วันที่ 11 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์​ เดินทางเข้ายื่นเอกสารขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ​ รับคดี​สำนักงานการปฏิรูปที่ดินออกเอกสารสิทธิ์​ ส.ป.ก. 4-01 ทับพื้นที่ป่าในตำบลหมูสี​ อำเภอปากช่อง​ จังหวัดนครราชสีมา​ จำนวน 5 แปลง ให้กับผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร​ และไม่ได้อยู่ในพืันที่​เป็นคดีพิเศษ​

โดย ทนายอั๋น​ ระบุว่า​ จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยทำให้พบข้อพิรุธว่าการออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบตามหลักเกณฑ์และระเบียบของ​ ส.ป.ก. เนื่องจากรายชื่อที่มีการเปิดเผยออกมาไม่มีการบอกว่าที่ดินสค.1​ ตั้งอยู่จุดไหน​ อยู่ในพื้นที่ของตำบลหมูสีหรือไม่​ จึงขอตั้งข้อสังเกต​ว่ามีการใช้เอกสารจากพื้นที่อื่นเพื่อมาขอเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่พิพาท​เพื่อผลประโยชน์​อื่นใดหรือ​ไม่​ และจากการตรวจสอบยังพบว่า​บางรายชื่อมีการออกเอกสารสิทธิ์​ให้มากกว่า 1​ครั้ง​ 

ในขณะที่เกษตรกรผู้ยากไร้ในพื้นที่กลับไม่ได้รับสิทธิ์ในที่ดินทำกิน​ จึงขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษเพื่อตรวจสอบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01​ ชอบด้วยกฎหมาย​หรือไม่​ และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่​

ทั้งนี้ ทนายอั๋น​ ​กล่าวว่า​ ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศหนักแน่นในสภาว่าจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง​แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับเจ้าหน้าที่คนใด​ ทั้งที่มีข้อมูลและหลักฐานจำนวนมาก​ ​ ทั้งยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่เข้าไปทำโรงแรมในเขตปฎิรูป​ที่ดิน​  แต่ส.ป.ก.​ไปดำเนินคดีกับนายชัยวัฒน์​ ลิ้มขิตอักษร​ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี)  

ส่วนตนขอฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร​และสหกรณ์​  วันนี้ไม่ต้องไปทะเลาะกับนก​หนูปูปีก​ที่อุทธยานแห่งชาติ​เขาใหญ่​ แต่ควรไปเรียกคืนที่ดินในพื้นที่อำเภอภูเรือ​ จังหวัดเลย​ จำนวน 6,000 ไร่​ รวมถึงที่ดินที่อำเภอมวกเหล็ก​  จังหวัดสระบุรี​ อีก​ 700​ ไร่​ ส่วนข้อพิพาท​ที่เขาใหญ่แม้จะไม่มีความชัดเจนเรื่องแนวเขต​ว่าอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานไหนแต่เมื่อพบว่ามีเจ้าหน้าที่ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ​ ก็ขอให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบและนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี​ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์​และมีรางวัดแนวเขตชัดเจน​จึงอยากถามว่าจะเอาให้ได้เลยหรอ​ 

ซึ่งทนายอั๋น​ ยังกล่าวต่อว่า เคยมีอดีตผู้สมัคร ส.ส​.ในจังหวัดบุรีรัมย์​ เล่าให้ตนฟังว่ามีการตั้งโต๊ะ​ เพื่อเปิดรับออเดอร์จากนายทุนต่างชาติ​พร้อมวางเงินมัดจำ​เพื่อจับจองที่ดิน​ และมีการออกใบเสร็จชัดเจน​ ดังนั้นต้องขอบคุณที่เจ้ากระทรวงฯ​ ลงไปแล้วทะเลาะกับนายชัยวัฒน์​ทำให้พี่น้องประชาชนจับจ้องเรื่องนี้​ทำให้ดีลไม่สำเร็จ​ เพราะเดิมที่มีการวางแผนที่จะมีการตั้งโต๊ะจองที่ดินบนเขาในอุทธยานแห่งชาติภูพาน​ จังหวัดสกลนคร​ โดยตนมองว่าการที่ ชาวบ้านจะได้เอกสารสิทธิ์​ ส.ป.ก.4-01​เป็นเรื่องยาก​ และ ส.ป.ก.จับจ้องที่จะยึดที่ดินคืน​ จึงเชื่อว่ามากกว่า​ 50​ เปอร์เซ็นต์​ทั่วประเทศน่าจะตกไปอยู่ในมือของนายทุน​ จึงอยากให้ดีเอสไอตรวจสอบและดำเนินการ