วันที่ 30 มกราคม 2567 นางบวรลักษณ์ แก้วกล้าปัญญาเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ ได้ทำหนังสือแจ้งถึงผู้ปกครอง เรื่อง หยุดเรียนเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและการเก็บพยานหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจของผู้อยู่ในเหตุการณ์ จึงกำหนดให้ปิดสถานศึกษาชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. ถึงวันที่ 1 ก.พ.67 รวม 3 วัน โดยระหว่างปิดสถานศึกษาทางโรงเรียนจะจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์

 

นอกจากนี้ ยังออกประกาศ เรื่อง การดำเนินการมาตรการดูแลความปลอดภัยนักเรียน โดยได้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยแก่นักเรียน ดังนี้ 1.เพิ่มความเข้มงวดในการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนทั้งในและนอกห้องเรียน 2.ปรับปรุงระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3.ประสานงานกับสำนักงานเขตและชุมชน ในการจัดเจ้าหน้าที่และบุคลากรเพื่อรักษาความปลอดภัยของนักเรียนเพิ่มมากขึ้น 4.เน้นย้ำให้ครูที่ปรึกษาและครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนอย่างใกล้ชิด และรายงานผู้บริหารเป็นระยะ 5.มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การแนะนำอย่างต่อเนื่อง 6.กรณีนักเรียนที่ได้รับความกระทบกระเทือนใจ โรงเรียนมีนโยบายประสานงานกับนักจิตวิทยาเด็กโดยตรงเพื่อให้คำปรึกษา

  ​​​​​​ ​​​​​ ​

ขณะที่นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ณ โรงเรียนกิ่งเพชร เขตราชเทวี และเพื่อให้กำลังใจนักเรียนและครู โดย ปลัดกทม. กล่าวว่า มีประเด็นความปลอดภัยที่อยากฝากถึงนักเรียนทุกคน 2 เรื่อง คือ เรื่องการสวมใส่หมวกกันน็อก เพื่อป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ ไม่ให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน โดยได้สั่งการให้โรงเรียนจัดหาให้นักเรียนครบตามความต้องการโดยเร่งด่วน อีกเรื่องความปลอดภัยที่ได้ฝากนักเรียนไว้คือ หากพบสิ่งที่ต้องสงสัย การพกพายาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า การพกพาอาวุธมาโรงเรียน หรือไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ ขอให้ทุกคนรีบไปแจ้งที่คุณครูโดยทันที นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักการศึกษาลงพื้นที่เพื่อดูแลจิตใจเด็กนักเรียนและครูในโรงเรียนที่เกิดเหตุโดยแบ่งกลุ่มตามอาการเพื่อดูแลให้เหมาะสม เนื่องจากจะมีทั้งผู้ที่เห็นเหตุการณ์แล้วปรับตัวได้และปรับตัวไม่ได้ โดยร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตเพื่อประเมินสุขภาพจิตของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนที่เกิดเหตุทั้งหมด

 

ทั้งนี้ โรงเรียนกิ่งเพชร จัดการศึกษาระดับอนุบาล - มัธยมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนได้ออกประกาศมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุข เพื่อให้การดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขภายในโรงเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ประกอบด้วย 1. สถานศึกษาสร้างการรับรู้ รณรงค์ และประชาสัมพันธ์ ในการป้องกันและเฝ้าระวังการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขผ่านช่องทางต่าง ๆ 2. สถานศึกษาขอความร่วมมือกับเครือข่ายนักเรียน เครือข่ายคณะครู เครือข่ายผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่ายชุมชน สำนักงานเขตราชเทวี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแล ป้องกัน และแก้ไขปัญหาการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา 3. ไม่อนุญาตให้นำหรือพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขทุกประเภทเข้ามาในสถานศึกษา 4. จัดให้มีการสุ่มตรวจอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขก่อนเข้าโรงเรียน 5. หากตรวจพบการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขภายในสถานศึกษา ให้ประสานงานกับผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ไข 6. ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในสถานศึกษา 7. จัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อให้คำปรึกษาและแนะแนวให้กับนักเรียน

 

ขณะเดียวกัน คณะผู้บริหารได้ลงพื้นที่โรงเรียนสังกัดกทม. ประกอบด้วย  นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่โรงเรียนมัธยมวัดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา  นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่โรงเรียนวิชูทิศ เขตดินแดง  และนายสมบูรณ์ หอมนาน รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร