"สุดาวรรณ"ชี้มีแนวทาง ยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดยะลาเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นพื้นที่มีเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น เช่นจัดสร้างหอชมเมืองเพื่อเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัด ลักษณะเดียวกับประตูชัยของกรุงปารีส พร้อมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของอำเภอเมืองกับอำเภอเบตงซึ่งเป็นที่นิยมของชาวมาเลเซีย 
 
วันที่ 28 ก.พ.67 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การเดินทางร่วมกับคณะของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยวใต้สุดใจ“ที่จังหวัดยะลา ได้ทำให้เห็นว่าช่องทางที่จะพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวของยะลา  เช่นการกำหนดสถานที่เพื่อจัดสร้างหอชมเมืองเพื่อเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัดในลักษณะเดียวกับประตูชัยของกรุงปารีส จะทำให้เห็นมุมสูงและเห็นความสวยงามของผังเมืองยะลาได้อย่างชัดเจนและสามารถกำหนดเส้นทาง walking Tour หรือรถรางนำชมได้จะทำให้เข้าใจโครงสร้างเมืองในภาพใหญ่ที่สอดประสานกับวิถีชีวิตของชาวเมืองได้อย่างลงตัว

 

ขณะเดียวกันสามารถเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอเมืองกับอำเภอเบตงเพื่อให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวและเกิดการกระจายรายได้ไปยังแหล่งอื่นๆในจังหวัดยะลา และคงมาดูเรื่องการส่งเสริมให้มีเที่ยวบินพาณิชย์กลับมาเปิดให้บริการสู่สนามบินเบตงอีกครั้ง 

ทั้งนี้ อำเภอเบตง ซึ่งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียอย่างมากเนื่องจากมีดินแดนที่ติดกัน มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ตามที่คณะของนายกรัฐมนตรีเดินทางไปดูการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลและปลาพลวงชมพู พบว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะเป็นปลานิลที่ไม่มีกลิ่นโคลน ไม่เหม็นคาว เนื้อแน่นหวานอร่อย ขณะที่ปลาพลวงชมพูได้รับการประกาศให้เป็นปลาประจำจังหวัดยะลา สามารถกินได้ทั้งเกล็ด โดยเกล็ดอุดมไปด้วยคอลลาเจนสูง เนื้อปลามีลักษณะนุ่มขาวเหมือนสำลี รสชาติหวานอร่อย ไม่มีกลิ่นคาว

อีกทั้งสถานที่เลี้ยงที่อยู่ตามหุบเขา ยังอยู่บนเส้นทางที่เดินทางไปเที่ยวสวนดอกไม้เมืองหนาวเบตงหรือสวนหมื่นบุปผา ซึ่งเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวด้วย โดยทั้งหมดนี้ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุม หารือยกระดับการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว