“ครูหนิง”ตำนานผัวพี่มันแซ่บก็ต้องจ่าย ปะทะอดีตผัว ยันโดนจัดฉากให้มีเมียน้อย ซัดครูหนิงต่างหากมีชู้-พี่สาวนั่งเฝ้าถ่ายคลิป

กรณี “ครูหนิง” เจ้าของวาทะเด็ด ผัวพี่มันแซ่บก็ต้องจ่าย เคยออกมาเปิดใจในรายการโหนกระแส หลังฟ้องชู้ เหตุสามีเป็นทหาร จดทะเบียนสมรส แต่แอบไปคบหญิงอื่น ล่าสุด “น้ำพุ” อดีตสามีครูหนิง ที่ยังมีทะเบียนสมรสคาอยู่ ร้องขอความเป็นธรรม ต้องการชี้แจงอีกมุม ยืนยันว่าโดนจัดฉากให้มีเมียน้อย ครูหนิงต่างหากที่สวมเขาจากเพื่อนของตัวเอง

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 10 เม.ย. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ครูหนิง - น้ำพุ อดีตสามีภรรยา มาพร้อม ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายคนกลาง

ตอนนี้ทะเบียนยังอยู่มั้ย?

น้ำพุ : ยังอยู่

ทำไมไม่หย่า?

น้ำพุ : ตอนนั้นที่มีปัญหากัน ผมไปฟ้องหย่าเขาทีนึงแล้ว แต่ด้วยตอนนั้นศาลท่านยกคำร้องเนื่องจากเขาบอกว่ายังอยากอยู่กับสามี ยังรักสามีเลยยังไม่ได้หย่า อยากให้สามีมาอยู่ด้วยกัน

ใจพี่คิดว่าภรรยายังรักอยู่มั้ย?

น้ำพุ : ไม่ครับ

ปีที่แล้วตอนครูหนิงมาออกรายการ พี่อึดอัดหัวใจมาก อยากพูดแต่พูดไม่ได้?

น้ำพุ : ใช่ครับ

ครูหนิงตอนนั้นอยู่สมุทรสาคร แต่เหมือนตามผัวไปถึงโคราช?

ครูหนิง : เขาสารภาพก่อนว่าเขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนึง พอวันที่ 27 เขาบอกจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว เอารถกระบะไปคืนผู้หญิงคนนั้นแล้ว วันจันทร์ที่ 28 เลยไปพิสูจน์ค่ะ

ตอนนั้นคุณเอาคลิปที่สามีสารภาพมาด้วย?

ครูหนิง : ใช่ค่ะ

ครั้งนั้นผู้หญิงร่ำรวย ถ้าจำไม่ผิดแล้วพี่เองไปทำไฟบ้านเขา?

น้ำพุ : ติดไฟ ติดกล้องวงจรปิด ทำสปริงเกอร์น้ำ

พี่ยอมรับกับเมียพี่จริงมั้ย?

น้ำพุ :   ก่อนหน้านั้นเรามีปัญหากัน เราทะเลาะกัน ทะเลาะกันเรื่องโทรศัพท์ เขาโทรมาหาผม ผมไม่ได้รับสาย เพราะผมทำงานอยู่ที่วัด เขาบอกว่าให้ผมกลับมาจากโคราชแล้วไปบ้านค่อยโทรหาเขา ผมไม่ได้โทร เขาก็โทรจิกๆ จนเราทะเลาะกัน ผมเหนื่อย ผมไม่ได้รับสาย ผมหลับ

หลับที่ไหน?

น้ำพุ : บ้านผมที่กองบิน พอตื่นเช้ามาผมก็โทรหาเขา แต่ก็ทะเลาะกันแล้ว

ผู้หญิงไม่น่ารับได้นะเวลาผัวหายตัวไป?

น้ำพุ : ทะเลาะตั้งแต่ 19-26 ทะเลาะกัน 8 วัน ไม่คุยกัน จนวันที่ 26 เขาบอกว่าจะหย่ากับผม ตอนนั้นก็เริ่มเตี๊ยมกับที่บ้านแล้วเพราะอยากหย่าเหมือนกัน ตกลงกับคุณน้ำด้วย

คุณน้ำคือผู้หญิงท่านนั้น ตอนนี้ยังเจออยู่มั้ย?

น้ำพุ :   ไม่ได้เจอนานแล้ว ตกลงกับน้ำว่าเดี๋ยวขอใช้ชื่อ เรามีอะไรกันไปลองใจกัน คุยกันในครอบครัว

สร้างสตอรี่?

น้ำพุ :   ครับ ก็คุยจนมาเป็นคลิปแบบนี้ เขาก็โอเค

พี่ทะเลาะกับเมียแล้วรำคาญเหลือเกิน โทรจิกเหลือเกิน แค่เขาโทรจิกอยากเลิกเลยเหรอ?

น้ำพุ : จริงๆ เรามีปัญหากัน สองปีที่แล้วก็มีปัญหาจนอยากหย่า

เขาไม่ดีตรงไหน?

น้ำพุ : ตั้งแต่เราคบกัน ผ่านมา 2 เดือน ลายเขาเริ่มออก พาลหึง หึงลูก หึงเมียเก่า หึงไปหมด เห็นลูกหน้าเหมือนแม่ก็หึง แต่ผมก็คอยประคับประคอง 2 ปีแรกอยู่แบบอึดอัด เพราะผมเป็นคนกลาง เขาก็หาเรื่องตลอด จนกระทั่งวันบวชเณรลูกชายกับอีกเมีย

เมียเยอะ?

น้ำพุ : มีทีละคนครับ แต่ละคนก็เลิกกันไม่มีปัญหา แต่กับคนนี้ จะเลิกกันแล้ว ทำไมไม่เลิกกันดีๆ

คุณให้คุณน้ำช่วยเป็นเมียน้อยสมอ้าง?

น้ำพุ : ครับ มันเลยมีคลิปลองใจขึ้นมา

ใช่เหรอ?

น้ำพุ : ใช่ครับ จนวันที่ 27 เราคุยกันว่าเราลองใจกันนะ พี่ลองใจหนู คลิป 27 เขาไม่ได้บันทึกไว้

เขาโทรมาพูดจริงมั้ย?

ครูหนิง : เขาโทรแต่ไม่ได้บอกแบบนั้น เขาบอกว่าไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ เขาไม่รับสักข้อตกลงของหนู พี่จะเลิกยุ่งกับเขา ประมาณนี้ค่ะ ความจริงแล้วถ้าไม่มีอะไรกัน ก็ไม่ควรรับสักข้อตกลง ไม่ควรมีคำนี้

ที่บอกว่ามีเขาแล้วมีอีกคนด้วย พี่สร้างเรื่อง แต่เขาไม่เลิก พี่ก็บอกเขาลองใจ?

น้ำพุ : ไม่ครับ 27 พ.ย.ปี 65 ก็คุยกันรู้เรื่อง

ครูหนิง : 26 สารภาพ 27 บอกผู้หญิงคนนั้นไม่รับข้อเสนอ 28 หนูเลยไปพิสูจน์ความจริงค่ะ

น้ำพุ : วันที่ 27 เขาก็รับทราบว่าผมลองใจ เราก็คุยกันปกติเรียบร้อย แฮปปี้เอนดิ้งทุกอย่าง

สร้างสตอรี่ให้เมียเลิก?

