วันที่ 5 เม.ย.ที่ กก.สส.ภ.จว. นครศรี
ธรรมราช พ.ต.ท.นพเสถียร สิงห์สุขพนธ์ รองผกก.สส.นศ.,พ.ต.ท.ศุภกร พรหมทอง สว.กก.สส.ภ.จว.นศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นศ.จับกุมนางสาว จินตนา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี อยู่หชมู่ที่ 8 ตำบลนาเหรง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีฯ พร้อมตรวจยึดของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda  รุ่นWave  สีแดง จำนวน อาวุธปืนลูกซองยาวเดียว จำนวน 1 กระบอก 
          
พ.ต.ท.นพเสถียร  กล่าวว่าตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค8 และตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จะต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยกว่าที่กฎหมายกำหนด มีลักษณะเอารัดเอาเปรียบอำพรางการทำสัญญา หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกทวงหนี้ ภ.จว.นครศรีธรรมราช ให้ระดมกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช,        พ.ต.อ.ขจิตร. คงปราบ รองผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนดำเนินการ กวดขันจับกุมอย่างจริงจัง
สำหรับพลฤติการณ์ คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.จว.นศ.ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 36 ม.8 ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีฯโดยมี นาง จินตนาฯเป็นเจ้าบ้าน ซึ่งทราบว่ามีการปล่อยกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอกและพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda  รุ่นWave  สีแดง ป้ายแดง จำนวน 1 คันโดยนางสาว จินตนาฯรับว่า นางสาวสุวนิตฯ(ลูกหนี้)ได้มากู้ยืมเงินจำนวน12,000บาทโดยนำรถจักรยานยนต์มาวางไว้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินโดยนางจินตนาฯรับว่าได้คิดดอกเบี้ยร้อยละ7ต่อเดือนหรือร้อยละ 84 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาว่า,ให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.นบพิตำ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 
ต่อมา เจ้าที่ชุดสืบสวน จับกุม นางสาวสมใจ (สงวนนามสกุล) อายุ48 ปีอยู่ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พฤติการณ์ กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นางสมใจได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้กับแม่ค้าบริเวณตลาดนาชุม อ.เมือง จ.นครศรีฯโดยจะมาเก็บเงินเป็นรายวันที่ตลาด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้จับกุมตัวนางสมใจฯขณะที่นางสมใจฯมาเก็บเงินในตลาดโดยนางสมใจฯรับว่าตนได้ปล่อยเงินกู้ให้กับแม่ค้าในตลาดจริงโดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ20บาทต่อเดือนหรือร้อยละ240ต่อปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากการซักถามนางสาวกิตติยาฯ(ลูกหนี้)ซึ่งเป็นแม่ค้าในตลาดให้การว่าตนได้กู้ยืมเงินจากนางสาวสมใจฯ จำนวน 20,000บาทโดยต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ20ต่อเดือนซึ่งนางสาวสมใจฯจะมาเก็บเงินทุกวัน วันละ 100บาท จนกว่าทั้งต้น-ดอกจะหมด จึงทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”และนำตัวส่งพนักสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป