงความยินดีกับคนไทยที่ได้รับอิสรภาพและเดินทางกลับไทยแล้ว แต่กังวลใจว่าตัวประกันคนไทยจำนวนหนึ่งยังไม่ได้รับการปล่อยตัว และการยุติการหยุดการสู้รบชั่วคราวได้ยุติลงแล้ว โดยกมธ.มีความเห็นและท่าทีต่อสถานการณ์ดังนี้ 1.แสดงความห่วงใยถึงสวัสดิภาพของตัวประกันคนไทยที่รอการปล่อยตัว กมธ.ขอสนับสนุนรัฐบาลทุกประเทศและฝ่ายต่างๆในการช่วยเหลือให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว 2.กมธ.เคารพการตัดสินใจของแรงงานไทย 20,000 กว่าคนที่ไม่เดินทางกลับไทย และขอให้ทุกคนปลอดภัยและคาดว่าการทำงานและสวัสดิภาพจะได้รับการดูแลจากนายจ้างและทางการอิสราเอลเป็นอย่างดี 3.กมธ.ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนคนไทยจากหลายพรรคการเมืองสนับสนุนสันติภาพและการหาข้อยุติความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ด้วยการทูตและกฎบัตรและข้อมติของสหประชาชาติ และเรียกร้องทุกฝ่ายให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ
    
 "สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการต่อไปคือการดูแลการจ้างงานของผู้ที่เดินทางกลับจากอิสราเอลหลายพันคนและการเตรียมการในการกลับไปทำงานถ้าสถานการณ์การสู้รบยุติลง