วันที่ 24 มี.ค. 2567 เมื่อเวลา 15.50 น.ที่บริเวณเขาเขื่อนลั่น อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นายเศรษฐาอาจจะไม่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้วว่า ถามอีกตนก็ตอบอีก ตอนนี้ทุกคนยังเป็นรัฐมนตรีเหมือนเดิมและทุกท่านก็ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น

เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันได้หรือไม่ว่ายังจะนั่งควบต่อไป นายเศรษฐากล่าว อย่างหนักแน่นว่า “ครับ”

เมื่อถามต่อว่า มีกระแสข่าวด้วยว่าจะมีคนนอกมานั่งในเก้าอี้ดังกล่าว นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่มี ยังไม่มีครับ”

เมื่อถามว่า ได้วางไทม์ไลน์หรือไม่ ว่าอยากจะปรับครม.ช่วงไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า ยัง ยังไม่มี

เมื่อถามว่า ผ่านมา 7 เดือน การทำงานของรัฐบาลมีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนยังพบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังมีคะแนนนำ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้เราเองต้องรับฟังโพลด้วยเหมือนกัน เพราะโพลสะท้อนความคิดของพี่น้องประชาชน แต่เราก็ทราบกันดีอยู่ การทำโพลทำได้หลายแบบ และทำในพื้นที่แตกต่างกันไป ความที่มันไม่แน่นอนอะไร ก็มีความคลาดเคลื่อนได้ หรืออาจจะไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนถึงความเป็นจริง อย่างไรก็ตามถือเป็นโพลหนึ่งซึ่งเราก็ต้องรับฟัง และเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำงานต่อไป

“ผู้สื่อข่าวเองก็ทราบว่างบประมาณเพิ่งจะผ่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนกว่าจะออกมา เช่น วันนี้พี่น้องอสม. ก็เพิ่งทราบว่างบเพิ่งผ่าน และจะได้เงิน อย่างไรก็ตาม ยังมีขั้นตอนทางกฎหมาย ขั้นตอนทางรัฐสภา ที่ต้องมีการอนุมัติเรื่องของงบประมาณออกมา ตรงนี้ก็น้อมรับถึงอย่างเราก็ต้องตั้งใจทำงานต่อ และฟังเสียงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า พอใจการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ ตนไม่พอใจการทำงานของตัวเอง และไม่พอใจการทำงานของทุกท่าน ทุกอย่างเราต้องทำให้ดีขึ้นได้อีก วันนี้อันนี้คือชีวิตจริง เราต้องไม่พอใจในเรื่องพวกนี้ เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนยังมีอยู่แพร่หลายในทุกๆเรื่อง เราเองพยายามทำต่อ จึงได้ลงมาพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จะได้นำไปปรับวิธีการทำงาน

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าหากงบประมาณออกมา และสามารถจับต้องบริหารจัดการได้ การทำงานของรัฐบาลจะเปรี้ยงกว่าเดิมใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจ 

เมื่อถามว่า อาจจะต้องอินกับกระแส หรือต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้เกิดกระแสหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากใช้คำว่าอินกับกระแสหรืออะไร แต่คิดว่าเรื่องเสียงสะท้อนทุกอันเราต้องรับฟัง จะต้องมีการปรับกลยุทธ์แน่นอน แต่ไม่ใช่ปรับกลยุทธ์เพื่อให้กระแสดีขึ้น แต่เป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อให้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และปรับกลยุทธ์เพื่อให้ความเสมอภาคเท่าเทียมดีขึ้น ซึ่งเรามีการปรับตลอด

เมื่อถามว่า ต้องเน้นในเรื่องของการประชาสัมพันธ์มากขึ้นหรือไม่ เพราะแม้จะทำงาน แต่ผลงานก็ไม่ออกมาให้ประชาชนเห็น อาจเป็นเหตุให้ผลสำรวจออกมาแบบนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะต้องนำมาพิจารณา และเชื่อว่าทีมโฆษกรัฐบาล และทีมงานคงนำข้อมูลมาวิเคราะห์กันอีกที ว่าตรงไหนเราพูดน้อยเกินไปหรือเปล่า เราทำเรื่องเยอะเกินไปหรือเปล่า เปิดงานเยอะเกินไปหรือเปล่า ต้องมาโฟกัสบางเรื่องให้มันมากขึ้นหรือเปล่า เพื่อทำเรื่องให้โดนใจประชาชน

จึงได้บอกว่ารัฐมนตรีทุกท่านที่ลงพื้นที่ถึงความพยายามผลักดันการแก้ไขปัญหาประชาชนให้ได้โดยเร็ว  ทั้งนี้จะมาโคราชอีกครั้งในเดือนมิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ต่อจากการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดเพชรบุรี เชื่อว่าการประชุมครั้งต่อไปที่โคราชน่าจะมีผลงานที่คืบหน้าได้ เพราะงบประมาณคงออกมาแล้ว