สภาเดือด! ปมฝายซีเมนต์! "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ซัดกันกลางสภาฯกว่า 1 ชั่วโมง “สุรเชษฐ์” แฉหนัก "เพื่อไทย" สมคบ "สว." อยู่เบื้องหลังดันโครงการซัดแจกเสื้อโหล สร้างฝายแกนดินซีเมนต์ท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 3 พันแห่ง 1,255 ล้าน เร่งรีบดำเนินการ ชี้กล้าประกันความทนทาน 2 ปีหรือไม่ แนะกระจายงบฯเป็นธรรมทั่วถึง อย่ามือใครยาวสาวได้สาวเอา ด้าน ’วิสุทธิ์’ ของขึ้นด่ากลับ ไม่รู้จริงอย่าส.ใส่เกือก ท้าลงพื้นที่ดูให้เห็นกับตาแลก "ไขก๊อก"

วันที่ 21 มี.ค.2567 เวลา 13.20 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง  ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2567 วาระ2-3 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท  เป็นวันที่สอง เข้าสู่การพิจารณามาตรา20 งบประมาณกระทรวงมหาดไทย ที่กมธ.ตัดลดงบประมาณเหลือ290,098,048,900บาท จากที่เสนอมา 291,535,042,000บาท

โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. อภิปรายตัดลดงบฯกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในโครงการฝายแกนดินซีเมนต์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) 3,000กว่าแห่งทั่วประเทศจำนวน 1,255 ล้านบาทว่า เปรียบเหมือนเป็นการแจกเสื้อโหลชัดเจน เนื่องจากมีไซส์ S M L ให้เลือก เป็นฝายดำเนินการช่วงกลางน้ำ ที่อาจมีแบบมาตรฐานแต่ไม่ได้ผ่านการรับรองทางวิชาการจากหน่วยงานที่ได้รับความน่าเชื่อถือนอกจากนี้ยังมีการเร่งรีบดำเนินการอย่างผิดสังเกต โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการเพียง12วัน ลองคิดดูว่าจะไปเลือกตำแหน่งทำฝายให้ได้รับการยอมรับ มีการเขียนแบบ ประมาณราคาต่างๆได้อย่างไรในเวลาเท่านี้ ถ้าไม่มีบางพื้นที่ได้ข้อมูลมาก่อนแล้วไปแจกงบฯกันอย่างผิดสังเกต ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการแทรกแซงกระบวนการพิจารณางบฯอีกด้วย

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการนำดินมาผสมซีเมนต์เป็นฝาย จะมีความแข็งแรงทนทานอยู่ได้อย่างน้อย2ปีหรือไม่ เราได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ต่อให้เข้าข้อยกเว้นที่นำดินมาผสมซีเมนต์ มันไม่เหมือนงานคอนกรีตที่ต้องประกันผลงาน2ปี เพราะมีข้อยกเว้นเป็นช่องว่างทางกฎหมายจากมติ ครม.ในอดีต มาใช้ได้ ในกรณีการนำดินมาผสมซีเมนต์ ดังนั้นหากเจตนาดีจริง แล้วคิดว่าฝายจะทนทานอยู่ได้ดี เหตุใดไม่กล้ายืนยันในการประกันผลงาน2ปี แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่างบฯที่อนุมัติไปอยู่ได้อย่างน้อย2ปี ขณะเดียวกันยังไม่มีใบอนุญาตมาแสดง รวมถึงมีการการเลี่ยงบาลีโดยระบุว่าเป็นฝายกึ่งถาวร มันก็คือแบบชั่วคราว ต่อไปหากฝายพังขึ้นมาจะกลายเป็นมลพิษถาวร ทำให้ลำน้ำตื้นเขิน เป็นการเปลี่ยนสภาพลำน้ำไปโดยสิ้นเชิง แล้วใครจะรับผิดชอบ

“มีการโฆษณาเกินจริงเรื่องการกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร ซึ่งฝายไม่ได้มีไว้เพื่อเก็บน้ำ แต่เป็นการยกระดับน้ำแล้วต้องมีระบบชลประทานเพื่อนำน้ำเข้าไปในพืชสวนไร่นา ส่วนการใช้ดินมาผสมซีเมนต์ มันเป็นไปได้ยากมากในการปฏิบัติ เพราะผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียวได้ยากมาก เขาถึงนิยมใช้คอนกรีตที่มีความทนทานมากว่า อาจลองผสมกันในห้องแล็ปแล้วเมคออกมาให้ดูดี แต่หน้างานจะผสมกันอย่างไรให้เป็นเนื้อเดียวกัน มันไม่เคยเกิดขึ้นในโลก ถ้าทนทานจริง กล้ารับประกันผลงาน2ปีหรือไม่” นายสุรเชษฐ์ ระบุ

นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนคิดว่าในเชิงระบบงบประมาณ เราควรต้องออกจากระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ที่แต่ละพื้นที่ดึงงบฯไปให้ได้มากที่สุด ควรกระจายงบฯลงท้องถิ่นอย่างจริงจัง ทั่วถึง เป็นธรรม ถ้าเขาอยากสร้างฝายควรเลือกได้ว่าใช้วัสดุใด หรือถ้าไม่อยากได้ฝาย แต่อยากได้บ่อน้ำ เขาก็ควรจะเลือกได้ จึงไม่ควรใช้วิธีแจกเสื้อโหลหรือมือใครยาวสาวได้สาวเอา ตนขออย่าดราม่าเยอะแยะคนทั้งภาคเหนือภาคอีสานมาบอกว่าลำบาก เอาสมเหตุสมผลหน่อย เพราะมันมีแค่แหล่งน้ำไม่กี่แห่งที่ได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวมีการถกเถียงกันมากที่สุดในกมธ.ฯชุดนี้ ดังนั้นตนขอให้มีการชี้แจงกันด้วยเหตุผล ไม่ต้องดราม่ากันมาก หากรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยอยากดำเนินการจริงๆ ก็สามารถใช้งบฯปี2568 หรืองบกลางก็ได้ แต่ต้องมีการประกันผลงานด้วยอย่างน้อย2ปี

“แพงจริง พังจริง และจะเป็นปัญหาทิ้งมลพิษถาวรในอนาคต และหากไม่รับประกันถ้าพังใครจะรับผิดชอบ ท่านก็ไม่ตอบคำถาม และแม้ว่าหน่วยงานที่จะดำเนินการโครงการดังกล่าวมีสิทธิอุทธรณ์ แต่ก็จำนนต่อเหตุผลทำให้ไม่อุทธรณ์ในชั้นกมธ.ชุดใหญ่ ดังนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่จะตัดงบก้อนนี้ นอกจากนี้ มีข้อสังเกตด้วยว่ามีความพยายามอย่างชัดเจนจากสส.พรรคเพื่อไทย ในกมธ. และสว.บางท่าน อยู่เบื้องหลังการตั้งงบฝายแกนดินซีเมนต์ ครั้งนี้ ที่สำคัญหากฝ่ายค้านไม่มีเหตุผลมากพอ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตัดงบประมาณสำเร็จ” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

ทำให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า การที่นายสุรเชษฐ์บอกว่า พรรคเพื่อไทยอยู่เบื้องหลังรวมหัวกันเหมือนประหนึ่งว่าพวกตนจะโกงบ้านโกงมือสาวได้สาวเอา ตนว่าเสียหายหมดที่พูดแบบนี้เพราะตนเป็นสส.ภาคเหนือ ภาคอีสาน อยู่ในพื้นที่ชนบทแล้งๆก็แล้ง น้ำก็ท่วม ปีที่ผ่านมาเสียหายมาก จะเกิดเอลนีโญ่แล้งไป 3 ปี และมีโครงการไหนที่ทำฝายคงทนถาวรให้ทั้งประเทศ จะเก็บน้ำไว้ ตนก็มีสามัญสำนึก ดังนั้นการที่ไปศึกษาเรื่องซอยซีเมนต์ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยเขียนมาเอง ก็มีอาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่นทำวิจัยมา 10 ปี และทดลองทำในภาคอีสานมาเยอะแยะ และนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้า ได้ทำไปทดลองใช้หลายพื้นที่ พวกตนก็ไม่ได้บุ่มบ่ามที่จะทำ ก็ได้ติดตามไปดูทั้งจังหวัดแพร่ถึง105 เมตรในแม่น้ำยม ทำ 3 ตัวผ่านมา 3 ปียังไม่พัง จังหวัดน่านก็ทำไปหลายร้อยตัว ใช้เงินชาวบ้าน ออมเงินกันทำก็ไม่เห็นเสียหายสักตัว และในจังหวัดพะเยา อ.เชียงม่วน ในพื้นที่แห้งแล้ง แจกน้ำทุกปีได้ทดลองทำผ่านมา 3 ปียังไม่พังสักตัว

“ที่กล่าวหาว่าแบบไม่มี ไม่จริง แบบนี้รับรองจากกรมโยธาและผังเมือง ได้ขอให้นายชาดา ไทยเชษฐ์ รมช.มหาดไทยเร่งรัดจนได้แบบมา ส่วนกระบวนการมีเวลาน้อย กระทรวงมหาดไทยแจ้งไปยังท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ใช่มือใครยาวสาวได้สาวเอา พวกผมก็ไม่ได้บอกว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้นได้ เขาส่งหนังสือไปทั่วประเทศ ทุกคนทราบได้ ดังนั้นมือใครยาว ต้องพูดให้ชัดเจน อย่างนี้กล่าวหาใส่ร้ายกัน ที่ท่านพูดทำเป็นผู้มีความรู้ จะไปขอทำไมกรมเจ้าท่า ลำห้วยงบเพียง 2-3 แสน ไม่ใช่แม่น้ำ ถ้าเป็นแม่น้ำต้องไปขอกรมเจ้าท่า ต้องไปดูข้อเท็จจริง ไปดูก่อน อย่าจินตนาการ ดังนั้นผมขอท้านายสุรเชษฐ์ วันเสาร์นี้พร้อมหรือไม่ จะไปดูพื้นที่ที่ไหนก็ได้ จังหวัดน่าน พะเยา แพร่ ไปพิสูจน์ดู ถ้าไม่จริงอย่างที่ผมพูด ผมลาออก ถ้าท่านผิดจริงท่านต้องลาออก เพราะโครงการนี้ถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ท่านคิดแบบนี้เป็นผู้แทนได้อย่างไร ไม่รู้ อย่าเสือก” นายวิสุทธิ์ กล่าว

ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า จ.แพร่ ถูกน้ำป่ามาโดยตลอด ซึ่งนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สว. ท่านได้วิจัยกับทางมหาวิทยาลัยคิดค้น การทำฝายแกนดินซิเมนต์และสามารถใช้ได้ผลจริงมีการทดลองแล้วที่จ.แพร่แก้ไขปัญหาอุทกภัย และปัญหาเอลนีโญ่ ไม่ใช่เรื่องที่ท่านเอามาบอกว่ามีเบื้องหลังจับมือกันทำระหว่างพรรคเพื่อไทยกับวุฒิสภาสมาชิกจับมือกันทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไปลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง ตนอยากรู้ว่านายสุรเชษฐ์กับพรรคก้าวไกลจะลงพื้นที่ภาคเหนือได้อย่างไรถ้ายังคิดอย่างนี้ คิดแบบนี้ เอาอคติมาคิดบอกว่าเร่งรีบใช้เวลา 12 วันออกแบบล่วงหน้า แทรกแซงการพิจารณางบประมาณราคาต่ำกว่า 500,000 บาท ซึ่งท้องถิ่นเป็นคนดำเนินการ คนคิดคือมหาวิทยาลัยจับมือกันเพื่อหาผลประโยชน์ อย่างแน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นคือการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน อย่ามากล่าวหากันแบบนี้ ตนจะจดชื่อนายสุรเชษฐ์ให้ประชาชนเห็นว่าวิธีคิดของท่านถูกหรือผิด

