วันที่ 10 มีนาคม 2567 เวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สน.โคกคราม พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม สน.สุทธิสาร และ กก.สส.บก.น.2 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายอภิสิทธิ์ หรือนิด  อายุ 54 ปี  นายพิทักษ์พงษ์ หรือตา อายุ 54 ปี และนายบุญเลิศ หรือเลิศ   อายุ 58 ปี  ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์บ้านเรือนประชาชน พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน กน 3345 นครราชสีมา จำนวน 1 คัน รถแท็กซี่ สีเหลือง-เขียว หมายเลขทะเบียน 1 มก 9698 กทม. จำนวน 1 คัน รถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีบรอนทอง ทะเบียน คือ ฌบ 3191 จำนวน 1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ใช้เปลี่ยนขณะก่อเหตุ จำนวน 1 แผ่น คีม ประแจ ถุงมือ และอุปกรณ์งัดแงะจำนวนหลายรายการ พระเครื่อง พระพุทธรูป รวมกว่า 1000 องค์ 

พล.ต.ต.อรรถพล  เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมแก๊งนี้ ทางฝ่ายสืบสวนตำรวจนครบาล 2 ร่วมกับฝ่ายสืบสวนสน.โคกคราม และสน. สุทธิสาร  ทำการสืบสวนสะกดรอยติดตามกลุ่มแก๊งผู้ต้องหารายนี้มานานนับเดือน ที่เข้ามาก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในพื้นที่สน.โคกคราม สน.สุทธิสาร และปริมณฑลเขตติดต่อนครบาล โดยจะใช้รถแท็กซี่เป็นรถในการเลือกบ้านที่จะก่อเหตุ โดยทำทีว่าเข้าไปรับผู้โดยสารในหมู่บ้าน แบะจะเน้นเฉพาะบ้านที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน

ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการสะกดรอยติดตามกลุ่มแก๊งผู้ต้องหา และพบว่าเพิ่งเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงหมายจับ เข้าจับกุมพร้อมยึดของกลางที่เพิ่งก่อดหตุมาได้จำนวนหนึ่ง จากนั้นได้ทำการขยายผลไปตรวจยึดของกลางเพิ่มเติมซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพระเครื่อง พระบูชา 

เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ได้ร่วมกันกีอดหตุจริฃโดยนายบุญเบิศ จะมีหน้าที่ขับรถแท็กซี่ตระเวนเลือกบ้านที่จะก่อเหตุ โดยจะเลือก เข้าไปก่อเหตุตามหมู่บ้านที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่ดี จากนั้นจะเลือกบ้านที่ไม่มีผู้พักอาศัยโดยจะสังเกตจากบ้านหลังไหนถ้ามีย่ารกร้างหรือกุญแจคล้องเอาไว้ขึ้นสนิมก็จะเข้าไปทำการรื้อค้นทรัพย์สินซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเฉพาะพระเครื่อง พระพุทธรูปเนื่องจากมีขนาดเล็กและขายง่าย

เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปขายตลาดนัดพระเครื่องย่านรังสิต โดยจะอาศัยเปิดหนังสือพระเทียบเคียงกับของกลางที่ได้มาแล้วนำไปขายในราคาถูก ซึ่งจะรีบขายให้ได้ใน 1-2 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามของเจ้าของบ้าน ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 66-67 ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง มูลค่านับ 10 ล้าน

ฝากประชาสัมพันธ์ ถึงพี่น้องประชาชนที่มีบ้าน แต่ไม่ค่อยได้อยู่ให้มันเข้ามาตรวจตราความเรียบร้อยหรือแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พื้นที่ ให้เข้ามาช่วยตรวจตรา หากไม่อยู่บ้านเป็นเวลาหลายวัน ส่วนพี่น้องประชาชนที่เคยถูกคนร้ายเข้าไปก่อเหตุในลักษณะนี้สามารถเข้ามาดูของกลางได้ที่สน.โคกคราม

จากการตรวจประวัติคดี นายอภิสิทธิ์ ฟั ปี2552 ลักทรัพย์ สน.ปทุมวัน 2553 ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สน.ฉลองกรุง 2558 บุกรุกในเวลากลางคืน สน.ปทุมวัน 2557 ลักทรัพย์ในเคหะสถาน สถานที่ราชการ สน.มีนบุรี 2558 พยามลักทรัพย์ สภ.เมืองชลบุรี 2558 ลักทรัพย์เคหะสถาน สถานที่ราชการ สภ.เสม็ด ชลบุรี 2565 ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และล่าสุด สน.บางชัน 2567 ร่วมกันลักทรัพย์ สน.โคกคราม

ส่วน นายพิทักษ์พงษ์  ปี 2550 ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สน.สำราญราษฎร์ (3คดี) ปี 2556 ครอบครองยาเสพติด สน.พลับพลาไชย2 ปี2556 เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 สน.ปทุมวัน ปี 2557 เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 สน.ทุ่งมหาเมฆ ปี2557 ครอบครองยาเสพติด  สน.ท่าเรือ ปี2558 เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 สน.ยานนาวา ปี 2561 ครอบครองยาเสพติด สน.วัดพระยาไกร

ขณะที่ นายบุญเลิศ ปี 2548 ถูกจับคดี ยาเสพติด สภ.เมืองสิงบุรี ปี 2556 มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เรือนจำมีนบุรี ปี 2561 ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เรือนจำมีนบุรี ปี 2564 พรบ.ยาเสพติดให้โทษ เรือนจำนครพนมติดคุก 4 ครั้ง