จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มี.ค.67 เด็กหญิงเอ นามสมมุติ เข้าขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากมีพระรูปหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพระที่มีคนใหญ่คนโตเคารพศรัทธา แอบมีสัมพันธ์กับแม่ของตนมานานกว่า 2 ปี โดยพระรูปดังกล่าวได้ถ่ายภาพและคลิปแบล็คเมล์ แล้วส่งภาพตอนมีสัมพันธ์กับแม่ไปให้พ่อของตนและคนในครอบครัวด้วย  นอกจากนี้ยังทราบว่าพระดังกล่าวมีปืน 2-4 กระบอก ซึ่งเป็นปืนที่ใช้ประกอบพิธีลองของคดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้รับแจ้งความและทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องไว้ในวันเดียวกัน 

วันที่ 31 มี.ค.67 ที่ ภ.4 พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมพระรูปนี้ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว โดยพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้ทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งขออนุมัติออกหมายจับพระรูปดังกล่าวไว้แล้ว ในความผิดฐาน “ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายฯ โดยมีอาวุธ”

ต่อมาในวันที่ 20 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ไปตรวจค้นสำนักสงฆ์วัดพระธาตุภูหินกอง ตำบลกุดสินคุ้มใหม่ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ จากการตรวจค้นไม่พบพระรูปดังกล่าว มีเพียงกุฏิที่ว่างเปล่าไม่มีผู้ใดพักอาศัย จากการสอบถามพระในวัด ทราบว่า พระรูปดังกล่าวได้เดินทางออกไปจากสำนักสงฆ์แล้ว

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่ภายในสำนักสงฆ์ พบว่ามีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นลานกว้าง มีเป้าซ้อมยิงปืน และมีร่องรอยกระสุนปืนที่ยิงใส่เป้า พบปลอกกระสุนปืนที่ถูกใช้แล้ว จึงยึดไว้เป็นพยานหลักฐานในคดี ซึ่งชุดสืบสวน ออกติดตามไล่ล่าพระรูปดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และวันนี้(31 มี.ค.67) ตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 4 และ ภ.จว.กาฬสินธุ์ จะลงไปเก็บพยานหลักฐานที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวอีกครั้ง และจะได้ประสานงานกับฝ่ายสืบสวนของ สภ.กุฉินารายณ์ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป