วันนี้​ (6​ เม.ย. 67) นายพรรษกร  หรือ เฟรม อายุ 22 ปี ได้นำหลักฐานใบแจ้งความพร้อมกล้องวงจรปิด เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ​ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด​ หลังถูกรถบรรทุกตู้ทึบสีขาวขับไล่ชน​ ก่อนที่จะจอดและคนขับรถบรรทุกและคนที่นั่งมาด้วยได้ลงมาจากรถ ก่อนที่คนขับรถบรรทุกจะใช้อาวุธมีดไล่ฟันศีรษะตน และคนที่นั่งมาด้วยลงมาไล่ชกหน้า จนตัวเองต้องหนีหัวซุกหัวซุน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา

นายพรรษกร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังส่งพัสดุอยู่ภายในซอยที่เกิดเหตุ เมื่อส่งเสร็จตอนเองกำลังจะออกจากซอย แต่พบรถบรรทุกถอยหลังออกจากซอยมาด้วยความเร็ว ตนเองกลัวจะเฉี่ยวชนกัน จึงได้บีบแตรเตือนและมีการมองหน้ากัน ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ จากนั้นตนเองจึงไปส่งพัสดุที่บ้านหลังถัดไป แต่กลับถูกรถบรรทุกคันดังกล่าวขับไล่ชน ก่อนที่คนขับจะถืออาวุธมีดลงมาไล่ฟันศีรษะ และคนที่นั่งมาด้วยชกเข้าที่กกหู ตนเองพยายามยกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ลดละ ทั้งที่อยู่ต่อหน้าต่อตาลูกค้าที่ออกมารับพัสดุ แต่ลูกค้าก็ไม่กล้าช่วยเพราะอีกฝ่ายมีอาวุธ จนตนเองต้องวิ่งหนีออกจากจุดดังกล่าว โดยแผลที่ศีรษะเปิดจนเห็นกะโหลก ต้องเย็บ 7 เข็ม และรอยแผลฟันยังถากลงมาถึงบริเวณหัวไหล่ซ้าย ส่วนกกหูก็บวม ต้องหยุดงานขาดรายได้ อีกทั้งไม่กล้าไปทำงานเพราะซอยที่เกิดเหตุเป็นซอยที่ตนเองต้องไปส่งพัสดุเป็นประจำ และคู่กรณีก็เป็นคนขับรถบรรทุกส่งพัสดุเช่นกัน หากไปทำงานก็อาจเจอกันอีก ทำให้กังวลเรื่องความปลอดภัย


หลังเกิดเหตุตนเองไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ลาดพร้าว โดยกล้องวงจรปิดเห็นทะเบียนรถบรรทุกคันที่ก่อเหตุชัดเจน แต่ตำรวจกลับยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนได้ทั้งที่ผ่านมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ทราบเพียงชื่อผู้ครอบครองรถ ดังนั้นตนเองจึงอยากให้คู่กรณีเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการไกล่เกลี่ย


ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า เบื้องต้นจะประสานผู้กำกับการ สน.ลาดพร้าว เพื่อเร่งรัดคดีและจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนโดยเร็ว เพราะในเมื่อทราบชื่อผู้ครอบครองรถแล้ว ก็เพียงเรียกมาสอบปากคำ หรือตามไปสอบปากคำที่บริษัท ว่าคนขับรถในวันดังกล่าวเป็นใคร ก็ทราบตัวแล้ว ไม่ควรนานขนาดนี้ หากปล่อยให้ล่าช้าอาจเกิดเหตุกับผู้เสียหายซ้ำอีก