ในปัจจุบันรอบเกาะรัตนโกสินทร์ยังคงเป็นหมุดหมายของการท่องเที่ยวไทยที่ไม่ใช่เพียงชาวต่างชาติที่นิยมมาท่องเที่ยว แม้แต่คนไทยยังออกมาเดินเที่ยวเล่น แวะชิมร้านอร่อยแบบจัดเต็มที่มีมากมายให้เลือกหา ไม่ว่าจะเป็นย่านท่าเตียน ราชดำเนิน ท่าพระอาทิตย์ บางลำพู ประตูผี เสาชิงช้า ส่วนจะมีรายการอื่นๆ ที่จะต้องปักหมุดตามหา คงต้องเตรียมรองเท้าให้พอเหมาะเพื่อจะออกเดินไปตามตรอกซอกซอยรอบเกาะรัตนโกสินทร์

ค้นหายุคอดีตสู่ปัจจุบัน

เริ่มสถานที่แรกเพื่อจะทำความรู้จักกับย่านบางลำพู ตั้งแต่ยุคอดีตสู่ปัจจุบัน จึงพลาดไม่ได้ที่จะต้องแวะ พิพิธบางลำพู พิพิธภัณฑ์ที่ชวนมาสัมผัสเสน่ห์ของย่านเก่าแก่แห่งนี้ พร้อมๆ ไปกับการทำความรู้จักงานของกรมธนารักษ์ สังเกตุง่ายตรงแถวป้อมพระสุเมรุจะมีอาคารสวยๆ ตั้งอยู่ริมถนนพระสุเมรุ หน้าตาคล้ายกับอาคารเรียน จะเป็นที่ตั้งของ พิพิธบางลำพู  แต่เดิมเคยเป็น โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช ตามหลักสูตรอาชีวศึกษาชั้นต้นสายการพิมพ์

ก่อนจะโอนโรงเรียนช่างพิมพ์ฯ มาเป็น โรงพิมพ์คุรุสภา รับจัดพิมพ์แบบเรียนและงานของข้าราชการ และเมื่อหมดสัญญาเช่า อาคารโรงพิมพ์คุรุสภาแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้าง จนกรมธนารักษ์มีแผนจะรื้ออาคาร แต่ชาวชุมชนบางลำพูได้มองเห็นความสำคัญของตัวอาคารและประวัติศาสตร์ที่ไม่อยากให้เลือนหายไป จึงร่วมกันต่อสู้เพื่อคัดค้านการรื้ออาคาร เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวบางลำพูรรวมตัวกันเป็นประชาคมบางลำพู ที่มีความเข้มแข็ง สามารถยับยั้งการรื้ออาคาร ทั้งยังช่วยกันผลักดันจนขึ้นทะเบียนอาคารโรงพิมพ์คุรุสภาแห่งนี้เป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรในปี 2544 ได้อีกด้วย

ในวันนี้ นอกจากจะสามารถเก็บอาคารเก่าที่มีเรื่องราวให้คงอยู่ต่อไปได้แล้ว ยังจะมีผู้คนแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอาคารเหล่านี้กันมากขึ้น เพราะทางกรมธนารักษ์ได้เปลี่ยนอาคารโรงพิมพ์คุรุสภาให้เป็น “พิพิธบางลำพู” ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และเล่าเรื่องราวของชาวบางลำพู

ชมสาระเกี่ยวกับเหรียญ

ส่วนจุดต่อมาไม่ใกล้ไม่ไกลกันนักกับพิพิธบางลำพู ที่เล่าเรื่องราวย่านบางลำพู ซึ่งอยู่ในการดูแลของกรมธนารักษ์ก็จะมี พิพิธภัณฑ์​เหรีญกษาปณานุรักษ์ ก็เป็นของกรมธนารักษ์​เช่นเดียวกัน แต่เนื้อหาข้างในเจาะลึกไปที่เหรียญเพียงอย่างเดียว  มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยมีวิทยากรพานำชม ใช้เวลาไป เกือบ 2 ชั่วโมง มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเหรียญล้วนๆ ซึ่งจะมีการแบ่งผู้เข้าชมเป็นรอบๆ เพื่อให้ผู้ที่เข้าชมได้รับอรรถรสในการดูอย่างเต็มที่

สำหรับ พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ เป็นสถานที่สำหรับเก็บรวบรวมและแสดงสิ่งต่างๆเกี่ยวกับเหรียญ รวมทั้ง เป็นที่สำหรับอนุรักษ์เหรียญกษาปณ์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ตั้งแต่ห้องแรกจนถึงห้องสุดท้าย ทำให้พิพิธภัณฑ์มีชีวิตชีวา ดูแล้วไม่เบื่อหน่าย นอกจากนี้ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบโดยตระหนักถึงความสำคัญของผู้พิการ ผู้สูงอายุและเด็ก โดยมีเส้นทางสำหรับรถเข็น มีคำบรรยายอักษรเบรลล์ มีภาษาอังกฤษ และมีที่นั่งพักเป็นระยะๆ โดยจะเปิดให้บริการในวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.  

เดินชิลชิลชมดอกไม้

จากย่านบางลำพู ไปต่อกันที่ ย่านปากคลองตลาด หรือถ้าใครนั่งรถไฟใต้ดินมา ก็สามารถขึ้นที่สถานีสนามไชย ได้เลย เพราะเมื่อเดินขึ้นมาก็จะเห็นร้านขายดอกไม้ตั้งเรียงรายอยู่ริมถนนมากมาย หลากหลายสีสัน บรรยากาศสดใส มีทั้งดอกไม้ไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ บางร้านก็เป็นร้านจัดดอกไม้จัดวางเป็นช่อ ๆ มองไปทางไหนก็สวยไปหมด           

ดังนั้นบางคนที่หาซื้อดอกไม้ไปตกแต่งบ้านก็น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากเวลานี้เส้นทางสัญจรไปมาสะดวกเป็นอย่างมาก อีกทั้งเมื่อมาถึงแหล่งปากคลองตลาดแล้วยิ่งซื้อเป็นจำนวนมากก็ยิ่งถูก และจากตลาดสดในช่วงเวลากลางวันจะเปลี่ยนเป็นตลาดดอกไม้ในช่วงเย็น   โดยที่นี่จะเปิดทั้งวันทั้งคืน ขึ้นอยู่กับร้านดอกไม้แต่ละร้านหรือโซน โดยจะสลับสับเปลี่ยนกันเปิดตลอดเวลา ช่วงกลางคืนจะมีแม่ค้าออกมาเปิดร้านดอกไม้กันตามริมถนนข้างทางเยอะหน่อย แต่ร้านดอกไม้ใหญ่ ๆ ริมถนนอาจจะปิดได้ เพราะฉะนั้นจะไปเดินกลางวันหรือกลางคืนก็จะได้อารมณ์คนละแบบ

ชมพระอาทิตย์ตกวัดอรุณ

สุดท้ายของวันถ้าเดินชิลชิลแถวย่านปากคลองเป็นที่เรียบร้อย หากไม่พูดถึง วัดที่สวยงาม และมีชื่อเสียงที่สุด นั้นก็คือ วัดอรุณ คงจะทำให้ทริปนี้หมดความน่าสนใจไปมากโข เพราะทั้งในแง่ของความสำคัญ และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่างมีเรื่องราวมากมายที่จะกล่าว แต่ในวันนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสกับบรยากาศอันสุดแสนประทับใจที่คนไทยหลายๆคน ยังไม่รู้ว่ามีมุมลับๆ ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกลับหลังพระปรางค์วัดอรุณได้อย่างดงาม  โดยมุมลับๆแห่งนี้คนไทยอาจจะไม่นิยมมาก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเขารู้กันว่า ถ้าหากชมแสงสุดท้ายของวันพร้อมๆ กับวิวพระปรางค์วัดอรุณ ก็จะต้องเป็นจุดนี้เท่านั้น นั้นก็คือ ท่าเรือวัดโพธิ์ นั้นเอง

ด้วยความสวยงามเหลือจะพรรณนา จึงทำให้วิว พระอาทิตย์ตกลับหลังพระปรางค์วัดอรุณ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ชาวต่างชาติ รวมไปถึง วัดโพธิ์ ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ในช่วงโพล้เพล้ของวัน แม้พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายๆ คนยังเดินถ่ายรูปกับพระปรางค์ภายในวัดกันมากมาย

ขณะที่ในมุมของคนไทยที่สนใจมาเยือนวัดแห่งนี้โดยพาครอบครัวมาทำบุญ ก็สามารถมาที่วัดโพธิ์ได้ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.30 น. ของทุกวัน ดังนั้นในวันหยุดนี้ ผู้ที่ไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน แหล่งท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะทำให้ทุกคนสามารถเที่ยว ชิ ม ช้อป แชะ และแชร์ได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว