วันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่บริเวณคลองโอ่งอ่าง นายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. นำคณะสื่อมวลชน สำรวจพื้นที่บริเวณคลองโอ่งอ่าง หลังมีผู้ประกอบการร้องเรียนว่า การค้าขายไม่คึกคักเหมือนก่อน หมดความเป็นแลนด์มาร์คดึงดูดนักท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร

 

นายเกรียงยศ กล่าวว่า จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณริมคลองโอ่งอ่างพบว่า ปัจจุบันลูกค้าลดน้อยลงมาก แม้จะเป็นช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ ขณะที่กทม.ยังมีการจัดกิจกรรมอยู่ แต่กิจกรรมที่จัดไม่เหมือนสมัยก่อน เช่น ไฟประดับ ไฟส่องสว่าง เรือคายัค และกิจกรรมเรียกนักท่องเที่ยวเหมือนในอดีตหายไป ทำให้หมดเสน่ห์ความเป็นแลนด์มาร์คคู่คลองโอ่งอ่าง

 

นอกจากนี้ ยังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการ ชุมชน และประชาชนว่า การค้าขายในชุมชนบริเวณคลองโอ่งอ่างเงียบเหงามาก ตนได้นำปัญหาไปหารือในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้คลองโอ่งอ่างทิ้งร้าง 

 

ทั้งนี้ ในสมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีโครงการพัฒนาคลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และคลองเปรมประชากรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำได้ดีในสมัย พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯกทม. ตนจึงนำไปหารือในสภาฯ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาการทิ้งร้าง ซึ่งไม่ได้เกิดจากผู้ประกอบการหรือชุมชน จากการเดินสำรวจผู้ประกอบการอยากค้าขายเหมือนเดิม แต่การค้าขายทำได้น้อยลงมาก จะเห็นมีว่าหลายร้านปิดตัวลงเพราะอยู่ไม่ได้ ปัญหาอีกอย่างคือการจัดกิจกรรมบริเวณคลองโอ่งอ่างน้อยลงมาก กทม.ควรจัดต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรมถนนคนเดินควรกลับคืนมา นี่คือเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ

 

นายเกรียงยศ กล่าวว่า จะปล่อยให้ประชาชนบริเวณคลองโอ่งอ่างทำกันลำพังไม่ได้ ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยกัน อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมกรุงเทพมหานครที่พัฒนาโครงการระยะที่ 2 และ 3 ไปถึงป้อมมหากาฬและปากคลองตลาด ซึ่งจะทำให้คลองเชื่อมกัน ถือเป็นสิ่งดี ทั้งนี้ หากคลองเชื่อมกันแล้วแต่ถูกปล่อยทิ้งร้างแบบคลองโอ่งอ่างก็ไร้ประโยชน์

 

ส่วนประเด็นที่ สส.พรรคก้าวไกล โยงว่าตนนำเรื่องนี้มาพูดเป็นประเด็นการเมืองนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่ที่ทำเพราะว่าตนได้รับเรื่องร้องเรียนมา ส่วนตัว พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯกทม.กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน ไม่มีเรื่องขัดแย้งกัน แต่สิ่งไหนที่ช่วยกันได้เราต้องช่วยกัน ขอยืนยันว่าไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง

 

"แม้ว่ากทม.จะจัดกิจกรรมถนนคนเดินวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ไม่ได้จัดทุกสัปดาห์ จะจัดช่วงเทศกาลเท่านั้น เช่น สงกรานต์หรือปีใหม่ ไม่เพียงพอ เพราะผู้ประกอบการลงทุนไปมาก สิ่งที่ผู้ประกอบการและคนในชุมชนต้องการขณะนี้คือ จัดกิจกรรมให้คึกคัก ไม่จำเป็นต้องคึกคักเหมือนในอดีต เพื่อช่วยดึงดูดคนเข้ามาเที่ยว การที่คนมาเที่ยวแล้วกลับไปบอกต่อว่าไม่มีอะไร ตรงนี้ถือว่าเสียหายมาก การจัดกิจกรรมของ กทม.ในปัจจุบัน มีแค่ดนตรีเปิดหมวก แต่สิ่งอื่น ๆ หายไป เสน่ห์ของคลองโอ่งอ่างหายไป เช่น เรือคายัค ความเป็นแลนด์มาร์คหายไป ถ้าเทียบกับในอดีต" นายเกรียงยศ กล่าว