ต่อว่านายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส. สุโขทัยพรรคเพื่อไทย ใข้สิทธิ์พาดพิงแจงชี้ประเด็นกรณีปูนซีเมนต์ผสมดินเพื่อทำฝายแกนดินซิเมนต์ว่า มาบอกว่าพี่น้องที่อยู่ใต้น้ำกินผงซีเมนต์ ปัญญาอ่อนหรือไม่ ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรสส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงขอให้ถอนคำว่าปัญญาอ่อน เนื่องเป็นโรคที่มีคนประสบมาพูดในสภา ด้านนายจักรวาลจึงขอถอนคำพูด ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุมสส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงผู้ชี้แจงอพิปรายไม่ตรงประเด็น ทำให้นายปดิพัทธ์ วินิฉัยให้ผู้อภิปรายประเด็นที่พาดพิงต่อ

ขณะที่น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. ชี้แจงว่า ยืนยันไม่มีกมธ.ท่านใดไม่เห็นด้วยกับฝาย แต่ว่าวิธีการที่จะทำให้ฝายเกิดขึ้นจะต้องมีขั้นตอนอย่างไร และประเภทของฝายควรจะเป็นอย่างไร มีการเปิดให้ยื่นโครงการเข้ามาเพียง 12 วัน แต่ไม่ได้มีการศึกษาสภาพของห้วย หรือการไหลของน้ำ ลุ่มน้ำ และคนที่อยู่ท้ายน้ำจะได้รับผลกระทบอย่างไร จึงคิดว่ายังมีโอกาสในปีนี้ถ้าหากจะมีการขอทำฝายมาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้พิจารณามาเป็นอย่างดี เพราะไม่ได้มีแค่ 3 ไซส์ แต่สิ่งที่นายสุรเชษฐ์ เสียหายอย่างไรไม่ค่อยชัดเจน แต่นายสุรเชษฐ์พยายามชี้ให้เห็นว่าถ้าไม่มีกมธ.หรืออนุกมธ.เสียงข้างมากที่อยากจะเสี่ยงอนุมัติโครงการที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการทุจริต เพราะมีราคาค่อนข้างแพงเกินจริง อาจจะรีบร้อนและเร่งรัดมากเกินไป อาจจะไม่มีการศึกษา ถ้าสภาฯต้องการที่จะลงมติคืนงบประมาณในส่วนนี้ได้ ถ้ามีสส.ติดใจเรื่องนี้ให้มีการลงมติกัน ต้องการโครงการนี้ 1,200 บาทจริงหรือไม่

จากนั้น สส. พรรคก้าวไกล ต่างลุกกันขึ้นช่วยกันประท้วงขอให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ช่วยควบคุมการประชุม ไม่ปล่อยให้สส.พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิพาดพิงจนเกินเลย
โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การมาท้ากันแบบนี้ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ขอให้ประธานช่วยควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความระเบียบเรียบร้อยด้วย จะปล่อยให้พูดพาดพิงแบบนี้ไม่ได้

แม้นายปดิพัทธ์ จะพยายามควบคมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็ยังมีการปะทะคารม ตอบโต้กันไปมาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอยู่เป็นระยะๆ โดยใช้เวลาถกเถียงในประเด็นนี้นานร่วมชั่วโมง

หลังจากอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว ในที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบมาตรา 20 ตามที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอ

แต่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้น ทักท้วงว่า ตนสงสัยเรื่องคะแนน เห็นหลายคนพูดคอเป็นเอนว่าจะคืนงบฯให้กับฝาย แต่ตอนลงมติกดแดง(คัดค้าน)น้อยมากเพียง1เสียง จึงอยากให้เช็คระบบให้ด้วย เกิดอะไรขึ้น ถูกต้องหรือไม่ ทำให้นายวิสุทธิ์ ลุกขึ้นโต้ว่า ตนไม่เคยพูดเลยว่าจะคืนงบฯให้กับฝาย ดังนั้นอย่ามาพาดพิง เพราะเป็นสิทธิ์ของตนที่จะลงคะแนน ตนมองภาพรวม ไม่ได้มองเรื่องเล็กๆ เพราะไม่ใช่เด็ก จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณาในมาตราต่อไป