จากกรณีที่ "นางฮวย" ถูก "นางมาวดี" ที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ร่วมมือกับพนักงานแบงก์อีก 4 คน แอบโอนเงินในบัญชีออกไป ตอนที่อาม่าล้มป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้เงินในบัญชีกว่า 250 ล้าน ถูกโอนออกไปจำนวนหลายร้อยครั้ง จนหมดบัญชี โดยการพิมพ์ลายนิ้วมือจากเดิมที่เป็นลายเซ็นจึงเป็นเปลี่ยนแปลงสิทธิ์การเบิกถอนเงินในบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ขณะที่นางฮวยนอนป่วยอยู่ โดยคดีมีการฟ้องเมื่อช่วงปี 62

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 เม.ย.67 ที่ ศาลอาญาพระโขนง ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่ อาม่าฮวย เป็นโจทก์ ฟ้องนางฐินีย์ หรือ นางมาวดี กรณีลักเงินอาม่าฮวย จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 24,757,400 บาท โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนางมาวดี 12 ปี จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จากนั้นทนายจำเลยจึงได้ยื่นฏีกาและขอประกันตัว ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ตีราคาประกัน 2.4 ล้านบาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไข เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ปี 2565

โดย ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายของนางฮวย เปิดเผยว่า จำเลยขอต่อสู้ในข้อกฎหมาย ประเด็นว่าคดีลักทรัพย์บุพการี เป็นคดียอมความได้ รวมถึงจะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน ซึ่งทางอาม่าก็ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน คดีจึงไม่ขาดอายุความ ขายฎีกาจึงพิพากษายืนจำคุกนางมาดี 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา และยังถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ไม่เคยมีฎีกามาก่อน ในคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์บุพการี ที่จะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน ซึ่งก็ได้แจ้งผลคำพิพากษาให้แก่นางฮวยทราบแล้ว นางฮวยดีใจมาก และไม่กังวลใด ๆ