ณ วันที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทุกอย่างล้วนต้องปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น “กฎหมาย” ก็เช่นกัน มีความท้าทายทางด้านกฎหมายมากมายจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและสังคม เนื่องด้วยทุกอย่างล้วนมีกฎหมายเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งสิ้น และเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ กฎหมายจึงได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากขึ้น ปัจจุบันจึงมีกฎหมายฉบับใหม่ ๆ เกิดขึ้น อาทิ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เป็นต้น

แน่นอน !! เมื่อโลกเปลี่ยนไปหลักสูตรการเรียนการสอนด้านนิติศาสตร์ ย่อมไม่เหมือนเดิม.. 

คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ DPU ภายใต้การนำของ “ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ” คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ คนที่ 11 ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา จะมีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างไร ? เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย 

ด้วยประสบการณ์การทำงานของ “ดร. สุทธิพล” ผ่านร้อนผ่านหนาวทั้งในสำนักงานทนายความขนาดใหญ่ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่ Law Firm ชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ที่เคยร่วมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหลายครั้ง ผู้พิพากษาและเลขานุการศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ผู้พิพากษาและเลขานุการศาลแพ่ง โฆษกศาลยุติธรรมคนแรก รองเลขานุการศาลฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรรมการตรวจการแผ่นดิน (คตง.) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) 

ล่าสุดหลังตัดสินใจเข้าสู่แวดวงการศึกษา “ดร. สุทธิพล” มุ่งมั่นจะนำประสบการณ์ที่คร่ำหวอด

ในแวดวงกฎหมายธุรกิจและการบริหาร มาสู่การพัฒนานักศึกษานิติศาสตร์ DPU ให้เป็นนักกฎหมายรุ่นใหม่ ที่มีความเชี่ยวชาญ มีความรอบรู้กฎหมายและสหวิทยาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม

นิติศาสตร์ยุคใหม่ต้องฝึกให้นักศึกษาคิดเป็น ไม่เน้นท่องจำและช่วยสร้าง DNA ให้นักศึกษามีใจที่ยุติธรรม

“ดร. สุทธิพล” กล่าวว่า แม้กระบวนการร่างกฎหมายอาจจะมีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานแต่ก็มีการพัฒนากฎหมายใหม่ๆ รองรับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงใหม่ๆ รวมทั้งเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนแตกต่างไปจากเดิม ข้อพิพาทต่างๆ ในสังคมก็เปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU แม้จะเป็นคณะที่เก่าแก่ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ แต่ก็มีการปรับตัว ปรับวิธีการสอนอย่างต่อเนื่อง ข้อได้เปรียบของคณะนี้คือมีคณาจารย์ทั้งภายในและภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมี Facility ส่วนกลางที่ทันสมัย เช่น ระบบห้องสมุด ระบบการค้นคว้าออนไลน์และระบบเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้ จึงเป็นที่มาของการจัดการเรียนการสอนเพื่อผลิตนักกฎหมายรุ่นใหม่ที่ไม่ได้จำกัดให้รอบรู้เฉพาะตัวบทกฎหมายหรือทำประโยชน์เพื่อตนเองเท่านั้น แต่มุ่งผลิตนักกฎหมายในโลกแห่งความเป็นจริงที่ต้องใช้กฎหมายช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง และทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วย

