"นายกฯ"เรียก"ผบ.ตร." หารือคุมเข้มมาตรการอารักขาขบวนเสด็จฯ ถวายความปลอดภัย"ราชวงศ์" สำคัญสูงสุด กำชับหลีกเลี่ยงใช้ความรุนแรงผู้เห็นต่าง แนะใช้สภาฯ เป็นเวทีพูดคุยปลอดภัยสุด "บิ๊กต่อ" เชื่อ "ทะลุวัง" ป่วน มีขบวนการอยู่เบื้องหลัง ม ด้าน นายร้อย จปร." จัดกิจกรรม "ถวายกำลังใจ ทูลกระหม่อมอาจารย์" ขณะที่ตะวันขอเลื่อนมอบตัว อ้างติดเรียน      ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ศูนย์การค้าสามย่านมิตร เมื่อวันที่ 12 ก.พ.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงมาตรการอารักขาความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ ว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องหารือกันเรื่องมาตรการอารักขาความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความดูแลบุคคลสำคัญของประเทศ โดยมอบหมายให้สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติกำชับให้ดูแลเรื่องดังกล่าวให้ดี เพราะไม่อยากให้มีการปะทะเกิดขึ้น อยากให้ประเทศอยู่ด้วยความสามัคคี ถ้ามีเวทีไหนที่เราเห็นต่าง ต้องเป็นเวทีที่เหมาะสมหรือเป็นเวทีที่นักวิชาการมาพูดคุยกัน    

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีหลายฝ่ายรวมถึงกองทัพออกมาแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบัน นายกฯ  กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาทำกันปกติอยู่แล้ว ทุกฝ่ายรวมถึงกองทัพก็รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว       ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรืออย่างไร แต่อยากจะวิงวอนในเรื่องของการใช้ความรุนแรง เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ควร รัฐบาลไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือกองทัพก็อยากจะเห็นความสมัครสมานสามัคคี แน่นอนการเห็นต่างเป็นเรื่องที่สังคมมีการเห็นต่างอยู่แล้ว ก็ต้องมาพูดคุยใช้เวทีที่ปลอดภัย และไม่เป็นที่คุกคามของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่อยากจะขอวิงวอนอ้อนวอน ให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงจุดนี้ ประเทศเราก็เดินหน้ามาด้วยดีเรื่องความวุ่นวายเหล่านี้มันก็ไม่มีมานาน เราก็ไม่อยากที่จะให้เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นซึ่งก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายรักษาความปลอดภัย และความมั่นคงที่ต้องดูแล    

  เมื่อถามว่า กังวลว่าจะกลายเป็นเหตุความรุนแรงหรือไม่ เนื่องจากล่าสุดก็เกิดการปะทะกันเกิดขึ้น ระหว่างกลุ่มที่เห็นต่าง นายเศรษฐา กล่าวว่า  เรื่องการใช้กำลังหรือการใช้ Hate Speech อยากให้สองฝ่ายลดทอนลงไป ควรใช้เวทีสาธารณะอื่นๆ ดีๆไม่ว่าจะเป็นสภาฯ หรือนักวิชาการในการพูดคุยกันในเวทีที่ปลอดภัยกว่านี้ ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายก็อยากให้ประเทศชาติมีความปรองดอง ความสมัครสมานสามัคคี มีบรรยากาศที่พูดคุยกันได้ ทุกฝ่ายก็ให้ความสำคัญ ตนก็ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไป ว่าต้องระมัดระวังอย่าให้กระทบกระทั่งกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดความปลอดภัยของราชวงศ์ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด      

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลมองเรื่องนี้ โดยเฉพาะความคิดเห็นทางการเมือง ควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม นายกฯ ตอบว่า ผมไม่เคยมองไปไกลขนาดนั้น ผมมองว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญของประเทศให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดมีการคุกคามหรือการใช้กำลัง และไม่อยากให้เรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมืองด้วย เพราะว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง     

 เมื่อถามว่า กลุ่มเยาวชนที่ออกมาทำกิจกรรมก็ยังพูดถึงเรื่องของขบวนเสด็จฯ จึงทำให้เกิดการปะทะกัน ควรจะหยุดพฤติกรรมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยควรมีเวทีที่เหมาะสม เรามีตัวแทนของพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีสภาจะดีกว่าหรือไม่ เพราะเป็นเวทีที่ปลอดภัย และถูกต้องตามครรลองคลองธรรมในระบบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ถ้าใช้เวทีอื่น เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีคนเยอะ อาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน ตนก็ไม่เห็นด้วย เมื่อถามว่า ผบ.ตร.ได้รายงานอย่างไรบ้างเรื่องการดำเนินคดี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว่าไปตามกฎหมาย ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งอะไร ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อยากจะวิงวอนในเรื่องการใช้ความรุนแรง      เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ให้ท้าย อยากจะขอความร่วมมืออย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ที่ไหนให้ท้าย แต่ถ้าจะให้พูดมันชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ควรมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง เพราะขบวนเสด็จ เนื่องจากพระองค์ท่านมีภารกิจตลอดเวลา พระองค์ท่านทรงงานหนักทุกพระองค์ ฉะนั้นเรื่องของการเดินทาง ความสำคัญของพระองค์ท่าน เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญสูงสุด         ฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งผมบอกไปหลายหนแล้ว และผมใช้คำว่าใช้เวทีที่ปลอดภัย เรามีสภาฯ เรามีนักวิชาการ เราก็ไปพูดคุยในเวทีที่ถูกต้อง ไม่อยากให้เป็นเวทีที่มาใช้คำว่าท้าทาย เช่น ตามศูนย์การค้าหรือที่สาธารณะต่างๆ ไม่เหมาะสมหรอกŽ

นายเศรษฐา กล่าว       ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มทะลุวังก่อความวุ่นวายต่อขบวนเสด็จฯ ว่า นายกฯ ได้เรียกไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องการถวายความปลอดภัยในขบวนเสด็จฯ  ซึ่งนายกฯ มีความเป็นห่วงในเรื่องช่องโหว่ แต่ยืนยันว่าเราวางระบบไว้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม คงบอกผู้สื่อข่าวไม่ได้ เพราะคนก็จะรู้ว่าระบบเป็นอย่างไร      ทั้งนี้ ยืนยันกับนายกฯ ไปแล้วว่ามีการวางระบบรักษาความปลอดภัยองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ไว้เป็นอย่างดี การที่มีกลุ่มเห็นต่างมาแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างนี้ ตนได้กำชับไปตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่มี จะไม่ออกมาบอกว่าทำอะไรอยู่ เข้าใจดีว่าสื่อมวลชนและประชาชน อยากรู้ว่าตำรวจทำอะไรบ้างกับเรื่องนี้ แต่ถ้าบอกหมดก็จะไม่เป็นผลดี      

  ผมเชื่อว่าที่กลุ่มทะลุวังออกมาเคลื่อนไหวแสดงพฤติกรรมแบบนี้ เขาไม่ได้ออกมาเอง แต่มีขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง ขอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน และวันที่เราทำคดีให้ถึงที่สุด จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานละเอียด นอกจากนี้ได้พูดกับทีมงานว่า อย่าไปเร่งทำ เพราะอาจผิดพลาดเหมือนกับที่ผ่านมา ดังนั้นขอเวลาอีก 2 วัน จะได้เห็นว่าตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา และจะมีหมายจับต่อไปŽ ผบ.ตร. กล่าว      ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะมีการจับกุมแน่นอน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ครับ แน่นอน ผมขอยืนยันŽ ซึ่งวันที่ตนไปพบผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ท่านก็กำลังรวบรวมหลักฐาน และทราบว่าได้มีการเร่งรัดสอบสวนเรื่องนี้ให้ละเอียด เพื่อตอบข้อสงสัย ปิดข้อครหา และทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดความยุติธรรม      เมื่อถามว่า กลุ่มที่อยู่เบื้องหลัง เป็นขบวนการที่อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เป็นขบวนการที่อยู่ในประเทศ เมื่อถามอีกว่า จะมีการเรียกผู้อยู่เบื้องหลังมาพูดคุยหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ได้รายงานให้นายกฯ ทราบแล้ว ซึ่งจะมีการพิจารณาต่อไป เมื่อถามว่า จะเอาผิดกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังได้มากน้อยแค่ไหน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เราพยายามรวบรวมหลักฐาน และสอบสวนให้ครอบคลุมมากที่สุด ไม่รีบทำ เพราะหากรีบทำ เมื่อถึงชั้นอัยการและอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็จะเสียกระบวนการยุติธรรม       ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกลุ่มทะลุวังได้มีพฤติกรรมพยายามขับรถแซงขบวนเสด็จฯ ขณะที่ขบวนกำลังแล่นผ่านทางด่วน พร้อมบีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จฯผ่าน ว่า เรื่องนี้เป็นความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถึงจะอ้างว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ การทำโพล รวมถึงการขัดขวางกระบวนการเสด็จฯ  ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย มีอยู่ในพ.ร.บ.พ.ร.บ.ถวายความปลอดภัยอยู่แล้ว อาจจะต้องมีการทบทวน ปรับปรุง แก้ไข โดยอาจจะต้องมีการเพิ่มเติมบทลงโทษเข้าไปในพ.ร.บ.ดังกล่าวได้เลย       ส่วนที่ไม่ต้องเพิ่มเติมคือการที่เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ถวายอารักขาและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติ รวมถึงหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรที่จะใช้กฎหมายที่ตัวเองมีอยู่ ดำเนินการกับผู้ที่กระทำการดังกล่าว เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง ถ้าเราไม่หยุดตั้งแต่วันนี้ เราไม่บังคับใช้อย่างตรงไปตรงมา ตนเชื่อว่าจะเกิดความเสียใจในอนาคต และคนที่รับผิดชอบคือคนในยุคนี้รวมถึงพรรคก้าวไกล เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกลุ่มของกลุ่มมวลชนที่เห็นต่าง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งรวมถึงการประทะกันของกลุ่มมวลชนอาจจะทำให้เกิดน้ำผึ้งหยดเดียวได้        

ผมขอเรียกร้องไปยังพรรคการเมือง โดยเฉพาะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน สภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุว่าไม่เห็นด้วย ขอให้แสดงในทางปฏิบัติ อย่าพูด ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ เพราะมวลชนเหล่านั้น เป็นผู้ที่เชื่อมโยงศรัทธาหรือได้รับการประกันตัวจากส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล มาโดยตลอดที่ได้รับการประกันตัว ได้เห็นชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ยกเลิกหรืออ้างว่าปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ นั้นมีเจตนาซ่อนเร้นชัดเจนตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และพฤติการณ์เหล่านี้ถูกส่งต่อไปด้วยการกระทำ เป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะ ไม่ควร รวมถึงเป็นการคุกคามที่คนไทยรับไม่ได้Žนายสมชาย กล่าว      

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยประมุข ผู้นำของทุกประเทศในโลก มีมาตรการที่ชัดเจน เช่น ในประเทศในยุโรปใช้มาตรการรุนแรงมากกว่านี้ กรณีที่เกิดขึ้นบุคคลที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ประกันตัวมา และยังเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งขณะนี้ยังเห็นความเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง เป็นการกระทำเกิดจากการปลุกเร้าของพรรคการเมือง เป็นการปลุกเร้าความคิด เป็นความเชื่อที่ผิดๆ       ด้าน นายวันชัย สอนศิริ สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี "ตะวัน" น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ สมาชิกกลุ่มทะลุวัง คุกคามขบวนเสด็จฯ ว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและย่ำยีความรู้สึกของประชาชนประชาชนคนไทย เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ประณามต่อการกระทำครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือพรรคการเมืองบางพรรคและประชาชน มีความรู้สึกว่าย่ำยีหัวใจประชาชนคนไทยเกินไป เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นและที่สำคัญที่สุดเราอยู่บน พื้นแผ่นดินไทยที่มีพระมหากษัตริย์และวิถีชีวิต เราเคารพเทิดทูนบูชา เพราะฉะนั้นพฤติกรรมใดๆที่มีการ ล่วงละเมิด จาบจ้วง มองได้เลยว่า เป็นการจาบจ้วง สังคมทั่ว พฤติกรรมเกินกว่าที่คนไทยจะรับได้  

    นายวันชัย กล่าวว่า  ถามว่าเรื่องอย่างนี้จะทำอย่างไร ซึ่งในทางกฎหมายถือว่ากระทำผิด แต่สิ่งที่สังคมไทยรวมทั้งองค์กรต่างๆทุกภาคส่วนการที่จะยับยั้งคือการปฏิเสธการกระทำของบุคคลเหล่านี้และประณามการกระทำของบุคคลเหล่านี้ และใครก็ตามที่สนับสนุนหรือมีส่วนเห็นด้วยเราต้องช่วยกันประณาม และตะโกนออกมาดังๆให้คนพวกนี้ไม่มีการกระทำอีก และไม่ควรจะมีที่ยืนในสังคมถ้าใครมีพฤติกรรมอย่างนี้ ถ้าใครเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องสั่งสอนลูกของตนเอง      เมื่อถามว่า ผู้กระทำอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นขบวนเสด็จฯ  ไม่ได้จงใจไปป่วน นายวันชัย กล่าวว่า ฟังไม่ขึ้น เท่าที่ดูจากคลิปและพฤติกรรมพูดไว้ชัด กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา สิ่งที่เกิดขึ้นการดำเนินการต่างๆ ใครก็รู้ และตัวเองก็น่าจะรู้ได้ว่าเป็นขบวนเสด็จ และตำรวจก็แจ้งอยู่แล้วก็ยังมีพฤติกรรมที่สวนกับตำรวจ แต่เป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่คนทั่วไปเขารู้ว่าคุณกำลังทำอะไร       เมื่อถามว่า การประท้วงขบวนเสด็จฯ เพราะต้องการช่วยเพื่อนที่ถูกดำเนินคดี นายวันชัย กล่าวว่า น่าจะแยกส่วนกัน แม้จะไม่เห็นด้วยในการดำเนินคดี มาตรา 112 แต่ไม่ควรมากระทำแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นขบวนเสด็จ นำมาปะปนกันแล้วอ้างรับฟังไม่ได้คนละเรื่องคนละประเด็น ไม่มีเหตุผลที่จะรับฟังได้ เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้นายกฯเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับการดูแลขบวนของผู้นำประเทศ นายวันชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติสากลก็ต้องมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัย    

  ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกระแสข่าว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ"ตะวัน ทะลุวัง" เตรียมเดินทางมาตามหมายเรียก ที่สน. ดินแดง ในช่วงเที่ยงวันนี้ กรณีการขัดขวางขบวนเสด็จฯ  เหตุการณ์เกิดขึ้นบนทางด่วน ลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา      

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. บรรยากาศที่สน. ดินแดง มีสื่อมวลชนหลายสำนักเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวกรณีวันนี้ที่พนักงานสอบสวนสน.ดินแดง ได้เรียกตัวผู้ถูกกล่าวหารวม 2 คน ซึ่งประกอบด้วย น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และนายณัฐนนท์ ไพโรจน์ มาสอบปากคำ โดยช่วงเช้า ทนายความศูนย์สิทธิมนุษยชน ได้นำหนังสือของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองมายื่นให้พนักงานสอบสวนเพื่อขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. โดยอ้างว่าติดภารกิจการเรียนจึงไม่สามารถเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ได้ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ทำการลงบันทึกประจำวันรับหนังสือดังกล่าวไว้แล้ว ส่วนการอนุญาตให้เลื่อนหรือไม่นั้น ในช่วงบ่าย พนักงานสอบสวนและคณะทำงานในคดีดังกล่าวจะทำการประชุมหารือกันอีกครั้งที่ว่าข้ออ้างดังกล่าว มีเหตุผลเพียงพอให้สมควรเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนออกไปหรือไม่ ในส่วนข้อหานั้น อยู่ในสำนวนยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อมวลชนได้ ซึ่งต้องรอกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคนให้เสร็จสิ้นเสียก่อน      ขณะเดียวกัน ตะวัน ทะลุวัง ได้โพสต์ Facebook ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 4 ข้อดังนี้  1.วันนั้นเราเพิ่งกลับจากงานศพ และมีธุระจะไปทำแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  2.เราไม่ได้รู้ว่าจะมีขบวนเสด็จฯ และไม่ได้มีความตั้งใจจะไปป่วน รวมถึงไม่ได้ขวางขบวนตามที่เป็นข่าว เพราะหากใครดูคลิปจริง ๆ ก็จะรู้ว่าเราไม่ได้ขวางขบวนหรือปาดหน้าขบวนตามที่สื่อหลายช่องบอก แต่เพียงขับรถเร็วและไม่ระมัดระวังจริง ๆ เพียงเพื่อจะรีบไปให้ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตามที่เราจะไปทำธุระ      3.เราทบทวนเหตุการณ์นั้น และคิดได้ว่าการขับรถเร็วและไม่ระมัดระวังแบบนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ จึงได้ขอโทษในส่วนนี้ไป และจะนำไปปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก  4.เรายังคงยืนยันในสิทธิและเสรีภาพในการตั้งคำถามแบบที่เราได้ถามไปตามไลฟ์โดยที่เราเรียกตำรวจว่าพี่และŽตัวเราŽไม่ได้พูดคำหยาบใด ๆ กับตำรวจ มีเพียงการตั้งคำถามเท่านั้น      นี่คือความจริงทุกตัวอักษร จะเชื่อหรือไม่เป็นสิทธิของทุกคน ที่มีคนบอกว่าเราขวางหรือขับรถตามขบวนเสด็จฯ ไม่เป็นความจริง      วันเดียวกัน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าจัดกิจกรรมถวายกำลังใจ แด่ พลเอกหญิงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุุดา สยามบรมราชกุมารี โดยมีกำลังพลของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนปิยชาติพัฒนาร่วมทำกิจกรรมในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เวลา 15.30 น. ณ หอประชุมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.เมือง จ.นครนายก