สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภายหลังสิ้นสุดข้อตกหยุดยิงชั่วคราว หรือพักรบ ทางกองทัพอิสราเอล หรือกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ” ได้เปิดฉากโจมตีอย่างหนักหน่วงขึ้น ทั้งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ และปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินในพื้นที่ฉนวนกาซา โดยมีเป้าหมายเพื่อกำจัดกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์ในพื้นที่ดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดช่วง 3 วันเป็นต้นมา นับตั้งแต่สิ้นสุดข้อตกลงพักรบ กองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนัก โดยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศข้างต้น นอกจากมีเป้าหมายพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้ว ก็ยังลุกลามไปยังตอนใต้ของฉนวนกาซาด้วย ก่อนที่กองทัพอิสราเอล จะระดมกำลังของไอดีเอฟ ลงปฏิบัติภารกิจภาคพื้นดินในพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซาด้วย สร้างความวิกตกกังวลให้แก่ภาคส่วนต่างๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อบรรดาผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ที่หลบหนีการสู้รบจากพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ไปยังตอนใต้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า จุดที่สู้รบอย่างหนักหน่วงรุนแรงที่สุด ได้แก่ เมืองข่านยูนิส ซึ่งเมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่รองรับผู้อพยพชาวปาเลสไตน์จำนวนหลายแสนคนจากพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา โดยก่อนการสู้รบอย่างรุนแรงจะเริ่มขึ้นทางอิสราเอลได้ประกาศแจ้งเตือนพลเรือนที่อพยพในพื้นที่ดังกล่าว ก่อนที่จะเปิดฉากโจมตี ซึ่งมีรายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้ระดมรถถังเข้าไปปฏิบัติภารกิจด้วย

พร้อมกันนี้ โฆษกกองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า ทหารอิสราเอลที่ปฏิบัติการรบภาคพื้นดินได้ทำลายที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธฮามาสทั่วฉนวนกาซา ทั้งในพื้นที่ตอนเหนือและตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยในบางจุดทหารอิสราเอลได้ประจันหน้ากับกลุ่มติดอาวุธฮามาสด้วย

ทางด้าน ตัวแทนของกลุ่มฮามาสในเลบานอน เปิดเผยว่า จากปฏิบัติการโจมตีของกองทัพอิสราเอลดังกล่าว ทำให้ในเวลานี้ไม่มีพื้นที่ใดฉนวนกาซาหลงเหลือเป็นพื้นที่ปลอดภัยแล้ว