ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย

สำนักข่าวมาตรฐานที่น่าเชื่อถือได้ อัลจาซีร่า ออนไลน์ นำเสนอข่าวที่ปูดโดยสำนักข่าวสปุตนิกของรัสเซีย และขยายผลไปสัมภาษณ์บุคคลในเยอรมนี ตลอดจนสื่อเยอรมันบางฉบับ

เนื้อความคือข่าวที่รั่วจากการดักฟังของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ที่นายทหารอากาศชั้นผู้ใหญ่ของเยอรมนีได้มีการพูดคุยกันผ่านแพลตฟอร์มหนึ่งว่า อาจจะมีการส่งอาวุธร้ายแรง คือ ขีปนาวุธทอรัส ที่มีคุณสมบัติยิงได้ระยะไกล และใช้ระบบสเตลท์เพื่ออำพรางการตรวจจับของการป้องกันภัยทางอากาศรัสเซีย โดยจะส่งมอบอาวุธให้ยูเครน พร้อมกับจะส่งคนไปฝึกให้ทหารยูเครนในการใช้ขีปนาวุธพิเศษนี้อย่างน้อย 3 เดือน

เป้าหมายที่ยูเครนต้องการทำลายคือสะพานเคิร์ช ที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นดินแม่รัสเซียกับไครเมีย ซึ่งยูเครนพยายามทำลายมาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้รถบรรทุกระเบิดวิ่งไปบนสะพานโดยตั้งเวลาไว้ แต่ก็มิได้ก่อความเสียหายมากนัก รัสเซียใช้เวลาซ่อมเพียง 1-2 สัปดาห์ก็เปิดให้ใช้ได้

ครั้งที่ 2 ใช้โดรนทำลายใต้น้ำ ทำลายตอหม้อสะพาน ทำให้คานของสะพานทรุดตัว แต่ก็ซ่อมได้ไม่ถึงเดือน

ครั้งนี้หากใช้ขีปนาวุธที่ติดหัวรบอำนาจทำลายสูง คาดว่าจะทำให้สะพานขาดได้

อนึ่งสะพานเคิร์ดแห่งนี้เป็นเส้นทางที่สำคัญในการลำเลียงยุทโธปกรณ์ อาหารและสินค้าต่างๆไปไครเมีย ซึ่งสะพานนี้มีทั้งถนนและทางรถไฟ จึงนับว่ามีความสำคัญต่อไครเมียไม่น้อย

แต่ทว่าก่อนมีสะพานไครเมียก็ใช้เส้นทางน้ำลำเลียงสิ่งของดังกล่าวเป็นปกติ บวกกับการขนส่งทางอากาศที่ก็ยังคงทำอยู่เป็นปกติ รวมทั้งขนส่งคนเดินทางไปมาระหว่างรัสเซีย-ไครเมีย

นอกจากนี้รัสเซียยังมีการเจรจาจัดจ้างบริษัทจีนมาดำเนินการสร้างอุโมงค์ ลอดช่องแคบเคิร์ชเพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหากสะพานถูกทำลาย

ดังนั้นสะพานไครเมียจึงอาจลดความสำคัญในการขนส่งหลากหลายระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซีย และไครเมียลงไปอีกมาก

แต่ที่ยูเครนมุ่งมั่นจะทำลายสะพานนี้ให้ได้ก็เพื่อต้องการหักหน้าปูติน เพราะปูตินภาคภูมิใจต่อความสำเร็จในการยึดครองไครเมียคืนมา ทำให้ได้รับคะแนนนิยมจากคนรัสเซียจำนวนมาก จึงสร้างสะพานนี้ขึ้นและเดินทางไปเปิดด้วยตนเอง

ข่าวนี้ทางรัสเซียถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ถึงขนาดที่ปูตินออกมาพูดเป็นนัยว่าอาจมีการใช้นิวเคลียร์หากนาโตยังมีนโยบายก้าวร้าวกับตนโดยเฉพาะการที่นายมาครงประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกมายุให้นาโตส่งทหารไปรบในยูเครน

แต่ทางยุโรปโดยเฉพาะเยอรมนี นอกจากจะออกมาปฏิเสธแล้ว ยังไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ นอกจากมีการเน้นเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย และตำหนิระบบข่าวกรองของเยอรมนี ซึ่งแม้แต่พันธมิตรนาโต้ก็มีการตำหนิเยอรมนีในเรื่องนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีโชลท์ได้รับความอับอาย และถูกด้อยค่าลงไปอีก

อย่างไรก็ตาม สื่อไม่เป็นทางการบางกระแสของรัสเซียกลับขยายผลว่า ฝ่ายตะวันตกเตรียมเปิดสงครามใหญ่ โดยจะใช้รูปแบบสงครามตัวแทนเปิดการรบไปในหลายภูมิภาค ตั้งแต่ในยุโรป ในตะวันออกกลาง ในเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในเอเชียตะวันออก จากนั้นก็จะเปิดฉากโจมตีใหญ่ต่อรัสเซีย

นี่กระมังจึงทำให้ประธานาธิบดีปูตินต้องออกมาเตือนว่าอาจเกิดการใช้อาวุธนิวเคลียร์

และหากจะวิเคราะห์ไปแล้ว การขยายตัวของสงครามไปยังภูมิภาคต่างๆก็มีเค้าลางเกิดขึ้นประปราย จนลามมาใกล้ประเทศไทยแล้วเช่นสงครามในเมียนมา และการประโคมข่าวความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เรื่องเขตทับซ้อนทางเศรษฐกิจ คือ บ่อน้ำมันขนาดใหญ่ และหลุมก๊าซธรรมชาติ และยังมีการขยายข่าวถึงขนาดว่ากัมพูชาจะยึดเกาะกูดของไทยอีกด้วย ซึ่งหากกัมพูชาทำจริง แน่นอนไทยคงไม่ยอมแน่นอน และหากกัมพูชานำเรื่องเข้าสู่ศาลโลก ก็หวังว่าไทยคงไม่บ้าจี้ยอมไปขึ้นศาลเหมือนคราวกรณีเขาพระวิหาร

ในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ในตะวันออกกลาง การเจรจาหยุดยิงก่อนเดือนรอมฎอนก็ประสบความล้มเหลว โดยการเจรจาหยุดชะงักลง เมื่ออิสราเอลยื่นเงื่อนไขให้ปล่อยตัวประกันทันที ส่วนทางฮามาสเรียกร้องให้หยุดยิงเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ให้ปล่อยตัวนักโทษบางส่วนและให้เพิ่มความช่วยเหลือชาวกาซา ในการแลกเปลี่ยนกับนักโทษสงคราม (POW) หรือที่ตะวันตกเรียกตัวประกัน

การเจรจาใช้เวลา 3 วัน โดยต่างฝ่ายก็ตั้งแง่ว่ารอคำตอบจากอีกฝ่าย ทางเจ้าภาพคืออียิปต์โดยมีสหรัฐฯ และกาตาร์ ก็ยังไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ทั้งนี้ฮามาสปฏิเสธที่จะปล่อยตัวประกันทั้งหมดในทันที แต่จะกักไว้ 30 คนหรือมากกว่า จนกว่าทางอิสราเอลจะถอนกำลังทั้งหมดจากกาซา และปล่อยตัวนักโทษส่วนใหญ่ที่อิสราเอลคุมขังโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม หรือบรรดานักรบที่ถูกขังตลอดชีวิต อันผิดหลักการตามอนุสัญญาเจนีวาเรื่อง Prisoner of war

นอกจากนี้แกนนำฮามาส ออสมา ฮัมดาน ยังกล่าวเมื่อวันอังคารที่แล้วว่า กลุ่มเขาต้องการการหยุดยิงถาวร ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์และต้องการให้อิสราเอลถอนกำลังทั้งหมดออกไปจากกาซา เขากล่าวว่าความมั่นคงและความปลอดภัยของชาวกาซาจะดำเนินต่อไปได้ก็ด้วยการหยุดยิงถาวร การหยุดนโยบายก้าวร้าวของอิสราเอล และการถอนทหารทั้งหมดออกจากแผ่นดินกาซา

ในขณะที่เนทันยาฮู ปฏิเสธข้อเรียกร้องทั้งหมด และกล่าวย้ำว่าสงครามต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะกำจัดฮามาสทั้งหมด และนำตัวประกันกลับมา

นอกจากนี้อิสราเอลยังระงับไม่ส่งผู้แทนไปเจรจาในรอบสุดท้าย แต่เรียกร้องให้ฮามาสส่งรายชื่อตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ และให้ฮามาสแจ้งสัดส่วนตัวประกันกับนักโทษของอิสราเอลในการปล่อยตัวแต่ละครั้ง

อนึ่งอิสราเอลยังดำเนินการปิดกั้นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซาเหนือที่ยังมีประชาชนที่เหลืออยู่หลายแสนคน ในขณะนี่ก็กดดันชาวกาซาที่อพยพลงใต้ตามคำแนะนำของอิสราเอลเมื่อเริ่มการโจมตี แต่ในขณะนี้อิสราเอลกลับเพิ่มการโจมตีอย่างรุนแรงทางอากาศ ก่อนขู่จะส่งกำลังภาคพื้นดินเข้ากวาดล้าง โดยมีจุดประสงค์ที่จะผลักดันให้ชาวกาซาทะลักเข้าไปในอียิปต์ เช่น การใช้รถถังกราดยิงชาวกาซาที่กำลังรอความช่วยเหลือจากกาชาดสากลในการแจกจ่ายอาหารจนล้มตายไป 107คนบาดเจ็บนับพันจากกระสุนปืนกลของกองทัพอิสราเอล

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณว่าอียิปต์อาจยอมรับผู้อพยพชาวกาซาด้วยการรับเงินกู้จาก IMF หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ โดยขณะนี้ได้เตรียมพื้นที่รับผู้อพยพแล้ว

ด้านเยเมน ขบวนการอัลซาลุลลอฮ์ ฮูตี ได้ปรกาศจุดยืนว่าจะยังคงโจมตีเรืออังกฤษ สหรัฐฯ และอิสราเอล ตลอดจนเรือที่จะไปอิสราเอล ต่อไปหากยังไม่หยุดปิดล้อมกาซา นอกจากนี้ยังบอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์

อนึ่งเรื่องความเสียหายของเคเบิลใยแก้วนำแสงระหว่างเจดดะฮ์ และจิบูติ ที่สื่ออิสราเอลหวังตอกลิ่มซาอุฯ-เยเมน นั้น เยเมนได้ปฏิเสธไปแล้ว

ดังนั้นใครก็ตามที่ต้องการทำลายเคเบิลผ่านทะเลแดงน่าจะเป็นมือที่ 3 ที่มุ่งต่อต้านตะวันตกที่สนับสนุนอิสราเอลที่คุกคามทั้งภูมิภาค

อย่างนี้สงครามคงจะไม่สงบได้ง่ายๆ และมีโอกาสสูงที่จะบานปลายขยายตัวจากความขัดแย้งของสองขั้วอำนาจ