น้ำพุ : ทะเลาะกันบ่อยจนผมหมดความอดทน

ทำไมไม่คุยกันดีๆ ว่าด่าแบบนี้เลิกกันได้มั้ย ทำไมไปสร้างฉากแบบนั้น?

น้ำพุ : มันไม่ไหวแล้ว เขาก็ไม่ยอมเลิกกับผมอยู่แล้ว

ทำไมล่ะ?

น้ำพุ : ไม่ทราบ ช่วงจังหวะนั้นความอดทนไม่เหมือนกัน

ถ้าเลิกวิธีไหนได้ก็เอาวิธีนั้น?

น้ำพุ : ใช่ มันไม่ไหวแล้วสำหรับผม

เขาฟ้องชู้แล้วชนะไปแล้ว?

น้ำพุ : มันก็อยู่ที่กระบวนการ ยังมีอุทธรณ์อยู่

มีการพูดคุยในไลน์ บอกเขาหรือยังคะว่าหนูขอบคุณในน้ำใจที่อุตส่าห์ซื้อที่หลับที่นอนใหม่ โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าให้ กำลังอยากได้ใหม่พอดีเลย ไม่ต้องขนกลับไปหรอกนะคะ ไหนๆ ก็ว่างแล้ว ฝากขอบคุณเขาอีกครั้งนะคะ สมแล้วที่เป็นคนชอบการทำบุญ จิตใจฝักใฝ่ทางพุทธศาสนา มีเมตตาธรรม ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนไตร ดลบันดาลให้เขามีความสุขมากยิ่งขึ้น คิดการใดๆ เป็นสิ่งดีงามขอให้เจริญยิ่งขึ้นไป สาธุ พี่ตอบว่าเรื่องนี้คงไม่ไปบอกหรอกครับ หมายถึงอะไร?

น้ำพุ :   เขายอมรับว่ายอมรับสิ่งของที่คุณน้ำซื้อมาให้ เขาขอบคุณไงครับ

เขาประชด พี่จะบอกว่าทางฝั่งครูหนิงได้ของยังขอบคุณ แล้วจะมาโวยวายอะไร?

น้ำพุ : ครับ

คุณขอบคุณหรือประชด?

ครูหนิง : ประชดค่ะ อุตส่าห์ดูแลสามีเราเป็นอย่างดี ซื้อโน่นนี่นั่นมาเยอะแยะ

 พี่จัดฉาก ต้องการให้เมียขอหย่าขอเลิก แต่เขาไม่ยอมเลิก แล้วเขาทำยังไง?

น้ำพุ : หลังวันที่ 27 เราก็คุยกันปกติ วันที่ 28 เขาก็โทรคุย พิมพ์ไลน์ส่งมาว่าทำอะไรอยู่ ผมก็ถ่ายรูปว่าวันนี้จะไปเก็บงานที่เหลือ

ฉะนั้นเขาจะมาอ้างไม่ได้ว่ามีปัญหาเหรอ?

น้ำพุ : ใช่ ก็คุยกันปกติ ดีกันแล้ว

แชตบอกว่าคราวหน้าอย่าพูดโกหก หรือแกล้งกันแบบนี้อีกนะ มันไม่สมควร ยิ่งพี่อายุมากกว่าหนูต้องยิ่งมีวุฒิภาวะสูงกว่าหนู  การพูดแบบนั้นทำให้หนูไม่สบาย กระทบหนูแล้วกระทบคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลของเรา มันอาจสร้างปัญหาให้เขาทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร คงไม่มีผู้หญิงหน้าไหนในโลกนี้อยากเป็นหญิงชู้หรอกค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องน่าอายเหลือเกิน ผิดศีลธรรม เราเป็นคนพุทธยิ่งไม่ควรทำ มันบาปหนา เหมือนไปโยนบาปให้เขา คราวหน้าอย่าทำอีกนะคะ ยืนยันว่าเขารู้แล้วว่าเราจัดฉาก เขาถึงได้พิมพ์มาแบบนี้ คุณพิมพ์จริงมั้ย?

ครูหนิง : พิมพ์จริง แต่พิมพ์ประชดค่ะ

เหมือนเรายอมรับนะว่าเขาได้เคลียร์กันแล้ว?

ครูหนิง : หนูพิมพ์อย่างนั้นเพื่อวันที่ 28 หนูจะไปจับผิดเขาค่ะ

น้ำพุ : จับผิดหรือจัดฉาก

ครูหนิง : จัดฉากยังไงคะ

น้ำพุ : คนนึงอยู่ราชบุรี คนนึงอยู่นนทบุรี

ครูหนิง : เราก็ขับรถผ่านไปเส้นบางแคสิคะ รับน้องเขย

น้ำพุ : แล้วทำไมต้องไปสามคน

ครูหนิง : ก็หนูไม่ไว้ใจพี่ไงคะ

น้ำพุ : ไม่ไว้ใจยังไงล่ะ

ครูหนิง : ก็พี่บอกว่าพี่ได้กับผู้หญิงคนอื่น

น้ำพุ : พอไปถึงบ้านทำอะไรล่ะครับ

ครูหนิง : โทรศัพท์ก่อนค่ะก่อนเข้าบ้าน แล้วไม่รับสายค่ะ

น้ำพุ : ก่อนหน้านั้นผมส่งอะไรไปให้

ครูหนิง : ส่งบอกว่าเอารถไปคืนแล้ว แต่รถสีดำ

น้ำพุ : ส่งรูป

ครูหนิง : ฟังก่อนนะคะ ตอนนั้นเวลาบ่ายโมงกว่าๆ พี่น้ำพุส่งภาพมาเป็นภาพในร้านเลดี้ชุดชั้นในผู้หญิงคนนั้น บอกว่ามาเก็บตกงาน หนูกลัวเขารู้ว่าหนูกำลังจะมา เลยพิมพ์บอกว่าตั้งใจทำงานนะ พอมาถึงบ้านโทรหาเขา ก็ไม่รับสาย ตัดสายทิ้ง บ้านจห. จากนั้นมองไปในบ้าน อ้าว เอารถคันไหนไปใช้ เพราะรถเขาจอดอยู่ในบ้าน อ้าว ทำไมยังใช้รถผู้หญิงคนนั้น

น้ำพุ : ที่ผมเอาไปใช้เพราะผมเอารถเก๋งไปซื้อของไม่ได้ ของมันยาว ผมเลยเอารถกระบะไปซื้อของ

พี่เอารถเขามาใช้เหรอ?

