เงินบาทสัปดาห์หน้า 35.70-36.30บาทต่อดอลลาร์/SET 1,355-1,410 จับตาตัวเลขจีดีพีไทย

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย​สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทรอบสัปดาห์ว่า เงินบาทยังคงอ่อนค่า โดยทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งที่ 36.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชั่นของตลาด ก่อนจะพลิกกลับมาอ่อนค่าลง สวนทางเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่า จังหวะการปรับลดดอกเบี้ยคงไม่เกิดขึ้นเร็วในรอบการประชุม FOMC ใกล้ๆ นี้ นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่ายังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกที่ร่วงหลุดระดับ 2,000 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ลงมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ตามจังหวะการกลับมาซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลง หลังตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ หดตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาดในเดือนม.ค.

สัปดาห์ระหว่างวันที่ 19-23 ก.พ. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.70-36.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของไทย ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 30-31 ม.ค.  ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนก.พ. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของธนาคารกลางจีน ตลอดจนข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของยูโรโซน


ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางปริมาณการซื้อ-ขายที่ค่อนข้างเบาบาง ในขณะที่ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคปิดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยในช่วงต้นสัปดาห์หุ้นไทยมีแรงหนุนจากสัญญาณที่สะท้อนว่า ตลท. เตรียมคุมเข้มการทำธุรกรรม Short selling และ Program trading อย่างไรก็ดี หุ้นไทยปรับตัวลงในช่วงกลางสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนประเมินว่า เฟดอาจเลื่อนช่วงเวลาปรับลดดอกเบี้ยออกไปอีก ประกอบกับมีแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หลังผลประกอบการไตรมาส 4/66 ของผู้ประกอบการรายหนึ่งออกมาน่าผิดหวัง หุ้นไทยกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยแม้จะมีแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปในหลายกลุ่มเข้ามาหนุน โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก แต่กรอบการฟื้นตัวยังจำกัด เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามตัวเลขจีดีพีของไทยซึ่งจะประกาศในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

สัปดาห์ที่ 19-23 ก.พ. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,370 และ 1,355 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,410 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ บันทึกการประชุมเฟด ดัชนี PMI เดือนก.พ. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ดัชนีราคาผูบริโภคเดือนม.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนก.พ. ของจีน

 

#ค่าเงินบาท #จีดีพี #SET