วันที่ 14 มี.ค.67 ที่ บช.ปส.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.แถลงผลการจับกุมเครือข่าย 9 เครือข่าย ผู้ต้องหารวม 19 คน ตรวจยึดยาบ้ารวม 22 ล้านเม็ด, ไอซ์ 150 กก., เฮโรอีน 157 กก. และ คีตามีน 250 กก. พร้อมของกลางรถที่ใช้ก่อเหตุ 18 คัน 

พล.ต.ท.สำราญ  กล่าวว่าตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย  เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งเน้นให้เดินหน้าเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่และขยายผลการเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับ รวมทั้งสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ     

โดยคดีที่ 1 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ตำรวจ กก.3 ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส. บช.ปส. จับกุมนายสมพงษ์    พร้อมยาบ้า 12 กระสอบ จำนวน 5 ล้านเม็ด จึงร่วมกันขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูล พบเครือข่ายนี้มี นายสมพงษ์     และนายสุรพล ยังคงลอบนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน อย่างต่อเนื่อง จนวันที่ 4 มี.ค.67 สายลับแจ้งว่า นายสุรพล  กับพวก จะนำยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จว.บึงกาฬ ไปส่งให้ลูกค้าในเขต กทม. โดยใช้รถยนต์ กระทั่งช่วงค่ำของวันเดียวกัน พบรถยนต์เป้าหมาย วิ่งเกาะกันเป็นขบวน บนถนนหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) ในพื้นที่ อ.บุ่งคล้า-อ.บึงโขงหลง จว.บึงกาฬ ต่อเนื่อง จว.นครพนม - จว.สกลนคร -จว.กาฬสินธุ์ และ จว.มหาสารคาม

ทั้งนี้เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงบายพาสกาฬสินธุ์ (ชุมชนทุ่งศรีเมืองกลาง) ต.เหนือ อ.เมือง จว.กาฬสินธุ์ ชุดจับกุมจึงสกัดจับ พร้อมแสดงตัวขอตรวจสอบรถยนต์ทั้3 คัน คือ รถยนต์ HONDA ACCORD หมายเลขทะเบียน กย 67xx กาญจนบุรี พบนายสุนัน เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ส่วนรถยนต์ HONDA CITY หมายเลขทะเบียน 4กล57xx กทม. และรถยนต์ TOYOTA VIOS หมายเลขทะเบียน กธ 26xx สระแก้ว ผู้ขับขี่พยายามขับหลบหนี มุ่งหน้า จว.มหาสารคาม ก่อนที่ทะเบียน สระแก้ว ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม

ส่วนคนขับ วิ่งขึ้นรถอีกคันเพื่อหลบหนี เมื่อขับมาได้ระยะหนึ่งจึงจอดรถทิ้ง และวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ทั้งนี้ ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนขับรถทั้ง 2 คัน คือ นายขจรเกียรติ์ ได้บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมหาสารคาม ส่วน นายสุรพล ถูกควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนวรบุตร ใน อ.เมือง จว.มหาสารคาม ก่อนจะนำทั้งสองมาที่จุดทิ้งรถเพื่อตรวจค้น เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นคุมตัวทั้ง 3 คน มาตรวจค้นรถที่ถูกจอดบริเวณลานจอดโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม พบกระสอบต้องสงสัยวางอยู่เบาะหลังภายในห้องโดยสาร 2 กระสอบ และท้ายกระโปรงรถ 2 กระสอบ ตรวจสอบเป็นยาบ้าประมาณ 1,500,000 เม็ด นอกจากนี้ยังพบเฮโรอีน 20 แท่ง น้ำหนัก 7 กิโลกรัม  


 
ขณะที่ คดีที่ 2 จากการสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบเครือข่ายยาเสพติดมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน เพื่อส่งต่อในพื้นที่ตอนในของ จว.เชียงใหม่ โดยใช้รถกระบะสีเทาลำเลียงและมักนำยาเสพติดอำพรางมากับพืชผลทางการเกษตรอยู่อย่างต่อเนื่อง กระทั่งช่วงสายของวันที่ 5 มี.ค.2567 ชุดจับกุมตรวจสอบพบรถเป้าหมายเป็นรถกระบะติดคอกเหล็ก หมายเลขทะเบียน ยน-79xx เชียงใหม่ ขับมุ่งหน้าไปยัง อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ จึงติดตามและสกัดจับไว้ได้บริเวณโรงเรียนสบเปิงวิทยา ต.สบเปิง อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ มีนายอรรถพล เป็นคนขับรถ ภายในห้องโดยสารและท้ายกระบะมีกระสอบต้องสงสัยถูกวางอยู่จำนวน 30 กระสอบ ตรวจสอบเป็นยาบ้ารวม 6,000,000 เม็ด เบื้องต้น จับกุม นายอรรถพล พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
สำหรับคดีที่ 3 เมื่อวันที่ 1 มี.ค.67 เวลา 15.00 น. ตำรวจ บก.ปส.4 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร สนธิกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ขณะปฏิบัติหน้าที่ พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒน 1xxx กทม. เป็นรถยนต์ที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังขับผ่านมา ชุดจับกุมจึงเรียกให้หยุด เพื่อตรวจสอบ พบ นายปราการ เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นตำรวจจึงนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์ พบวัตถุมีลักษณะเป็นก้อน ๆ บริเวณกระบะท้าย จึงตรวจค้นอย่างละเอียดพบยาบ้า 6 แสนเม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังกระบะท้ายโดยมีผ้าใบสีดำคลุมปิดทับไว้ สอบสวน นายปราการ สารภาพว่าถูกว่าจ้างจากนายเป้ ให้ลำเลียงยาบ้าจำนวนนี้มาจาก อ.ลาดหลุมแก้ว จว.ปทุมธานี ไปส่งลูกค้าใน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา  


 
คดีที่ 4 สืบเนื่องจากการจับกุมไอซ์  1,000 กก. ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.4 ได้สืบสวนขยายผล จนพบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายนี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่ใช้รถกระบะ ISZUSU สีเทา หมายเลขทะเบียน ผพ – 2xx สงขลา และรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผค-6xxx สงขลา ตำรวจจึงได้เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 9 มี.ค.67 เวลา 17.30 น.พบความเคลื่อนไหวของรถทั้ง 2 คัน เคลื่อนตัวจากภาคใต้ไปยังพื้นที่ภาคกลาง และขับกลับเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมรถยนต์อีก 1 คัน ในลักษณะขับนำหน้าและขับตามกัน ชุดจับกุมจึงประสานตำรวจทางหลวงพัทลุง ตั้งจุดตรวจบริเวณหน่วยบริการประชาชน เมื่อรถต้องสงสัยขับผ่านมา จึงเรียกเพื่อทำการตรวจค้น พบ น.ส.ปรียานุช เป็นผู้ขับขี่ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมารถกระบะลักษณะตีคอกสูง หมายเลขทะเบียน ผค-6xxx สงขลา ขับมาถึงจุดตรวจ พบนายธวัชชัย เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้น   พบเฮโรอีน น้ำหนัก 150 กก. และ คีตามีน น้ำหนัก 250 กก. ถูกซุกซ่อนอำพรางมากับพืชผลทางการเกษตร สอบสวนสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้ลำเลียงยาเสพติดทั้งหมดนี้มาจาก จว.อ่างทอง ไปส่งยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วน น.ส.ปรียานุช รับว่าได้ขับรถนำทางมาเพื่อสำรวจเส้นทางล่วงหน้า 

ขณะที่ คดีที่ 5 ก่อนการจับกุม ตำรวจ บก.สกส. ได้รับแจ้งมีเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง ไปส่งลูกค้าในภาคใต้ โดยจะใช้รถยนต์ 2 คัน กระทั่งวันที่ 29 ก.พ.67 ช่วงเที่ยงต่อเนื่องถึงเย็น พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมาย จึงจัดกำลังสะกดรอยติดตาม จนสามารถจับกุมนายมนตรี พร้อมรถยนต์หมายเลขทะเบียน กน 50xx ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 100 แพ็ค รวม 1,000,000 เม็ด ได้ที่บริเวณถนนเอเชีย หมายเลข 41 กม. อ.หลังสวน จว.ชุมพร ส่วน นายปฐม  และ นายสุวรรณ ได้ที่บ้านเลขที่ 245 หมู่ที่ 5 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กค 18xx ประจวบคีรีขันธ์ ที่ทำหน้าที่สำรวจด่านตรวจ 

ทั้งนี้ คดีที่ 6 เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 67 ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ปส.4, บก.ขส.บช.ปส., ภ.จว.สุพรรณบุรี และ บก.ทล. จับกุม 2 ผู้ต้องหา สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียง ยาเสพติด จากพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำมาส่งลูกค้าที่ จว.สุพรรณบุรี จะใช้รถกระบะ และ รถยนต์ ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่าน จว.สกลนคร - อ.ภูพาน - จว.กาฬสินธุ์ - จว.มหาสารคราม - จว.ขอนแก่น - วิ่งเส้นถนนมิตรภาพ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าระวังและติดตามรถเป้าหมายทั้ง 2 คัน กระทั่งวันที่ 2 มี.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถยนต์ จึงจัดกำลังสะกดรอยติดตาม แต่ผู้ต้องหารู้ตัวจึงทิ้งรถและแยกย้ายกันหลบหนี พบรถกระบะติดหลังคาแครี่บอย หมายเลขทะเบียน 2 ฒช 16xx กทม. ได้ที่หน้าบ้าน หมู่ 2 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จว.สุพรรณบุรี พบกระสอบต้องสงสัย 6 กระสอบ ตรวจสอบภายในเป็นยาบ้ารวม 2,400,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่หลังกระบะ ต่อมาจับกุม นายเกรียงศักดิ์ ได้บริเวณ 4 แยกกำนันดิเรก ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรถยนต์ Honda หมายเลขทะเบียน ฆบ 69xx กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสำรวจเส้นทาง ก่อนจะจับกุมนายพชร ได้ริมถนนพหลโยธิน (ขาเข้า) หน้าค่ายอดิศร ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จว.สระบุรี  

คดีที่ 7 วันที่ 2 มี.ค. 67 ตำรวจ บก.สกส., ภ.จว.ตาก , ภ.จว.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหาสาว สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สกส. รับแจ้งว่ากลุ่มบุคคลมีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จว.ตาก โดยใช้รถยนต์ กท 14xx พะเยา กระทั่งวันเกิดเหตุพบรถเป้าหมายขับมุ่งหน้า จว.ตาก ชุดจับกุมจึง ประสานงานกับตำรวจ สภ.วังประจบ ภ.จว.ตาก เพื่อเรียกตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวบริเวณด่านตรวจ พบ น.ส.ทักษอร เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.สุมาลี  เป็นผู้โดยสาร สอบถามพบพฤติการณ์น่าสงสัย จึงเชิญตัวและนำรถยนต์ไปที่ด่านตรวจ    ยาเสพติดแม่พริก เพื่อ X-Ray พบวัตถุต้องสงสัย เมื่อเปิดตรวจสอบดูพบเป็นยาบ้า 211 มัด รวม 422,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับที่ถูกดัดแปลงใต้ช่องเก็บของท้ายรถยนต์ 

คดีที่ 8 สืบเนื่องจาก บก.สกส. ได้รับแจ้งว่ามี นายนพดล เครือข่ายยาเสพติดยังมีพฤติการณ์เคลื่อนไหวรับจ้างขนลำเลียงยาเสพติดอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทราบว่าจะลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จว.เชียงราย ไปส่งให้กับลูกค้า ในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑล กระทั่งวันที่ 6 มี.ค.67 ได้รับแจ้งว่า นายนพดล จะใช้รถตู้ และ รถยนต์ในการลำเลียง จึงสะกดรอยติดตาม พบรถตู้ หมายเลขทะเบียน นจ 41xx กทม เข้าเติมน้ำมันที่ปั๊มในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ชุดจับกุมจึงเข้าควบคุมตัว นายนพดล คนขับรถ และมี น.ส.สิรีธร โดยสารมาด้วย หลังจากซักถามทั้ง 2 คน ให้การไม่ตรงกับเส้นทางที่เดินทางมา จึงเชิญตัวและนำรถยนต์เข้าเครื่องเอกซเรย์ ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ผลการตรวจสอบ พบไอซ์ จำนวน 150 ห่อ ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถตู้ รวม 150 กก. จากนั้นได้ขยายผลจับกุมนายวัชรพล ซึ่งทำหน้าที่รับช่วงต่อจากนายนพดลฯ เพื่อนำยาเสพติดไปส่ง  ได้ที่ลานจอดรถห้างโลตัส สาขาศรีนครินทร์ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ

คดีที่ 9 ตำรวจ บก.สกส., บก.ปส.3, บก.ขส.บช.ปส., ป.ป.ส.และ บก.ทล. ร่วมจับกุม 2 สามีภรรยาลำเลียงยาเสพติด หลัง บก.สกส. ได้รับแจ้งว่ามี นายอดิสรณ์, นางกันยา 2 สามีภรรยา พร้อมพวก จะใช้รถบรรทุกเสริมข้าง พร้อมลูกพ่วง, รถยนต์ 3 คัน และ รถกระบะ 1 คัน เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติด จาก อ.ภูซาง จว.พะเยา จึงจัดกำลังเฝ้าติดตาม กระทั่งวันที่ 11 มี.ค.67 ระหว่างที่รถยนต์ หมายเลขทะเบียน กต 41xx พะเยา ซึ่งเป็นรถนำเส้นทาง มีนางกันยา เป็นคนขับ มาถึงด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ขณะเดียวกันรถบรรทุก หมายเลขทะเบียน 71 24xx เชียงใหม่ มีนายอดิศรณ์ เป็นคนขับก็ได้แวะจอดที่ปั๊มน้ำมัน อย่างมีนัยยะ ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบและนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์ ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี พบยาบ้า 50 กระสอบ รวม 10,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระบะของลูกพ่วง ของรถบรรทุกดังกล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.ท.สำราญ  กล่าวว่า ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 –วันที่  12 มีนาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญได้ 126 คดี ผู้ต้องหา 219 คน ของกลางเป็นยาบ้า 166,697,573 เม็ด, ไอซ์ 4,296 กก., เฮโรอีน 250 กก., คีตามีน 1,451 กก. และ ยาอี 498 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่าประมาณ 709 ล้านบาท 

#ยาบ้า #เฮโรอีน #ภาคใต้ #ข่าววันนี้