EKH เผยการทำรายการบิ๊กล็อตหุ้นสามัญจำนวน 8.20 ล้านหุ้น หรือ 1.15 % และรายการบิ๊กล๊อต EKH-W1 จำนวน 27.81 ล้านหุ้น หรือ 22.75% เป็นการทำรายการของบล.เกียรตินาคินภัทร (KKPS) เพื่อลงทุนระยะยาว เนื่องจากมั่นใจศักยภาพของธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดด ขณะ “นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร” ระบุการที่ KKPS สนใจเข้ามาถือหุ้น EKH สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และในอนาคตมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก มั่นใจทำให้มีโครงสร้างการถือหุ้นที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ยืนยันนโยบายการดำเนินงานและโครงสร้างการบริหารไม่เปลี่ยนแปลง

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาได้มีการทำรายการขายหุ้น EKH ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (Big Lot)  ซึ่งเป็นการทำรายการขายหุ้นของหุ้นสามัญ จำนวน 8.20 ล้านหุ้น หรือ 1.15 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และรายการขายใบสำคัญแสดงสิทธิฯ หรือ EKH-W1 จำนวน 27.81 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 22.75% ของใบสำคัญแสดงสิทธิฯ คงเหลือ ในราคาหุ้นละ 7.45 บาท และหน่วยละ 1.45 บาท ตามลำดับ คิดเป็นมูลค่ารวม 101.41ล้านบาท โดยทำรายการขายให้กับ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS

สำหรับการทำบิ๊กล็อตในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ปัจจัยพื้นฐานบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดยังคงดำเนินธุรกิจไปตามปกติ และไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการ การดำเนินงานของบริษัทฯ แต่กลับเป็นผลดีกับ  EKH โดยตรง เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่กลุ่ม KKPS มีต่อบริษัทฯ ซึ่งเชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพและปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้ในอนาคต สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี และมีแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนเพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตเป็น Growth Stock ในทุกมิติ 

“การขายบิ๊กล็อตให้แก่กลุ่ม KKPS เชื่อว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจและแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต ซึ่งการเข้ามาเป็นพันธมิตรของกลุ่ม KKPS สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพการทำธุรกิจและการเติบโตในอนาคตที่จะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ขณะที่บริษัทฯ แผนการดำเนินธุรกิจในปี  2567 ยังคงมุ่งเน้นและมองโอกาสที่จะขยายการให้บริการด้านสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะโรคเฉพาะทางและโรคที่มีการรักษาแบบซับซ้อน และตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% บริษัทจึงขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและนโยบายบริหารจัดการของบริษัทแต่อย่างใด” นายแพทย์อำนาจกล่าว