ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถนนนครไชยศรี เมื่อวันที่ 5 ก.พ.67 ศาลนัดฟังคำพิพากษา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่, น.ส. พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับพวกรวม 6 คน ในคดีที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) เป็นโจทก์ฟ้อง กรณีชุมนุมแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2562

ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง , ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ , ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ , ชุมนุมใกล้เขตพระราชฐานในรัศมี 150 เมตร และ ข้อหาเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกชุมนุมแต่ไม่เลิก

ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาให้กำลังใจ นายพิธา นายธนาธร นายปิยบุตร และ น.ส.พรรณิการ์ พร้อมเปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับกลุ่มจำเลย ก็มีสีหน้ายิ้มแย้มดีไม่มีความกังวล ขอให้ฟังผลคำพิพากษาของศาลก่อนว่าเป็นอย่างไร คดีนี้จำเลยต่อสู้ในเรื่องของสิทธิการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาในรูปแบบใด ก็ไม่มีผลทางการเมือง ทั้งผลดีหรือผลลบ ก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ได้ เชื่อว่าการถูกดำเนินคดีของพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าจะไม่ส่งผลต่อความศรัทธาของประชาชน เพราะประชาชนก็เห็นว่าสิทธิของประชาชนถูกละเมิด

 


#ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #ก้าวไกล #ช่อพรรณิการ์วานิช #แฟลชม็อบ #ช่อพรรณิการ์