นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวคืบหน้าการติดตั้งปรับปรุงไฟส่องสว่างกรุงเทพมหานครว่า ที่ผ่านมา กทม.ซ่อมแซมไฟส่องสว่างไปแล้วกว่า 50,000 ดวง ยังค้างอยู่ในระบบประมาณ 490 ดวง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นหลอดไฟ LED แล้ว 25,000 ดวง แบ่งเป็น แนวถนนใหญ่ในความรับผิดชอบของสำนักการโยธา จำนวน 5,000 ดวง และตามชุมชนต่าง ๆ ในความรับผิดชอบสำนักงานเขต จำนวน 20,000 ดวง ส่วนปี 2567 ตั้งเป้าเปลี่ยนเป็นหลอด LED เพิ่ม จำนวน 60,000 ดวง แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะละ 30,000 ดวง ปัจจุบันดำเนินการระยะแรกไปแล้ว 10,000 ดวง แบ่งเป็นความรับผิดชอบของสำนักการโยธา 5,000 ดวง สำนักงานเขต 5,000 ดวง

 

นายวิศณุ กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญที่พบคือ การลักขโมยสายไฟและหม้อแปลง ทำให้ไฟส่องสว่างบนถนนดับทั้งเส้น ซึ่งปัจจุบันพบการลักขโมยดังกล่าวจำนวนมาก อยู่ระหว่างตามจับและหาวิธีป้องกันเพิ่มเติม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ 4 กรณี ได้แก่ ขโมยสายไฟย่านเกษมสันต์ เขตปทุมวัน เป็นเด็กอายุ 14 ปี พักอาศัยในพื้นที่คลองเตย จากการสืบสวนพบว่าทำเป็นอาชีพ และทำมาแล้วหลายพื้นที่ อีกกรณีคือ ขโมยสายไฟฟ้าบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม พบผู้ก่อเหตุแต่งตัวลักษณะคล้ายคนไร้บ้าน รวมถึงที่บริเวณถนนราชดำริ พบถูกขโมยหม้อแปลงไฟฟ้า และอีกกรณีคือ ใช้รถยนต์ทำงานเป็นทีมคล้ายเจ้าหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับสายไฟฟ้า ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ และอยู่ระหว่างติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อป้องกัน ซึ่งยอมรับว่า การป้องกันทำได้ยาก และ กทม.ไม่มีอำนาจจับกุม

 

ส่วนกรณีผู้ขับขี่บนทางเท้า จากการประชุมร่วมกับทีมงาน พบว่า สาเหตุสำคัญคือจุดกลับรถไกลเกินไป โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า นายวิศณุ มองว่า การจับกุมผู้ขับขี่บนทางเท้าเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ สิ่งสำคัญคือการออกแบบปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่ง กทม.พยายามวางแผนดำเนินการ เช่น การเชื่อมต่อระหว่างซอยต่าง ๆ ในชุมชนให้สามารถทะลุถึงกันได้ การกำหนดช่องทางเฉพาะของรถมอเตอร์ไซค์/รถจักรยาน เพื่อให้การสัญจรสะดวกขึ้น รวมถึงการปรับปรุงจุดกลับรถบางจุด อย่างไรก็ตาม หาก กทม.ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แล้ว แต่ยังพบการกระทำผิดอยู่ จะมีบทลงโทษที่รุนแรงต่อไป