ตำรวจคุมตัว "จักรภพ" สอบเครียดที่กองปราบฯ ทนาย-น้องสาวรุดพบ จ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เผยเหตุกลับไทยอยากรับใช้ชาติ ช่วยงานรัฐบาล ยันไม่เกี่ยวไฟเขียวจาก"ทักษิณ" ยอมเป็นหนูลองยาให้แกนนำเสื้อแดงที่ลี้ภัยกลับบ้านเกิด ทนายความยื่นเงินสด 4 แสน ประกันตัวกลับบ้าน ด้านนายกฯ ตอกย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับความยุติธรรม ระบุจักรภพกลับไทยต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง 
       
    
 ที่โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเข้ามอบตัวตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่ ว่า ตนเชื่อว่ารัฐบาลเราให้ความสำคัญกับความยุติธรรมอยู่แล้ว ใครที่มีปัญหาในอดีต ถ้ากลับเข้ามาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง แต่ตนไม่ได้ติดตามกรณีของนายจักรภพในรายละเอียดว่ามีอะไร เมื่อนักข่าวถามมา ตนก็ต้องบอกว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอใช้คำนี้เป็นหลัก
    
 วันเดียวกัน ผู้สื่อรายงานว่า ตำรวจ บก.ป.ได้คุมตัว นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดนนาน 15 ปี จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ มาที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ โดยทันที่ที่มาถึงบก.ป. ตำรวจได้พานายจักรภพหลบสื่อมวลชน โดยขับรถรถตู้ไปจอดที่บริเวณด้านหลัง ระหว่างอาคารบก.ป.กับอาคารจอดรถ ก่อนพาขึ้นลิฟท์อาคารจอดรถขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งมีทางเชื่อมเข้าสู่อาคารบก.ป.
    
 นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความส่วนตัวของนายจักรภพ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และต้องดูว่าจะมีการยื่นขอประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์เท่าไร ในข้อหาครอบครอบอาวุธปืน และอั้งยี่ ที่เกิดขึ้นในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เป็นส่วนของกระบวนการที่ต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะมีหมายจับ เลยต้องยื่นขอประกันตัว โดยคาดการว่าจะวางหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาทต่อคดี ซึ่งคดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปี
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจักรภพได้แจ้งรายละเอียดทางคดีหรือไม่ นายโชคชัย กล่าวว่า คดีนี้เข้าสู่กระบวนการของศาลไปแล้ว บางคนได้รับการตัดสินไปแล้ว แต่ของนายจักรภพยังไม่มีการตัดสิน และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนจะได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ ทนายโชคชัย กล่าวย้ำว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนตัวทำตามขั้นตอนอยู่แล้ว และไม่มีความกังวลว่าจะไม่ได้รับการประกันตัว เพราะจำเลยเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายทุกขั้นตอน หากว่าสามารถประกันตัวได้ในชั้นนี้ ก็พร้อมจะยื่นหลักทรัพย์ทันที
   
  เมื่อถามว่า นายจักรภพเดินทางมาถึงกองปราบฯ แล้วใช่หรือไม่ นายโชคชัย กล่าวว่า แยกกันมาคนละคันแต่ตามกันมา พร้อมย้ำว่าไม่กังวลใจ หลังลี้ภัยทางการเมืองไปนานกว่า 15 ปี ส่วนหลักฐานในการชี้แจงในวันนี้ เรื่องหลักฐานต้องพูดคุยต่อไป แต่วันนี้นายจักรภพได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะต้องพูดคุยกันต่อ เพราะลี้ภัยในต่างประเทศมานาน  ส่วนที่ว่านายจักรภพได้ฝากอะไรถึงมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยร่วมต่อสู้หรือไม่นั้น เจ้าตัวบอกเพียงว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งทราบเพียงเท่านี้ ส่วนแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นที่ลี้ภัยทางการเมืองติดต่อเข้ามาเพื่อเดินทางกลับไทยหรือไม่ เท่าที่ทราบยังไม่มี
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางกลับไทยของนายจักรภพมีเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยตรงหรือไม่ นายโชคชัย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะทำหน้าที่ในฐานะทนายความ ส่วนเหตุผลที่เจ้าตัวเดินทางกลับมา ก็ขอให้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามเอง จะเกี่ยวหรือไม่ไม่สามารถตอบได้ ทราบเพียงว่าบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะที่จะกลับมาได้แล้ว และเป็นเรื่องที่แต่ละคนมีวิจารณญาณส่วนตัวอยู่แล้ว
  
   ด้าน นายสุไพรพล ช่วยชู เลขานุการส่วนตัวของนายจักรภพ เปิดเผยว่า หลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น นายจักรภพจะลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเหตุผลที่นายจักรภพกลับมา ก็เหมือนที่นายจักรภพโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวานนี้ว่าจะกลับมารับใช้ประเทศไทย
   
  สำหรับความมั่นใจในการได้ประกันตัวในชั้นสอบสวน นายสุไพรพล กล่าวว่า มั่นใจ เพราะข้อกล่าวหาที่ผ่านมานั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีข้อเท็จจริง ส่วนการหายตัวไปถึง 15 ปี จะเป็นปัจจัยที่ไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่นั้น เนื่องจากนายจักรภพมีภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศด้วย และอยู่ในช่วงที่รัฐบาลมาจากรัฐประหาร ไม่เป็นประชาธิปไตย
   
  เมื่อถามว่า นายจักรภพได้ฝากอะไรถึงคนเสื้อแดงหรือไม่ นายสุไพรพล กล่าวว่า นายจักรภพฝากมาบอกว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่ลืมพี่น้องประชาชน ยังมีจิตใจที่ตอบแทนสังคมเหมือนเดิม และจะทำเพื่อประเทศชาติมากขึ้นกว่าเดิม  ส่วนหลังจากนี้นายจักรภพจะทำอะไรในประเทศไทยนั้น หลังจากนี้จะไปดำเนินการเรื่องเอกสารส่วนตัวที่ขาดอายุไป หลังลี้ภัยไป 15 ปี และจะรอสักพักนึง ขอให้รอถามที่เจ้าตัวอีกที
    
 ขณะที่ นางสาวณัฐนันท์ เพ็ญแข น้องสาวของนายจักรภพ กล่าวว่า ดีใจมาก ที่จะได้พบพี่ชายหลังไม่เจอกันมา 15 ปี ซึ่งพี่ชายได้เล่าการเป็นอยู่ชีวิตในต่างแดนว่า มีชีวิตอยู่ตามอัตภาพ
    
 จากนั้น เวลา 13.00 น. นายจักรภพได้เดินออกจากห้องควบคุมตัวภายหลังจากพบพนักงานสอบสวน และได้รับการประกันในคดีอาวุธปืนและอั้งยี่วงเงินคดีละ 200,000 บาท จากนั้นได้ก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมีทนายความและญาติมายืนเคียงข้าง โดยได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี หยอกล้อกับสื่ออย่างเป็นกันเอง รวมทั้งทักทายกับแฟนคลับที่มารอให้กำลังใจจำนวนมาก
    
 ทั้งนี้ นายจักรภพ กล่าวว่า การตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยก็เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหลังจากรัฐประหาร 2549 ตนมีคดีเยอะเกือบ 10 คดี ก็มีทั้งการต่อสู้คดี คดีหมดอายุความ ขณะที่คดีมาตรา 112 อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปหลายปี ตอนนี้มีคดีอยู่เพียง 2 คดี ในเรื่องอาวุธปืนและขัดคำสั่ง คสช. โดยสาเหตุที่ตัดสินใจกลับมาก็เพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป การสร้างประชาธิปไตยมีมากกว่าทำลาย ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการเข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดความมั่นใจในการต่อสู้คดี ยืนยันไม่มีการดีล มีแต่การพูดคุยกันเท่านั้น
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลทาบทามให้มาช่วยงานจะรับไหม นายจักรภพ กล่าวว่า ยินดีรับใช้ชาติ หากรัฐบาลทาบทาม แต่จะไม่ไปในกรณีที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในภาพรวมและพรรคการเมือง หากมีปัญหา ก็จะอยู่เบื้องหลัง เมื่อถามว่า ได้ติดต่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางกลับมาหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ได้โทรศัพท์คุยกัน 1 ครั้ง ท่านได้พูดคำสำคัญคำหนึ่งว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เราพูดได้เท่านี้ แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี เพราะเป็นคดีที่คนละแบบกัน แต่ละคนก็ต้องทำการบ้านของตัวเอง
    
 เมื่อถามว่า ต่อจากนี้คนเสื้อแดงจะทยอยเดินทางกลับมาหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น และจะขอเสนอตัวช่วยเหลือคนที่อยากกลับมา และกลับมาได้ด้วยการต่อสู้ในคดีความและมีความพร้อม อย่าง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งการที่ตนกลับมา ก็เหมือนหนูลองยา ให้หลายคนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
    
 เมื่อถามถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายจักรภพ กล่าวว่า เชื่อว่าท่านก็อยากกลับบ้านเหมือนทุกคน และเท่าที่ทราบท่านก็มีคดีแค่จำนำข้าว อย่างอื่นก็หมดไปแล้ว แต่อาจจะเกินกำลังและเกินสติปัญญาที่ตนจะเข้าไปจัดการ ขอช่วยเฉพาะคนที่สามารถช่วยเหลือได้ก่อน
     
จากนี้จะเข้ามารายงานตัวและสอบปากคำในวันที่ 22-23 เม.ย. และจากนี้จะไปไหว้อัฐิพ่อแม่ หลังจากที่ลี้ภัยไปนานกว่า 15 ปี