เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.67) ที่ บก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์  สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ, พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ, และพ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 3 ได้ร่วมกันจับกุมนายปวรุตม์ (ขอสงวนนามสกุล) ภูมิลำเนาอยู่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี บุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1095/2567 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2567  กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นหรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยไม่มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือใช้ในกิจการของตน” โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้องเลขที่ 144/103 คอนโดลุมพินีเพลสสุขสวัสดิ์ ชั้น9 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพฯ

พล.ต.ต. ธีรเดช กล่าวว่าจากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการฉ้อโกลหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึง บัญชีม้า ที่เป็นเชื้อร้ายทำร้ายความสงบสุขของประชาชนในสังคมในวงกว้างพฤติการณ์ในคดีนี้ ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้หลอกลวงและสร้างกลอุบายฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนโดยทั่วไป โดยอ้างตนเป็นตำรวจจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ (ปปง.) แจ้งว่าผู้แจ้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน ให้ผู้แจ้งโอนเงินไปเพื่อไปตรวจสอบ ผู้แจ้งเกิดความตกใจกลัวจึงหลงเชื่อโอนเงินของผู้เสียหาย ไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ของผู้ถูกจับกุม จำนวนหลายครั้ง รวมมูลค่ากว่า เกือบ 1 ล้านบาท จนผู้เสียหายเริ่มสงสัยจึงได้ทำการตรวจสอบแล้วเชื่อว่าถูกหลอก ผู้แจ้งจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ถูกจับตามกฎหมายต่อไป
    
จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การรับว่า ตนได้ถูกว่าจ้างจากนาย ออย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแฟนสาวย่านตลิ่งชัน ให้เปิดบัญชีม้าจริง พร้อมส่งมอบ โทรศัพท์และซิมพร้อมใช้บริการ สมุดบัญชีธนาคารและบัตร เอ ที เอ็ม ให้แก่นายออยฯ ไปใช้ โดยมิได้ถามว่าจะนำไปใช้อะไร โดยได้รับค่าจ้างในการเปิดบัญชีละ 2,000 บาทซึ่งรับว่าได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวัน จนกระทั่งต่อมาทราบภายหลังว่า ตนมีหมายจับ จึงได้พยายามปิดช่องทางการติดต่อทุกช่องทางเพื่ออำพรางและหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่อยู่หลายเดือน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา 


หลังถูกจับกุมผู้ถูกจับสำนึกผิดที่ตนเองเห็นแก่เงินหรือประโยชน์เพียง 2,000 บาท เพียงแค่เอาเงินดังกล่าวไปใช้สอยเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่กลับไม่คุ้มกับผลกระทบที่ตามมาถึงตนเองและครอบครัว ที่ใช้ชีวิตกับอย่างหวาดระแวงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงได้ฝากแง่คิดให้แก่วัยรุ่นและประชาชนทั่วไป อย่าได้ “คิดสั้น” เอาแต่ “ความสุขเพียงสั้นๆ” มาแลกกับ “ชีวิตและความสุข” ของตนเองและบุคคลที่รักในครอบครัว

พล.ต.ต. ธีรเดช  กล่าวเตือนภัย ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งแฝงตัวมา ส่วนเจ้าของบัญชีม้าหรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที