"ปูติน" รับกลุ่มติดอาวุธอิสลามก่อเหตุกราดยิง แต่เชื่อยูเครนมีเอี่ยว

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธอิสลามที่ก่อเหตุโจมตีงานคอนเสิร์ตในกรุงมอสโกเป็นครั้งแรก แม้ยังคงยืนกรานที่จะหาความเชื่อมโยงระหว่างยูเครนและชาติตะวันตกกับเหตุรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 20 ปีของรัสเซีย

ปธน.ปูตินกล่าวว่า กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงได้ก่อเหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ตที่โครคัส ซิตี ฮอลล์ในย่านชานกรุงมอสโกเมื่อคืนวันศุกร์ (22 มี.ค.) ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 139 รายแล้ว แต่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนเจาะลึกลงไปเพื่อหาว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว

"เรารู้ว่าใครเป็นผู้กระทำความโหดร้ายต่อรัสเซียและประชาชนของรัสเซีย" ปธน.ปูตินกล่าวในระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมื่อค่ำวานนี้ (25 มี.ค.) "เราสนใจว่า ใครเป็นคนสั่ง"

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ปูตินได้หลีกเลี่ยงการเอ่ยถึงกลุ่มติดอาวุธอิสลามเมื่อวันเสาร์ (23 มี.ค.) ระหว่างการแถลงต่อประชาชนทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุกราดยิง แม้ว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบกับการโจมตีดังกล่าวก็ตาม ขณะเดียวกัน ยูเครนได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า กลุ่มไอเอสเป็นผู้รับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว

ปธน.ปูตินระบุว่า "เรายังเห็นด้วยว่าสหรัฐกำลังพยายามโน้มน้าวชาติพันธมิตรและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้เชื่อถือข้อมูลข่าวกรองของตนที่ว่ายูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในกรุงมอสโก และการโจมตีอันนองเลือดนี้ดำเนินการโดยสมาชิกขององค์กรไอเอสที่ถูกแบนในรัสเซีย"

สำหรับเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธในกรุงมอสโก นับตั้งแต่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชเชนจับตัวประกันเมื่อปี 2545 ที่โรงละครนอร์ด-ออสต์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 170 รายซึ่งรวมถึงผู้ก่อเหตุหลายสิบราย

#ปูติน #กราดยิง #ยูเครน #กลุ่มติดอาวุธ #ข่าววันนี้