น้ำพุ : เอามาใช้ได้อยู่แล้วเพราะเขาอนุญาต เวลาผมไปซื้อของ ผมก็เอารถคันนั้นไปซื้อ เพราะรถเก๋งมันใส่ไม่ได้อยู่แล้ว ท่อก็ท่อยาว

ครูหนิง : วันที่ 27 เขาพูดเองว่าเอารถไปคืนผู้หญิงคนนั้นแล้ว

น้ำพุ : มันจำเป็นต้องเอารถไปซื้อของ ก็เลยต้องไปเอา

ครูหนิง : ไหนบอกเก็บตกงานไม่ใช่เหรอคะ เก็บตกงานก็ไม่ต้องซื้อใหม่แล้ว เก็บตกเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เหรอคะ

น้ำพุ : ก็ต้องมีของที่ซื้อแหละครับคุณหนิง ยังไงก็ต้องเอารถเขาไปซื้อของแหละครับ พอเขามาถึงบ้านก็โหวกเหวกโวยวายพี่สาวผมเป็นโควิด จำเป็นต้องออกมา เห็นเขาถือมีด แม่ผมก็อายุ 83 แล้ว ผมดูกล้องวงจรปิด เขามาทำอะไร

ตกลงเสื้อผ้าใคร?

น้ำพุ : ผมเล่าก่อน สักพักผมก็บบอกให้แม่กับพี่สาวออกไป เหลือเขา 3 คนอยู่ในบ้าน เขาก็ไปทำอะไรในบ้านผมก็ไม่ทราบ มีรูปไปติด รูปเขากับผมเหมือนสร้างฉาก

ครูหนิง : ห้องนอนเราไงคะ หนูก็เอาไปติด

น้ำพุ :   ก็สร้างฉากมั้ย ติดเรียบร้อย ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาสิ่งของ เสื้อผ้าอะไรมาใส่บ้าง เพราะไม่มีใครอยู่แล้วตอนนั้น ผมดูคลิปไปมา ทำไมต้องทำแบบนี้

เขาตามพี่ไปโคราช เขาต้องการดูว่าพี่มีหญิงอื่นจริงมั้ย ไม่เจอเขาก็เอารูปพี่กับตัวเองไปติดไว้ที่กำแพง กันไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นมายุ่งวุ่นวายกับผัวเรา?

น้ำพุ : (หัวเราะ) ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่เขาสร้างภาพขึ้นมา สร้างฉาก เอารูปมาติด

สร้างฉากเพื่ออะไร?

น้ำพุ : ส่วนเสื้อผ้าไม่เคยมีอยู่ในห้อง เสื้อผ้าคนอื่น

เอารูปไปติดทำไม?

ครูหนิง : ติดประกาศว่าห้องของฉันกับผัวฉัน พอหนูเข้าห้องไปนะ โอ้โห ตรงกับคลิปสารภาพเลยค่ะ ตู้ใหม่ โต๊ะเครื่องแป้งใหม่ ที่นอนใหม่ หมอนใหม่ เป๊ะเลยค่ะ ขึ้นเลยค่ะ

ใครซื้อให้?

น้ำพุ : เอ๋า ผมทำงาน ก็มีข้อตกลงกับคุณน้ำว่าซื้อให้ผมหน่อย ผมทำงานแลกกับสิ่งของ มีสัญญาอยู่ ผมเขียนสัญญากู้เงินอยู่

ครูหนิง : ทำไมในศาลไม่เอาไปใช้ล่ะค่ะ

น้ำพุ : ผมส่งให้ทนายหมด แต่ไม่รู้ว่าทำไมในศาลถึงไม่มีสัญญาตัวนี้

ครูหนิง : เวลาไปเลือกที่นอน ไม่พาภรรยาไปเลือกล่ะค่ะ ทำไมไปเลือกกับเขาล่ะคะ

น้ำพุ : คุณอยู่ไหนล่ะครับ เราไปเลือกกันแล้วที่ร้านญี่ปุ่น

ครูหนิง : ใช่ โต๊ะเครื่องแป้ง ตอนซื้อทำไมไม่บอกหนูล่ะคะ ผ้าปูสีอะไรทำไมไม่บอกหนูล่ะคะ

น้ำพุ : อยากเซอร์ไพรส์ได้เหรอไง

ครูหนิง :   เหรอ แล้วทำไมแจ้งความหนูลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะล่ะคะ

น้ำพุ : ก็มากี่คนล่ะครับ

คุณเอาเสื้อผ้าไปทำไม?

ครูหนิง : ไม่ค่ะ มันแขวนอยู่แล้ว

น้ำพุ :  ไม่มี

แล้วเสื้อใคร?

น้ำพุ : เสื้อคุณน้ำที่มาจ้างซัก

จ้างใครซัก?

น้ำพุ : จ้างพี่สาวซัก

พี่สาวพี่รับจ้างซักผ้าเหรอ?

น้ำพุ : รับจ้างซักผ้า

 เมียพี่มาเจอพอดี แต่เจอแบบนี้เขาก็ต้องคิดมั้ย?

น้ำพุ : อันนี้ก็ไม่ทราบ แต่อีกห้องนึงของก็เต็ม

คุณน้ำเคยมาห้องนี้มั้ย?

น้ำพุ : เคย เขาสนิทกับแม่ผมเป็น 10 ปีแล้ว ห้องนี้ตอนนั้นผมไม่อยู่เป็นห้องรับแขก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

คุณตัดเสื้อผ้าคุณน้ำ?

น้ำพุ : ตัดของลูกด้วย

เลยแจ้งความเมียเลย?

น้ำพุ : ก็ทำไมล่ะ ก็เขาขนของ

รองเท้าใคร?

น้ำพุ :   ไม่ทราบ อาจเป็นของพี่สาวก็ได้

ครูหนิง :   ของผู้หญิงคนอื่น

พี่สาวพี่ใส่รองเท้าแบบนี้เหรอ?

น้ำพุ : ครับ

จะบอกว่าพี่ไม่ได้คบเมียน้อย คุณน้ำไม่ใช่เมียน้อยพี่ เขาฟ้องแล้ว?

ครูหนิง : ชนะแล้วค่ะ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้หนูชนะ แล้วเขาก็ขยายอุทธรณ์ 4 ครั้ง หนึ่งครั้ง 30 วัน ก็ขยายเต็มของเขาเลย ตอนนี้อุทธรณ์เรียบร้อยแล้ว ศาลอุทธรณ์นัดพิพากษาวันที่ 26 ส.ค.67 การอุทธรณ์ของเขาคือทุเลาการบังคับคดีค่ะ

ไพศาล : เรื่องสร้างฉาก มีการฟ้องร้องกัน สิทธิที่ทางนี้กล่าวหาต้องไปพิสูจน์ในศาล ฝ่ายพี่ติดใจประเด็นเขามีชู้ เรามีพยานหลักฐานพร้อมให้ทีมทนายฟ้อง ทางนี้ก็ชนะฟ้องชู้เดิม พอคดีอยู่ในศาลต้องพูดตรงไปตรงมา จะพูดเยอะไม่ได้ พูดกลางๆ แล้วกัน ชู้ของผู้หญิงถ้าผัวจับได้ว่าเมียมีชู้ คุณต้องนำสืบให้เห็นว่ามีการล่วงเกินทำนองชู้สาว เช่นนอนกัน จับมือจับอะไรถึงแม้ไม่เปิดเผยรู้กันสองคนก็สามารถฟ้องชู้ได้ แต่แชตไลน์ข้อความยังไม่ชัด แต่ถ้าเมียจะฟ้องผัวมีเมียน้อย แค่แสดงตนเปิดเผยทำนองชู้สาวก็ฟ้องได้แล้ว กฎหมายอ้างแบบนี้ อาจดูเหมือนคล้ายแต่ไม่คล้าย พี่จะฟ้องเมียมีชู้พี่ต้องเอาภาพมายืนยันก่อนเอามานำสืบให้ได้ว่าเขามีการจับมือถือแขน ล่วงเกินทำนองชู้สาว ฟ้องได้เลย

ยังมีทะเบียนสมรส?

ครูหนิง : ปัจจุบันมีทะเบียนสมรสค่ะ

จะมีโอกาสกลับไปคุยมั้ย?

น้ำพุ : ยากตั้งแต่เขาด่าบุพการีแล้วครับ เขาด่าทำไมไม่ทราบเหมือนกัน

ด่าจริงมั้ย?

ครูหนิง : ไม่จริงค่ะ หลักฐานล่ะ

น้ำพุ : ผมก็ฟังอยู่

ที่จัดฉากตัดเสื้อผ้า เสื้อผ้าใคร?

น้ำพุ :   ลูกสาว คุณน้ำ ตอนนั้นแม่กับพี่สาวออกจากบ้านแล้ว

ทุเลาการบังคับคดีหมายความว่าอะไร ทนายพัฒน์ ทนายฝั่งครูหนิง เขาอุทธรณ์เรื่องอะไร?

ทนายพัฒน์ : ทั้งประเด็นว่าเขาไม่ได้เป็นชู้ตามกล่าวอ้าง และขอทุเลาการบังคับคดีคือไม่ให้ครูหนิงบังคับคดีตามพิพากษาของศาลชั้นต้น

ไพศาล : คือสู้ทุกประเด็น

ศาลชั้นต้นสั่งว่าไงบ้าง?

ทนายพัฒน์ : ให้ครูหนิงชนะคดี ฝั่งคุณน้ำต้องจ่ายครูหนิง 5 แสนบาท

ฟ้องชู้แล้วทะเบียนยังอยู่เหมือนเดิมเหรอ?

ทนายพัฒน์ : ถูกต้องครับเพราะเขายังไม่หย่ากัน หรือศาลไม่ได้พิพากษาหย่า เขาก็ยังเป็นสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย

มีอีกหนึ่งเรื่อง ฝั่งพี่น้ำพุมาถึงช่อง 3 บอกว่ามีหลักฐานเหมือนกัน ว่าคนที่ไปมีชู้ไม่ใช่ตัวเองแต่เป็นเมีย?

น้ำพุ : ครับ หลักฐานตามที่ส่ง

ถ้าไม่จริงฟ้องอีกมั้ย?

ครูหนิง : ก็คงต้องฟ้องค่ะ

ไพศาล : ก็เป็นปฏิปักษ์กันแล้ว

แล้วทำไมไม่หย่ากัน?

ครูหนิง : หนูฟ้องหย่าแล้วค่ะ แล้วเรียกค่าทดแทน หลังเขาฟ้องหย่าหนู แล้วศาลยกฟ้องเพราะเขาไม่มีอำนาจในการฟ้องหนู หนูก็เลยฟ้องหย่าเขา

น้ำพุ : เขาเอาค่าทดแทนไงครับ เขาต้องการค่าทดแทน 1 ล้าน

พี่อยากหย่าอยู่แล้ว ครูหนิงบอกว่าหย่าเฉยๆ ก็ไม่แฟร์เท่าไหร่?

น้ำพุ : ลูกก็ไม่มีด้วยกัน

ครูหนิง : จะมาหย่าง่ายๆ เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของพี่ได้ยังไงล่ะคะ ทำอย่างนี้กับผู้หญิงมาตั้งหลายคนแล้วแบบนี้

น้ำพุ : อยู่ไม่ได้ก็ต้องหย่า

ครูหนิง : อยู่ไม่ได้เพราะอะไรล่ะคะ เพราะพี่มีผู้หญิงอื่นไงล่ะคะ

น้ำพุ : ก็ผมบอกว่าไม่มีไง

ครูหนิง : สาเหตุที่ทะเลาะก็เพราะเรื่องผู้หญิงอื่นทั้งนั้นเลย

น้ำพุ : ไม่ใช่ เรื่องโทรศัพท์อย่างเดียว สองสามปีที่แล้วก็เรื่องโทรศัพท์

ครูหนิง : ไม่ใช่เลยค่ะ

คุณเอ็มเป็นทนายคุณน้ำพุและทนายคุณน้ำด้วย?

ทนายเอ็ม : ใช่ค่ะ แล้วที่บอกว่าอุทธรณ์ 4 ครั้งจริงๆ ไม่ใช่นะคะ จริงๆ เราขยายแค่ 3 ครั้ง แล้วเราไม่ได้ขออุทธรณ์เรื่องบังคับคดี เราขอคำร้องเพื่อให้ศาลท่านขอขยายในการบังคับ แต่อุทธรณ์ประเด็นต่างๆ ตามกฎหมายต่อไป แต่ก็สู้สุดทางเหมือนกัน

ถ้าสุดท้ายศาลอุทธรณ์ยืนยันตามศาลชั้นต้น?

ทนายเอ็ม : ก็เคารพการตัดสินใจของศาลค่ะ

ทางนี้ฟ้องหย่า?

ทนายเอ็ม : ตอนแรกๆ ฟ้องหย่า แต่ก่อนเข้ามากับพี่น้ำพุ มีทนายท่านอื่นมาก่อน ก็เลยได้เข้ามาในวันสืบค่ะ ไม่ได้ทำคดีมาตั้งแต่ต้น ประเด็นฟ้องหย่าไป พี่น้ำพุอยากฟ้องหย่าในหลายประเด็น แต่ประเด็นที่ต้องการในคำฟ้องมันไม่ถูกต้อง ประกอบกับครูหนิงแถลงว่ายังไม่อยากหย่าเองด้วย เผื่อกลับมาเป็นครอบครัว เห็นบอกว่ายังรักอยู่

น้ำพุ : ผมไม่ได้รักแล้ว แต่เขาบอกว่ายังรักผมอยู่ เขาแถลงศาล ผมไม่รักแล้ว หมดไปตั้งนานแล้ว

ทนายพัฒน์ : ตอนนี้ที่จบไปแล้วมี 4 เรื่อง เรื่องแรกเราฟ้องบุคคลที่สาม คุณน้ำ เราชนะคดีในศาลชั้นต้น ตอนนี้อยู่ที่อุทธรณ์ รอศาลอุทธรณ์ตัดสิน เรื่องที่สองที่โผล่ขึ้นมา คุณน้ำไปฟ้องคดีหมิ่นประมาทครูหนิง ศาลพิพากษายกฟ้องไปแล้ว ครูหนิงชนะถึงที่สุดไปแล้ว คดีที่สาม คุณน้ำพุไปฟ้องหย่าคุณหนิง ศาลก็พิพากษายกฟ้องเหมือนกัน ชนะไปแล้ว แล้วมีเรื่องนึงที่บุกบ้านวันที่ 28 พนักงานอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง ตอนนี้เราชนะ 4 เรื่อง แต่เมื่อเราชนะแล้วก็อยู่ไม่ได้แล้ว ยังไงก็ต้องฟ้องหย่า เราฟ้องหย่าคุณน้ำพุไป คดีอยู่ระหว่างพิจารณา เรียกเงิน 1 ล้าน

พี่จะสู้มุมไหน คือหย่าได้แต่จะไม่จ่ายตังค์ว่างั้นเหอะ?

น้ำพุ : ใช่ครับ

ทนายเอ็ม : เราจะสู้ในมุมตัวพี่น้ำพุไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณน้ำจริง เราก็ว่าไปตามหลักฐานที่มีจริงๆ ตรงนี้ทนายเอ็มเองเพิ่งได้หลักฐานบางส่วน จริงๆ ก่อนหน้าสืบคดีคุณน้ำ ทางทนายเอ็มไม่ได้เอกสารบางอย่าง ขณะตอนทำสืบ บังเอิญมีทนายคนอื่นร่วมในการสืบ เราก็ไม่อยากก้าวก่าย

หย่าได้แต่ไม่จ่ายตังค์ ส่วนฝั่งนึงหย่าได้แต่เอามาล้านนึง จะกลับไปมั้ย?

ครูหนิง : ไม่แล้วค่ะ ส่งคลิปลามกอนาจารให้ลูกสาวหนูจะกลับไปทำไม

ส่งคลิปอะไร?

น้ำพุ : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมจะส่งให้ตัวเอง จะส่งให้อีกเครื่องนึงของผม ผมมีโทรศัพท์สองเครื่อง

ครูหนิง : แชร์จากเว็บพอนฮับด้วยค่ะ ผิดกฎหมายค่ะ

น้ำพุ : โทรศัพท์เครื่องนึงมันร้าว ดูไม่ได้ ก็จะส่งไปอีกเครื่องนึง จังหวะนั้นไม่ได้ใส่แว่น ผมคิดว่าส่งเข้าเครื่องผม พอส่งแล้วก็นอน พอจะกลับมาดูมันไม่เจอ

พี่ส่งไปตอน 01.06 น. แล้วพี่มาอุ๊ยขอโทษตอน 20.55 น. อีกวันนึง ?

น้ำพุ : ใช่ครับ

ดูแล้วไม่ลบทิ้งล่ะ?

น้ำพุ : ผมก็ยกเลิกหมดเลย ก็ขอโทษ

ชอบดูหนังโป๊เหรอ?

น้ำพุ : ไม่ได้ชอบดูสักเท่าไหร่ จะเอาไปดูเฉยๆ แล้วจะลบทิ้ง จังหวะนั้นมันส่งผิดพอดี

เซฟชื่อผมไว้หน่อยดิในไลน์?

น้ำพุ : พอส่งผิด ผมขอโทษลูกสาวเขาแล้วเรียบร้อย ผมก็ไปคุยกับแม่เขาว่าพี่ส่งผิดนะ พี่ขอโทษด้วย มีการให้อภัยกันเรียบร้อย ลูกสาวก็แชตไลน์คุยปกติ ไม่มีการส่งผิดอีกเลย

เชื่อมั้ย?

น้ำพุ : เขายังพูดติดตลกว่าทำไมไม่ส่งให้หนูบ้าง

จริงมั้ย?

ครูหนิง : จำไม่ได้ แต่คดีนี้อยู่ในศาลทหารค่ะ

พี่ลาออกจากทหารเลยเหรอ?

น้ำพุ : ลาออกแล้ว มันมีความวุ่นวายกับผู้บังคับบัญชาในเรื่องการฟ้องร้อง เขาก็โทรจิกผู้บังคับบัญชาผมตลอด เขาโทรถามผู้บังคับบัญชาตลอดว่าพี่น้ำพุทำอะไรอยู่ไหน ผมไปศาลสมุทรสาครก็โทรไปบอกผู้บังคับบัญชา มันเป็นการรบกวน ก็เลยตัดสินใจลาออกดีกว่า ผู้บังคับบัญชาก็เดือดร้อนทั้งหมด

ถ้าไม่ผิดแล้วจะลาออกทำไม?

น้ำพุ : ไม่อยากให้ผู้บังคับบัญชาเดือดร้อน

แสดงสปิริต?

น้ำพุ :   ครับ ไม่ได้แอบลาออกนะ ทำตามระเบียบ

สังคมจะมองว่าพี่มากเมีย แต่พี่บอกมีทีละคน สองพี่ชอบดูหนังโป๊?

น้ำพุ : ไม่ได้ชอบมากเท่าไหร่ พอดีโหลดมาเก็บไว้ แล้วก็ส่งไปเลยคิดว่าจะเข้าเครื่องผม แต่ไปเข้าเครื่องลูกสาวเขา

ตกลงพี่กล่าวหาเขามีชู้ ด้วยเรื่องอะไร ในเมื่อทางนี้เขาฟ้องพี่จนชนะไปแล้ว?

น้ำพุ : ตั้งแต่ปลายเดือนก.ย. ผมระแคะระคายจากเพื่อนผมว่าเขามีความสัมพันธ์กับเพื่อนผม ชื่อว่าหมวดตุ้ย เพื่อนพิมพ์ไลน์มาถาม ผมไปเช็กในเฟซบุ๊กต่างๆ นานา เขามีการกดไลค์ ผมคิดว่าเขามีความสัมพันธ์กัน

หลักฐานมีเหรอ?

น้ำพุ : จากบุคคลรอบข้าง เพื่อนผม ตอนนั้นผมยังไม่ลาออก เพื่อนก็แชตไลน์คุยกับผมว่าเตือนมันแล้ว มันไม่ฟัง มันอยากมีเขา ประมาณนี้

จะยืนยันว่าเพื่อนคุณคนนี้เคยเตือนหมวดตุ้ยแล้วอย่าไปยุ่งกับหนิงเขาเลย เขามีเมียมั้ย?

น้ำพุ : เมียตายแล้วครับ

เขาก็โสด แล้วมีอะไรอีก?

น้ำพุ : คลิปเสียงที่คุยกับน้องที่ทำงานอีกที่ ผมคุยกับน้องเขา เขาก็เล่าให้ฟัง

ทนายเอ็ม :   นอกจากเพื่อนแล้วมีใครอีกมั้ยที่บอก

อันนี้เป็นเรื่องที่พี่เองต้องชัดเจน เพราะการที่พี่พูดแบบนี้ ถ้าไม่ชัดเจน กล่าวลอยๆ อ้างๆ ทำให้ฝ่ายหญิงเสียหาย อะไรก็ตามแต่ถ้าพี่มีหลักฐาน พี่ต้องเปิดแบบชัดเจน คนทางบ้านตอนนี้จอดรถรออยู่ ไม่งั้นคนดูจะเอ๊ะยังไง ทางนี้เขาก็ฟันโป๊ะๆ เหมือนกัน ไม่ได้เข้าข้างนะ แต่อาจต้องชัดเจน?

น้ำพุ : งั้นขอเอาคลิปไว้ในชั้นศาล ในคลิปเขาก็บอกว่าทุกคนก็รู้กันหมด มีอะไรกัน ไปไหนต่อไหนด้วยกัน ไปเที่ยวกัน ไปอ่าวมะนาว สุพรรณฯ ไปไหนมาไหนด้วยกัน

คุณเคยไปมั้ย?

ครูหนิง : ไม่เคยค่ะ ยืนยัน

มีหลักฐานอะไรอีก?

น้ำพุ : คลิปถ่ายรูปในบ้านแล้วขับรถออกมา ผมไปเฝ้าดูวันที่ 27 ม.ค. 67 พอดีผมได้รับข้อความจากลูกสาวผมว่ามันมาโคราชแล้ว ผมก็ดิ่งไปเลยบ้านคู่กรณี ไปเห็นรถสีขาวจอดอยู่ในบ้านตุ้ย

รถคุณมั้ย?

ครูหนิง : ใช่ค่ะ

แล้วรถตุ้ยล่ะ?

น้ำพุ : จอดอยู่ข้างนอก รถเขาเอาผ้าคลุมไว้อย่างดี แต่ข้างนอกไม่มีผ้าคลุม จะคลุมไว้ทำไม

จะบอกว่ามันเลิกรากันไปแล้ว จะไปคบคนอื่นไม่ได้ เพราะมีทะเบียนสมรสค้างอยู่ ลูกสาวคุณบอกว่าหนิงมาแล้ว ตั้งใจไปดูตรงนี้เพราะอะไรก่อน?

น้ำพุ : ผมรู้ว่าเขาต้องมาที่บ้านหลังนี้ ก็ขับรถจอดดู ไปประมาณเที่ยงกว่าๆ วันที่ 27

เจตนาเอาผ้ามาคลุมคิดว่าเพื่ออะไร?

น้ำพุ : อำพราง คนบริสุทธิ์ใจจริงๆ จะทำแบบนี้ทำไม ผมก็เอารถไปจอดแล้วเดินมา ก็ได้ยินเสียง ดูเน็ตฟริกซ์ดูซีรีส์กัน

คุณเข้าไปฟังเหรอ?

น้ำพุ :   นั่งแอบฟัง จะมีรถกระบะผมก็อยู่ท้ายรถกระบะ นั่งยองๆ นอกรั้ว

คุณไปนั่งหลังรถตุ้ย แล้วได้ยินเสียงอะไร?

น้ำพุ : ดูหนัง คุยกันสนุกสนาน

รู้ได้ไงว่าเป็นเน็ตฟริกซ์?

น้ำพุ : เขาชอบดูกันอยู่แล้ว ซีรีส์เกาหลีอะไรแบบนี้ เขาคุยกระหนุงกระหนิง คุยตามประสาหนุ่มสาว แล้วผมก็โทรหาทนายครับว่าเอาไงดี

ทนายเอ็ม : พอดีว่าพี่น้ำพุก็บอกว่าตอนนี้เห็นครูหนิงมาบ้านหมวดตุ้ย บอกจะเอายังไง ให้พี่เข้าไปหาเลยมั้ย เพราะเราก็สืบมาหลายครั้งแล้ว อยากเข้าไปคุยว่าสิ่งที่เขาพูดมามันจริงหรือเปล่า แต่ ณ ตอนนั้นอารมณ์เราก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวพี่น้ำพุหรือหมวดตุ้ย หรือครูหนิงอารมณ์จะเป็นยังไง ก็เลยบอกว่าพี่ใจเย็นนะ พี่ไม่ต้องเข้าไป รอทำตามกระบวนการกฎหมายดีกว่าค่ะ พี่เขาก็รอค่ะ เผื่อครูหนิงออกจากบ้าน

แล้วออกมั้ย?

น้ำพุ : ไม่ออกเลย ผมก็ตัดสินใจให้พี่สาวมาดีกว่า ผมก็โทรหาพี่สาว พี่ชื่อเจี๊ยบ

คุณเจี๊ยบมานั่งรอกับคุณ?

น้ำพุ : เขาขับรถมาอีกคัน พอเขามาผมก็ออกไป ผมก็ออกไปจอดอยู่อีกที่ เผื่อเขาขับรถออกไปผมจะตามไป

เหนื่อยหัวใจมั้ย?

ครูหนิง : เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ

มีข้อกังขาหลายข้อ รถมีการคลุมทั้งที่เข้าไปจอดข้างใน เอาผ้ามาปิดทำไม เหมือนปิดทะเบียน อำพราง รถเจ้าของบ้านจอดข้างนอก คนก็คิดได้ แล้วไปเปิดเน็ตฟริกซ์กัน?

ทนายพัฒน์ : ทำไมไม่ถ่ายรูปเขาล่ะ ถ้าเห็นเขากระหนุงกระหนิงกัน

ครูหนิง : ทำไมพี่ไม่โวยวายล่ะ

น้ำพุ :   ทำไมต้องเรียกล่ะ

ครูหนิง :   พี่จะได้เห็นหน้าหนูชัดๆ จะได้ถ่ายคลิป

ทนายเอ็ม : วันนั้นมีหลายคนที่ดูอยู่ในเหตุการณ์ พวกคุณไม่ออกมาจากบ้านไงคะ เรารอดูตั้งแต่ 27-28 วันที่ 28 คุณถึงออกมา ถูกต้องมั้ยคะ

ต่อสายหา “คุณเจี๊ยบ”  พี่สาวพี่น้ำพุ พี่เป็นคนรับจ้างซักผ้า?

เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ พี่ซักผ้าให้คุณน้ำจริงค่ะ มีอีกหลายคนค่ะ สองสามสี่คน

ยืนยันว่าน้องชายไม่ได้มีเมียน้อย?

เจี๊ยบ : ไม่มีหรอกค่า พี่รู้จักเขามานานแล้ว เขามีเมียทีละคนค่ะ เขาก็จดทะเบียนแล้วเลิกกันไปอยู่ไม่ได้ แต่ส่วนมากพี่ก็ไม่ได้รู้อะไรมากมายเพราะพี่ทำงานอยู่อีกที่นึงก่อนหน้านี้

ทุกครั้งจดทะเบียนแล้วหย่า กี่ครั้ง?

น้ำพุ : 2 ครั้ง

เจี๊ยบ : ก็ถามน้องชายว่าทำไมอยู่ดีๆ มีแฟนแล้วไม่เห็นบอกเลย เขาก็บอกว่าจดเพราะแฟนเก่าเขามาวุ่นวาย เขาก็ชอบๆ กันอยู่ ก็เลยขอให้จด เขาก็เลยไปจด

ครูหนิง : เรามีหมายเชิญพี่เจี๊ยบให้มาเป็นพยานคดีฟ้องชู้ ทำไมวันนั้นพี่เจี๊ยบไม่มาล่ะคะ

เจี๊ยบ : เชิญที่ไหนคะ ไม่เห็นมีใครแจ้งพี่นะคะว่ามีหมาย พี่ก็ยังอยู่บ้าน

ยืนยันว่าน้ำพุกับน้ำไม่มีอะไรกัน?

เจี๊ยบ :   ค่ะ

เขาซื้อเตียงซื้อตู้ให้กันจริงมั้ย?

เจี๊ยบ : ก็ไม่รู้ซื้อให้จริงหรือเปล่า แต่มันอยู่ในห้องค่ะ แต่ในห้องในบ้านพี่อยู่มาก่อน อยู่ตลอด น้ำพุไม่ค่อยได้มาหรอก เขาไปรับราชการ พอเขากลับมาก็อยากให้เขามีงานทำ ก็ให้เขามาทำอะไรให้คุณน้ำ เพราะพี่ก็เป็นลูกน้องเขาเหมือนกัน

อยากให้น้ำพุกลับไปคบคุณหนิงมั้ย?

เจี๊ยบ : แล้วแต่เขานะคะ เรื่องครอบครัวพี่ไม่อยากยุ่ง

ขนาดไม่อยากยุ่ง พี่ก็ขับรถไปจอดรอเขาอยู่นะ?

เจี๊ยบ : ตอนหลังไงคะอยากเห็นกับตาค่ะ

ครูหนิง : พี่เจี๊ยบทำคลิปให้พี่น้ำพุกับคุณน้ำเหรอคะ

เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ

ครูหนิง : อยากชมว่าทำสวยมาก ทำเก่งมาก เพลงก็เพราะค่ะ คลิปลอยกระทงค่ะ

เจี๊ยบ : ไปหลายคนค่ะ

ทำไมพี่ไม่เข้าไปลอยกับเขา?

เจี๊ยบ : พี่ก็ไปลอยกับเขา แต่ไม่มีรูปพี่เพราะพี่เป็นคนถ่าย

ทนายพัฒน์ : เขาเบิกความว่าพี่เจี๊ยบไม่ได้ไปนะครับ เขาไป 5 คน

เจี๊ยบ : พี่ตามไปทีหลังค่ะ

ทนายพัฒน์ :   อ้าว คนอื่นเบิกความเท็จสิครับ พี่เจอเขามั้ยครับ

เจี๊ยบ : เห็นทั้งกลุ่มค่ะ คนมันเยอะ 

ทนายเอ็ม :   วันนั้นครูหนิงก็มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กนี่คะ ลอยกระทง

ครูหนิง :   ลอยกระทงนี่ไม่เคยโพสต์ในเฟซบุ๊กเลยนะคะ

น้ำพุ : แต่คลิปนี้มีเฟซอวตารมาด่าผม ส่งคลิปมาด่าตลอด ผมมีหลักฐานแต่ไม่ได้ให้ทีมทนาย

ครูหนิง : พี่แจ้งความดำเนินคดีหรือยังล่ะคะ

น้ำพุ : แจ้งแล้วครับ

ครูหนิง : ดีมากค่ะ

วันที่ 27 ม.ค. สักบ่ายๆ พี่ได้รับโทรศัพท์จากพี่น้ำพุ เขาโทรมาว่าอะไร?

เจี๊ยบ : เขาโทรมาบอกว่ามาแล้วนะ มาเลย มาดู เพราะพี่ก็ไม่เชื่อกับเขาหรอก พี่ก็ไป ขับรถไปรับหลานแล้วมา

พี่ไปดักอยู่ตรงไหน?

เจี๊ยบ : จอดรถอยู่ห่างๆ น้ำพุจอดอยู่หน้าหมู่บ้าน เดินวนเดินดูอยู่ ไม่มีใครออกมา

เห็นอะไรบ้างมั้ย?

เจี๊ยบ : เห็นคู่กรณีเดินไปเดินมา ครูหนิงไปเข้าห้องน้ำ ส่วนมากเขานอนดูทีวี ถ้าเขานั่งเราจะเห็นเพราะเตียงติดหน้าต่าง หน้าต่างเขาเปิดไว้ ถ้าไม่เห็นเขานั่งเขาก็ต้องนอนสิคะ เขาก็ต้องเอน เคยเห็นคลิปในบ้านเขาอยู่

พี่ถ่ายคลิปเขามั้ย?

เจี๊ยบ : ไม่ได้ถ่ายค่ะ ก็กลัวเขาเห็น พี่ก็ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่ถ่ายเป็นบ้านถ่ายอะไรถ่ายอยู่ ถ่ายหมดค่ะ

เขาออกจากบ้านหลังนั้นกี่โมง?

เจี๊ยบ : วันที่ 28

จะบอกว่าเขาค้างคืนเหรอ?

เจี๊ยบ : ก็เฝ้าตลอด ไม่ได้กลับบ้านเลยค่ะ

ขนาดพี่กลัวนะเนี่ย ไม่กลับบ้านกลับช่องเหรอ?

น้ำพุ : สลับเวรกัน

เจี๊ยบ : รอถึงวันที่ 28 วนมาตอนเช้าอีก ก็เห็นหมวดตุ้ยออกมาเช็ดรถ สักประมาณ 09.25 น. เขาออกมาดูลาดเลา 10.06 น. ครูหนิงก็ขับรถออกมาเลย

พี่ถ่ายรูปมั้ย?

เจี๊ยบ : ถ่ายค่ะ แล้วส่งรูปไปให้น้ำพุ

รถครูหนิงหรือเปล่า?

ครูหนิง : ใช่ค่ะ

เจี๊ยบ : พี่สลับกับหลานค่ะ

ขนาดพี่ไม่อยากยุ่งเรื่องผัวเมียนะเนี่ย?

เจี๊ยบ : ช่วยน้องชายหน่อยค่ะ (หัวเราะ)

ครูหนิง : คุณน้ำไปด้วยมั้ยคะ

เจี๊ยบ : ไม่ได้ไปค่ะ ก็ไม่ได้รู้จักเขา ไม่ได้เจอเขานานแล้ว ไปกับหลานสองคนค่ะ

ทนายพัฒน์ :   พี่เจี๊ยบไปเป็นพยานด้วยนะ ครั้งที่แล้วไม่มีโอกาสได้ถามเลย เดี๋ยวผมหมายให้อีกครั้งนึงนะครับ

เจี๊ยบ : ได้ค่ะ

ครูน้ำไม่ได้ไปด้วยใช่มั้ย?

เจี๊ยบ : ไม่ค่ะ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ติดต่อกันไม่ได้ค่ะ

มีการส่งรูปรถครู?

ครูหนิง : มีข้อความหยาบคาย แต่หนูไม่ได้ตอบนะคะ

เปิดผ้าแล้วถ่ายทะเบียนมั้ย?

เจี๊ยบ : หนูไม่ได้เป็นคนเปิดค่ะ

แล้วใครถ่าย?

น้ำพุ : น้ำพุแหละค่ะ

น้ำพุอยู่ข้างนอกไม่ใช่เหรอ?

เจี๊ยบ : ตอนเช้าแกเข้ามาแล้วค่ะ แต่ที่ถ่ายตอนกลางคืน พี่ไม่กล้าเปิดค่ะ

คุณน้ำส่งรูปต่างๆ นานา ถ่ายในบ้านหมวดตุ้ย มีการเปิดป้ายทะเบียนรถ น้ำมีคลิปเหล่านี้ได้ยังไง?

เจี๊ยบ :   อันนี้ไม่ทราบว่าหลุดไปได้ยังไง ต้องถามน้ำพุกับคุณทนาย

น้ำพุส่งให้เขามั้ย?