“หลักสูตรการเรียนการสอนของคณะนิติศาสตร์จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ต้องให้นักศึกษาเข้าใจในตรรกะต่างๆ คิดและวิเคราะห์เป็น ไม่ได้เรียนกฎหมายที่เน้นการท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองเราจะผลิตนักกฎหมายรูปแบบเดิมๆ ที่มีความเชี่ยวชาญตัวบทกฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่พอ นักกฎหมายยุคใหม่ต้องรู้รอบด้าน นอกจากต้องคิดและวิเคราะห์ให้เป็นแล้ว ยังจะต้องเขียนให้เป็น สื่อสารหรือให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้อื่นได้ชัดเจน ถูกต้อง ตรงประเด็น ทำเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย แต่ต้องรอบคอบและรัดกุม ต้องทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้ที่ไม่ใช่นักกฎหมายได้ดี เพราะในความเป็นจริงเมื่อสำเร็จการศึกษากฎหมายแล้วออกไปสู่โลกภายนอก อาจต้องไปทำงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ ภาคธุรกิจ วิศวกร เทคโนโลยี การเงินการธนาคาร ล้วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงต้องผลิตนักกฎหมายที่ให้ลักษณะความเป็นผู้นำ (leadership skill) สามารถนำกฎหมายไปประยุกต์ใช้กับศาสตร์ต่างๆ ได้ เพราะสิ่งที่จะเจอในความเป็นจริง อาจไม่ได้อยู่ในตำราหรือตัวบทกฎหมายที่เรียนมาในมหาวิทยาลัย เราจึงต้องฝึกฝนความพร้อมให้นักศึกษาในช่วงกระบวนการเรียนการสอนในคณะ เพื่อที่ว่าต่อไปไม่ว่านักศึกษาจะเจอปัญหายากๆ เพียงใด นักศึกษาของเราก็จะสามารถใช้ทักษะที่มีอยู่ช่วยคลี่คลายปัญหาอุปสรรคต่างๆ ไปได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องย้ำให้อยู่ใน DNA ของนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ คือการที่จะต้องตั้งอยู่บนหลักการของความถูกต้อง โปร่งใส และยุติธรรม โดยไม่หวั่นไหวไปตามกระแสหรืออิทธิพลใดๆ” คณบดีคณะนิติศาสตร์ ฯ DPU กล่าว

ลุย Reform หลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ นักกฎหมายรุ่นใหม่ ต้องรู้รอบด้าน

ขณะนี้กำลังเร่งปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับการผลิตนักศึกษากฎหมายของ DPU ใหม่โดยเร็ว “ดร. สุทธิพล” จะนำประสบการณ์ ความรู้ และเครือข่ายจากการทำงานในแวดวงกฎหมายและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับนักศึกษาคณะนิติฯ DPU นอกเหนือจากการเพิ่มเติมทักษะ

ที่นักกฎหมายรุ่นใหม่ต้องมี โดยไม่เน้นในเรื่องปริมาณหรือเพิ่มจำนวนนักศึกษาให้เยอะๆ เพื่อให้เป็นตลาดวิชาแต่จะเน้นในเรื่องคุณภาพเพราะต้องการเข้าไปดูแลและติดตามให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง

“ดร. สุทธิพล” ย้ำอีกว่า นักกฎหมายรุ่นใหม่ต้องมีความพร้อมในการปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา รวมถึงคณาจารย์และบุคลากรของคณะต้อง Update ความรู้อย่างต่อเนื่อง พร้อมต้องทำงานเชิงรุกและใกล้ชิดกับนักศึกษามากขึ้น โดยจะปรับปรุงสัดส่วนของจำนวนนักศึกษาต่ออาจารย์ที่ปรึกษาให้น้อยลงเพื่อให้อาจารย์ที่ปรึกษาสามารถเข้าไปช่วยปรึกษาแนะนำนักศึกษาได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้จะมีการปรับการเรียนการสอน โดยเชื่อมโยงกับคณาจารย์ของคณะอื่นๆ และวิทยาลัยต่างๆ ในมหาวิทยาลัย เช่น กฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยี อาจารย์ทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ก็จะเป็นผู้เข้ามาช่วยเติมเต็มนักศึกษาในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือกฎหมายธุรกิจที่อาจมีการตลาดออนไลน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องให้อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเข้ามาช่วยเพิ่มเติมความรู้ให้ รวมถึงได้มีการเชิญกูรูหรือนักกฎหมายที่มีประสบการณ์ในสายปฏิบัติ เช่น อาจารย์หลายท่านที่บรรยายที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตสภาก็ได้เข้ามาสอน เพื่อเสริมการเรียนการสอนกฎหมายภาควิธีสบัญญัติให้กับนักศึกษา

“การเรียนกฎหมายในปัจจุบันและอนาคต จะต้องเรียนรู้โดยสัมผัสจากการปฏิบัติจริง เพื่อให้นักศึกษาเห็นโลกของการทำงานจริงๆ ว่าเมื่อนำกฎหมายมาใช้จะเกิดปัญหาอะไรบ้าง รวมทั้งจะมีการนำกฎหมายไปช่วยผู้คน ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม หรือองค์กรได้อย่างไร ซึ่งพวกเขาต้องมีทักษะการค้นคว้า หาข้อมูลอย่างแม่นยำและเป็นปัจจุบัน เมื่อเวลาศึกษากฎหมายต้องทราบว่าจะเจาะเข้าไปในแก่นของกฎหมายได้อย่างไร ซึ่งจะต้องเข้าใจเจตนารมณ์ของผู้ร่าง วิธีการร่าง รู้จักวิธีตีความ วิธีใช้กฎหมายให้ถูกต้องรวมทั้งต้องพยายามนำกฎหมายไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อคนในสังคม ทั้งนี้การเรียนเฉพาะตัวบทกฎหมายในตำราอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอนักศึกษาต้องได้รับการฝึกปฏิบัติให้รู้จักวิธีการค้นคว้า ศึกษาเปรียบเทียบ ดู Best Practices จากประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ ที่นิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ เราจะสอนให้การเรียนกฎหมายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญนักกฎหมายที่ดีจะต้องมีจริยธรรม เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเข้าใจในกลไกของกระบวนการยุติธรรมดีพอที่จะสามารถคุ้มครองสิทธิให้กับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม” ดร. สุทธิพล กล่าว

เรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีช่วยงานกฎหมาย

ปัจจุบันมีกฎหมายออกใหม่จำนวนมาก และการใช้ชีวิตของผู้คนล้วนพึ่งพาเทคโนโลยี อย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ChatGPT, IoT (Internet of Thing) และ Big Data ดังนั้น นักกฎหมายต้องรู้จักและเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้

คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU กล่าวว่า นักกฎหมายยุคใหม่ต้องปรับตัว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

ที่เกิดขึ้น การผลิตนักกฎหมาย ต้องทำให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความเสี่ยงใหม่ๆ ว่าสามารถอุบัติขึ้นได้ตลอดเวลา

ต้องเข้าใจบริบทของสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เปลี่ยนไปและเข้าใจกลไกการทำงานของเทคโนโลยีในแต่ละรูปแบบ เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น ช่วยในการหาข้อมูล ตลอดจนใช้เพื่อพัฒนางานของนักกฎหมาย เช่น ใช้ AI ค้นหาข้อมูลทางการกฎหมายอย่างรวดเร็ว หรือวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่มาสนับสนุนในการตัดสินใจ โดย AI สามารถให้คำแนะนำและช่วยในการตัดสินใจทางกฎหมาย รวมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลประวัติการพิจารณาคดี การวิเคราะห์แนวโน้มของผลการตัดสินหรือการประเมินความเสี่ยงในการดำเนินคดี

“DPU จะผลิตนักกฎหมายที่สามารถทำให้กฎหมายเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้จริง มีความชัดเจนและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพราะนักกฎหมายยุคใหม่ไม่ควรเป็นนักกฎหมายที่เพียงแค่รู้ถึงปัญหาต่างๆ ว่าคืออะไรและเหตุใดจึงปฏิบัติไม่ได้ แต่ควรเป็นผู้ที่นอกจากจะทราบถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังต้องเป็นผู้ใช้กฎหมายได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมด้วย กล่าวคือต้องทำให้นักกฎหมายที่ออกจากรั้วของคณะนิติฯ DPU สามารถใช้กฎหมายหรือศาสตร์ต่างๆ เข้ามาหรือช่วยเหลือผ่าทางตันหรือผลักดันนโยบายต่างๆ ของหน่วยงานหรือประเทศชาติให้สามารถเดินหน้าไปได้ รวมทั้งสามารถเป็นผู้นำที่เป็นที่พึ่งทางกฎหมายให้กับประชาชนได้รับความถูกต้องและเป็นธรรมในสังคม” ดร. สุทธิพล กล่าว

กฎหมายไม่ได้ผิด บ่อยครั้งสาเหตุแห่งปัญหาเกิดจากคนที่ใช้กฎหมาย

 หลายคนมักจะมองว่ากฎหมายเป็นเรื่องไกลตัว เข้าใจยาก นักกฎหมายไม่น่าคบและบทบัญญัติต่างๆ ของกฎหมายมีความซับซ้อนเข้าใจยาก

ขณะที่ ดร.สุทธิพล เห็นต่างโดยมองว่า กฎหมายและนักกฎหมายคือความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะทุกความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้ล้วนเกิดจากปัจจัยทางกฎหมายทั้งสิ้น จริงๆ แล้วกฎหมายเป็นเรื่องใกล้ตัว และไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งตัวบทกฎหมายก็ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหาต่างๆ แต่บ่อยครั้งปัจจัยที่ทำให้กฎหมายมีปัญหาในการบังคับใช้นั้น มักเกิดจากผู้ใช้กฎหมายเอง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมีการพยายามใช้และตีความกฎหมายไปในทางที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของฝ่ายตน หรืออาจเป็นเพราะขณะที่ร่างกฎหมาย ไม่ได้ออกแบบกฎหมายเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเห็นได้ว่าปัญหาดังกล่าวก็เกิดจากคนที่เป็นผู้ร่างกฎหมายนั่นเอง ดังนั้น การผลิตนักกฎหมายรุ่นใหม่ ต้องฝึกในเรื่องของ simplification, flexibility, merit และการมองไกล โดยนักกฎหมายรุ่นใหม่ต้องมีความรู้ข้ามศาสตร์ สามารถคิดวิเคราะห์และนำไปประยุกต์ได้ สามารถทำงานและปรับตัวได้ดีบนโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

“คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU จะผลิตนักกฎหมายรุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานได้ทั้งในวงการธุรกิจ เทคโนโลยี หน่วยงานรัฐ หรือภาคเอกชน และช่วยเหลือสังคมได้ วิชาชีพกฎหมายต้องปรับตัว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ยิ่งในโลกที่ทุกคนเรียกร้องสิทธิ นิติศาสตร์ต้องมีการเรียนการสอนที่กว้างมากขึ้นและลึกขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกบริบทของโลก เพราะการเรียนการสอนไม่ใช่มุ่งเรียนหรือสอนรายวิชาเพื่อนำไปสู่การสอบเป็นผู้พิพากษา อัยการ หรือทนายความเท่านั้น แต่นักกฎหมายยุคใหม่อาจจะไปเป็นที่ปรึกษาของหน่วยงานต่างๆ เป็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายของภาครัฐและภาคเอกชน เป็นนักกฎหมายที่คอยช่วยเหลือประชาชน ชุมชน หรืออาจประกอบอาชีพอื่นๆ ในสังคมที่ไม่ได้ถูกเรียกว่า “นิติกร” แต่ก็อาจจำเป็นต้องใช้กฎหมายในการทำงาน ฉะนั้น การเรียนการสอนกฎหมายจึงต้องตั้งอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ผู้ที่สำเร็จการศึกษากฎหมาย ต้องจบออกไปอย่างมีคุณภาพและมีการทำงานที่มั่นคงรองรับการประกอบอาชีพ ผมเห็นว่าใครๆ ก็สามารถเป็นนักกฎหมายได้ แต่ผู้ที่จะเป็นนักกฎหมายที่ดีต้องรู้จักคิดและวิเคราะห์ให้เป็น และจะต้องมีใจรักความยุติธรรม และความถูกต้อง ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าต่อให้ยุคสมัยเปลี่ยน มีเทคโนโลยี AI หรือเทคโนโลยีตัวใหม่ๆ เข้ามา นักกฎหมายก็ยังเป็นอาชีพที่มีความจำเป็นและยังต้องเป็นที่พึ่งให้กับคนในสังคม” ดร. สุทธิพล กล่าวทิ้งท้าย

คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU จัดการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอกทางกฎหมาย เพื่อผลิตบัณฑิตทางด้านนิติศาสตร์ มาอย่างยาวนาน ซึ่งหลักสูตรของคณะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีความทันสมัยและสอดคล้องต่อความต้องการของสังคม ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกในหลักวิชาชีพกฎหมาย มีความรอบรู้รอบด้าน และมีความรับผิดชอบต่อสังคม อยากรู้ว่านักกฎหมายรุ่นใหม่เป็นอย่างไร สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://law.dpu.ac.th/ หรือสอบถามได้ที่โทร. 02-954-7300 ต่อ 283, 308