วันที่ 22 มี.ค.67 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊กสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ว่า มีคนปล่อยข่าวว่าจะมีการล้มคว่ำงบประมาณปี 67 ตนติดว่าคนที่ปล่อยน่าจะมาจากพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย หรือไม่ก็กลุ่มคนไม่หวังดี ซึ่งตนรู้แล้วว่า ใครเป็นคนทำ เพื่อต้องการให้ สส.อยู่เป็นองค์ประชุมให้ครบ การปล่อยข่าวแบบนี้ตนว่า คนปล่อยข่าวไม่รู้กฎหมาย การจะคว่ำหรือเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีต้องคว่ำกฎหมายที่รัฐบาลเสนอ แล้วต้องไม่ผ่านวาระที่ 1 เท่านั้น ซึ่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 ผ่านวาระ 1 ไปตั้งนานแล้ว ดังนั้นรัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว ถึงแม้จะมีการคว่ำในวาระที่ 2-3 นั้นเป็นชั้นกรรมาธิการ มีการเสนอแก้ไขก็เป็นการประชุมของสภาฯ รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบอะไร  นายกฯไม่ต้องลาออกเพียง แต่จะทำให้การใช้เงินของรัฐบาลนั้นล่าช้าออกไป

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่า คนเป็น สส.ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะเขาไม่เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน ตนมั่นใจว่าการประชุมงบประมาณในวันนี้จะผ่านฉลุยอย่างแน่นอนและการประชุมก็ใกล้จะจบแล้ว ตนชื่นชม สส.ของพรรคก้าวไกลหลายคน อภิปรายได้ดี และบางคนมีวิสัยทัศน์และมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่จะทำเพื่อประชาชน แต่เสียดายที่สังกัดพรรคผิด อย่างเรื่องพรรคก้าวไกลที่เอานโยบาย 112 มาเป็นนโยบายเดินและพยามสร้างความขัดแย้งให้กับประชาชน ตนคิดว่า ไม่ควรมีพรรคการเมืองแบบนี้ 

"วันนี้ได้ยินเสียงลือมาว่า กกต.พยายามจะอุ้มพรรคก้าวไกล ผมเองก็พยายามจะไม่เชื่อ มีคนเขาไปอบรมหลักสูตร พตส.หลักสูตรของ กกต.เป็น สส.พรรคก้าวไกล บอกว่ามีคนใน กกต.บอกกับเขาเองว่า พรรคก้าวไกลจะไม่โดนยุบ แต่มีกระบวนดึง การจะไม่ยุบคงเป็นไปไม่ได้เพราะ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งมาแล้ว แต่มีกระบวนการจะดึงไม่ให้ กกต.ยุบพรรคก้าวไกลในระยะเวลาช่วงนี้ อย่างที่ผมพูดเอกสารที่ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่มีเอกสารบางตัวที่ตกหล่นก็คือคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ยื่นคำร้อง ผมไม่คิดว่า กกต.จะพลาดเรื่องแบบนี้ นี่คือการประวิงเวลาอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ ซึ่งมันก็สอดรับจากข้อมูลที่ตนได้มา" นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตอนนี้บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย คำสั่ง คำพิพากษาศาลรัฐธรรมูญไม่เป็นคำพิพากษา เพราะคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันทุกองค์กร ฉะนั้น กกต.ช้าไม่ได้ต้องรีบส่ง  แต่นี่ดึงเวลามาเกือบ 2 เดือน ขนาดกกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญทำไปแล้ว แต่ท่านก็ยังลืมเอกสาร แล้วจะให้คิดเห็นอย่างไร ที่นี่คงต้องไปกันต่อที่ ปปช.ที่ สส.พรรคก้าวไกล  44 คน ลงชื่อแก้ไขมาตรา 112  ซึ่งมี ส.ส. 44 คนลงชื่อ  ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการล้มล้างการปกครอง ตนขอถามว่า กรรมการ ปปช.ท่านกำลังอะไรกันอยู่ ได้เรียก สส.ทั้ง 44 คนมาชี้แจงแล้วหรือยัง และคำชี้แจงฟังขึ้นหรือไม่ 

ประชาชนเขาสงสัยว่า วันนี้มีกฎหมายหรือผู้คุ้มกฎอยู่หรือไม่ การกระทำที่เข้าข่ายการทำลายสถาบันล้มล้างการปกครอง ผมคิดว่าจะมันเป็นเรื่องให้การส่งเสริมให้เกิดการล้มการเมืองการปกครอง ฉะนั้นวันนี้อย่าให้ปัญหาเพียงแค่ไฟไหม้ฟางกลายเป็นไฟไหม้ลามทุ่ง 

ปปช.จะต้องเร่งดำเนินการตามกฎหมาย อย่าไปคิดว่า จะมีใครจะมาตกปลากับส.ส. 44 คนนี้  ดังนั้นให้รีบ บังคับใช้กฎหมายผมบอกเลย อย่าไปคิดว่าจะมีใคร จะมาเอา ส.ส. เหล่านี้  เพราะเปรียบเสมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว ไม่มีนกหรือใครจะอาศัย   ดังนั้นคงไม่มีใครไปหยิบเอาคนเหล่านี้กลับมาหรอก  เพราะเหมือนต้นไม้ที่ตายแล้วฉะนั้นเลิกคิด   ซึ่งประชาชนเขาคาดหวังขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ กกต.ปปช.รีบทำงานให้ไว้ด้วยอย่าปล่อยเชื้อร้ายระบาดกัดกร่อนประเทศ