นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์" ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจากซาอุดิอาระเบียปีนี้เติบโตสูงมาก เข้ามาเมืองไทยแล้วกว่า 180,000 คน ซึ่งเกินกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ ที่ 150,000 คน โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะนิยมมาเป็น ครอบครัว มาเป็นคู่ และมีกำลังในการใช้จ่ายรวมถึงใช้เวลาในประเทศไทยเป็นเวลานาน ดังนั้นทาง ททท.จึงตั้งเป้าทำการตลาดนี้เพิ่มขึ้น 100%  

ซึ่งที่ผ่านมา นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูง นำโดย ประธานกรรมการ Mr. Mohammed Alkhalil และ Mr. Farhad Alobailan (Chief Tourism Officer) และคณะ ของบริษัท Almosafer ซึ่งเป็นแบรนด์บริษัทท่องเที่ยว OTA อันดับหนึ่งของประเทศซาอุดีอาระเบีย และคูเวต ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดติด 1 ใน 3 ของภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาทางตอนเหนือ (MENA) มีประสบการณ์การด้านการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนานมากกว่า 40 ปี มีโรงแรมพันธมิตรในระบบกว่า 1.5 ล้านแห่งทั่วโลก มีพันธมิตรสายการบินกว่า 450 สายการบิน เป็นการแลกเปลื่ยนข้อมูลเชิงลึก เพื่อวางแผนการตลาดร่วมกันในปี 2567 ให้ดำเนินไปได้ตามเป้าที่วาง

อีกทั้งนางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า นอกจากจาก OTA แล้ว สายการบินก็คือ อีก 1 ห้องหัวใจ ที่มีความสำคัญมาก ในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ  ซึ่งการ ได้พบปะและหารือร่วมกับผู้บริหารสายการบิน Saudia (SV) ได้แก่  Mr. Wail Basaffar, Assistant Vice President Sales KSA และ Mr. Abdulrahman Alabdulwahab, General Manager Sales: Central Region ณ โรงแรม Hyatt Regency Olaya กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อหาความร่วมมือในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายประเทศไทย รวมถึงการขยายความร่วมมือระดับ Global Campaign กับสายการบิน Saudia และขับเคลี่ยนการท่องเที่ยวร่วมกันทั้งในมิติ B2B และ B2C  

 

สำหรับการขับเคลี่ยนการท่องเที่ยวร่วมกันทั้งในมิติ B2B และ B2C ประกอบด้วย 1.เพิ่มเส้นทางบินไปยัง Destinations ใหม่ๆ ของประเทศไทย อาทิ ริยาด- ภูเก็ต 2. การประชาสัมพันธ์ประเทศไทยผ่านสื่อช่องทางต่างๆ อาทิ in-flight VDO เพื่อเจาะกลุ่ม segment ต่างๆ ทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้าน Marketing Promotion: Two Kingdoms One Happiness (เชื่อม Dead Sea กับ ทะเล Phuket) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เตรียมเปิด ททท.สำนักงานริยาด เชิญเข้าร่วงาน TTM+ ฯลฯ ซึ่งจะสามารถกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวซาอุฯให้เดินทางไปประเทศไทยเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งแนะนำ บัตร Thailand Privilege Card เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดึงกลุ่ม นักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามา

ทั้งนี้ สายการบิน SAUDIA (SV) เป็นสายการบินแห่งชาติ หรือชื่อเดิมใช้ชื่อว่า Saudi Arabian Airlines มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ เมืองเจดดาห์ (JED) และมี Hub การบินอีก 2 แห่ง ณ กรุงริยาด (RUH) และเมืองดัมมัม (DMM)โดยในปัจจุบันมี H.E. Mr. Saleh Aljasser เป็นประธานบริษัท (Chairman) สายการบิน Saudia นับเป็นสายการบินขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ในมิติของการสร้างรายได้ ของภูมิภาคตะวันออกกลาง ตามหลังเพียงสายการบิน Emirates และ Qatar Airways ตามลำดับ

โดยที่ผ่านมา ททท. ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) ในการส่งเสริมตลาดตะวันออกกลางร่วมกับสายการบิน Saudia ณ Saudia Headquarters เมืองเจดดาห์ โดยบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ครอบคลุมถึงการขยายความร่วมมือระดับ Global Campaign เน้นสินค้าและบริการด้าน Niche Market ของประเทศไทย ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวไทยในการเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางและแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) ในตลาดราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย  ในปัจจุบัน SV มีเที่ยวบินมาประเทศไทยสำหรับ Winter Schedule เส้นทางเจดดาห์-กรุงเทพ จำนวน 7 เที่ยวบิน/ สัปดาห์ และเส้นทางริยาด-กรุงเทพ จำนวน 3 เที่ยวบิน/ สัปดาห์