เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 31 มี.ค.ที่เพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 กทม. นางลดาวัลย์ อินพลับ อายุ 54 ปี พา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี หลานสาวสภาพดวงตาเขียวช้ำทั้งสองข้าง พร้อม ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เพื่อนหลานสาว ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางมาขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีหลานสาวถูกกลุ่มวัยรุ่น กว่า 10 คนซึ่งมีทั้งเยาวชนอายุ 14-17 และ 19 ปี ล่อลวงไปรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 เวลาประมาณตีหนึ่ง บริเวณลานดิน หลังการประปาส่วนภูมิภาค ซอยแจ้งวัฒนะ 1 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ภายหลังเข้าแจ้งความทางตำรวจอ้างว่าทำอะไรได้ไม่มาก
เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง ทางผู้บาดเจ็บ และกลุ่มผู้ก่อเหตุก็รู้จักกันเป็นอย่างดี และเคยมานอนที่บ้านของผู้บาดเจ็บด้วย แต่เรื่องมาเกิดเพราะว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ สามีของนางสาวแพร อายุ 19 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ได้เมาแล้วมาอาละวาดที่บ้านของผู้เสียหาย จึงทำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ ทำให้นางสาวแพรไม่พอใจและขู่จะทำร้ายมาตลอด จนกระทั่งคืนวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา นางสาวแพร ได้โทรมาหา ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย แล้วบอกว่าจะไปรับที่บ้าน เพื่อออกมาพูดคุยเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนจะพา ด.ญ.เอ และเพื่อนคือ ด.ญ.บี ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมาที่หลังการประปา แจ้งวัฒนะ ซอย 1 จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุ 10 กว่าคนก็ได้รุมทำร้ายผู้เสียหายด้วยการตบ เตะ และใช้รองเท้าตีเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง จนทำให้ใบหน้าฟกช้ำ โดยเฉพาะดวงตาของ ด.ญ.เอ ทั้งสองข้าง
หลังจากเกิดเหตุผู้ปกครองของผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง แต่ทางตำรวจอ้างว่า เหตุการณ์นี้คู่กรณีเป็นเยาวชนเกือบทั้งหมด จึงทำอะไรมากไม่ได้ ทำให้ทางผู้เสียหายต้องเดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลือกับทีมงานสายไหมต้องรอด เพราะหลังจากเกิดเหตุนางสาวแพร หนึ่งในผู้ก่อเหตุก็ยังได้โทรมาข่มขู่ผู้เสียหายว่า ถ้าหากแจ้งความก็จะตามมาทำร้ายอีก
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า ตอนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการประกาศออกมาแล้วว่า จะต้องจัดการกลุ่มผู้ก่อเหตุที่มีพฤติกรรมแบบนี้อย่างเด็ดขาด แม้จะเป็นเยาวชนก็ตาม เพราะถ้าหากไม่จัดการตอนนี้ ในอนาคตอาจจะเกิดอาชญากรรมที่ร้ายแรงกว่านี้ก็ได้ ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ให้จัดการเรื่องนี้ด้วย