วันที่ 6 เม.ย.67 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามลำดับดังนี้

เวลา  17.24 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอำนาจ  เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด นำ อัยการประจำกอง สำนักอัยการสูงสุด เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ 

ในการนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ อัยการประจำกอง ที่ยังไม่ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ด้วย

ในโอกาสนี้ นายไพรัช  พรสมบูรณ์ศิริ รองอัยการสูงสุด นายเพียรศักดิ์  สมบัติทอง อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ และนายยรรยง  เดชภิรัตนมงคล เลขานุการอัยการสูงสุด ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย ต่อจากนั้น

เวลา  17.42  น.พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์กระแส  ชนะวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยนครพนม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงสืบสานงานด้านการศึกษาตามพระราชปณิธาณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้ความสำคัญและทรงสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชน ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการก่อตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาในถิ่นทุรกันดาร จำนวน 6 แห่ง และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมทั้งพระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัย กับพระราชทานพระราชดำริให้ตั้ง “มูลนิธิการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร” (ม.ท.ศ.) และทรงรับเป็นองค์ประธานกรรมการมูลนิธิ ฯ พร้อมกับพระราชทานพระบรมราโชบาย
และแนวพระราชดำริเกี่ยวกับการจัดการศึกษา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ แก่การพัฒนาการศึกษาของไทย อันเป็นคุณประโยชน์แก่ราษฎรที่ทรงปฏิบัติเป็นเวลายาวนานมาโดยตลอด