น้ำพุ : ไม่เคยครับ

คุณเจี๊ยบส่งล่ะสิ?

เจี๊ยบ : เฮ้ย ไม่ใช่ค่ะ

แล้วคุณน้ำจะมีได้ยังไง?

ทนายเอ็ม : ทนายก็ไม่ได้ส่งค่ะ

เจี๊ยบ : ต้องถามหลานอีกทีนึง

คิดว่าฝั่งคุณหนิงที่พี่ไปนั่งเฝ้าข้ามวันข้ามคืน ถามว่าพี่คิดว่าเขาไปทำอะไรในบ้านหลังนั้น?

เจี๊ยบ : เขาไปอยู่ทั้งวันทั้งคืนก็คิดว่าเขาคงมีอะไรกันนะครับ

ทนายพัฒน์ : พี่เห็นมั้ย

เจี๊ยบ : ไม่เห็นค่ะ มันก็คิดได้สองแง่สองง่ามนะ แต่พี่เห็นเขาอยู่กันสองคน

พี่คิดว่ามันแปลกที่ผู้หญิงคนนึงไปนอนค้างบ้านเพื่อนผัว?

เจี๊ยบ : พี่คิดและจากฟังดูหลายๆ อย่าง ก็คิดบ้างค่ะ

ได้ฟังเสียงเขาเล็ดลอดอะไรออกมามั้ย?

เจี๊ยบ : มีเสียงพูด บางครั้งจับใจความไม่ได้ พูดเกี่ยวกับทีวี ก็คุยกันปกติค่ะ

พี่น้ำพุมองว่าผิดวิสัย?

น้ำพุ : ตั้งแต่อยู่กับดาวเรือง ผมไม่เคยแนะนำคนชื่อตุ้ยให้เขารู้จักเลย เขาจะรู้จักกันได้ยังไง ผ่านจากใคร แล้วไปค้างคืนที่บ้านนั้นได้ยังไง ซีรีส์หรืออะไรก็ไม่รู้

คุณจะชี้แจงยังไง รู้จักหมวดตุ้ยได้ยังไง?

ครูหนิง : รู้จักเพราะว่าหมวดออย พี่ตุ้ยหนูทราบมาว่าเขาขอไลน์เราจากหมวดออย ไม่ใช่แค่พี่ตุ้ยนะคะ มีหมวดคนอื่นๆ ด้วยที่ขอเบอร์เรา หนูก็ขอด้วยเพราะต้องการสืบพฤติกรรมสามี ว่าวันนี้มาทำงานหรือเปล่า ลาป่วยลากิจไปไหนหรือเปล่า ขับรถคันไหนเข้ามา ประมาณนี้ เพราะสามีหนูบล็อกหนูทุกช่องทาง

เขาขอไลน์คุณเมื่อไหร่?

ครูหนิง : หมวดออยน่าจะเป็นคนให้ไปหลังจากหนูออกรายการโหนกระแสไปแล้วค่ะ หนูก็คุยกับพี่เขา พี่ตุ้ย ถ่ายรูปพี่น้ำพุมาให้ด้วยนะเช้านี้เขาเข้าแถวมั้ย เขาลามั้ย หนูก็ไม่ได้บอกพี่ตุ้ยคนเดียว บอกคนอื่นที่ช่วยหนูอีกค่ะ หนูก็สืบเรื่องราวของสามีค่ะ

หมวดตุ้ยจีบคุณมั้ย?

ครูหนิง :   ไม่จีบค่ะ

เราสนิทสนมกับเขาขนาดไหน?

ครูหนิง : สนิทสนมถึงขั้นเอารถไปฝากจอดที่บ้านได้ เพราะว่าปลอดภัยค่ะ

วันเกิดเหตุ 27 ม.ค.?

ครูหนิง : วันที่ 26 ค่ะวันศุกร์ หนูกับพี่น้ำอ้อย เดินทางไปที่จ.นครราชสีมาเพื่อไปดูสามีที่บ้าน

แต่เขายืนยันว่าคุณไปบ้านหลังนั้นวันที่ 27?

ครูหนิง : แต่หนูไปตั้งแต่วันที่ 26 วันศุกร์ค่ะ หนูเอารถไปจอดเย็นวันศุกร์ ถึงโคราชประมาณ 6 โมงถึง 6 โมงครึ่งค่ะ

คุณเห็นตอนรถเข้าไปมั้ย?

น้ำพุ : ไม่เห็น

จะบอกว่ารถไปจอดตั้งแต่ 26 ม.ค. คุณเห็นตัวเขามั้ย?

น้ำพุ : ได้ยินเสียง ผมจำเสียงเขาได้แม่น

คุณอยู่ในบ้านหลังนั้นมั้ย?

ครูหนิง :   หนูฝากจอดรถค่ะ แล้วพอจอดเสร็จหนูได้เข้าไปในบ้านหลังนั้นกับพี่น้ำอ้อย เข้าห้องน้ำห้องท่าประมาณทุ่มครึ่งเกือบสองทุ่ม พี่น้ำอ้อยเป็นมือถ่ายคลิปไปกับหนูทุกที่

พี่น้ำอ้อยไปด้วยมั้ย?

น้ำอ้อย : ไปค่ะ ไปถึงประมาณ 6 โมง แล้วไปเข้าห้องน้ำในบ้านเขานั่นแหละ เขาก็หาข้าว หาน้ำให้กิน ประมาณทุ่มกว่าๆ หมวดตุ้ยก็ไปส่งที่โลตัสหัวทะเล ครูหนิงก็ไปกับพี่ วันที่ 26 ค่ะ

ไปพักที่ไหน?

น้ำอ้อย : ยังค่ะ ไปหาน้องดา เขาเอารถมารับที่โลตัสหัวทะเล แล้วไปวนที่บ้านจห. บ้านเขา ดักดูเหมือนกัน แต่โดนซ้อนแผนเสียก่อนไง พอไปที่จห.เสร็จจะไปค้างที่แฟลตตำรวจ เพราะแฟนพี่เป็นตำรวจ

คืนที่ 26 นอนไหน?

น้ำอ้อย : นอนแฟลตตร.

27 กลับมั้ย?

น้ำอ้อย : ไม่กลับค่ะ อยู่แฟลตตร.

ครูหนิง : ตามสืบสามีค่ะ ทั้งสามีน้องดาและของหนูค่ะ

น้ำอ้อย : นี่ก็มาตามสืบสามีเหมือนกัน สามีเป็นตร. มีเมียน้อยเหมือนกัน ตร.อยู่กองเมือง ทีมเมียหลวงอ่ะ

27 คุณไปตามหาผัวอีกแล้ว ทั้งที่คุณฟ้องเขาอีกแล้ว ทำไมยังไปตามอยู่?

ครูหนิง : หนูอยากดูความเป็นไปของเขาค่ะ

น้ำอ้อย :   จะฟ้องรอบสอง

ครูหนิง : ใช่ค่ะ หนูดูตั้งแต่เขาออกรถใหม่ปาเจโร่ป้ายแดงจนเปลี่ยนรถค่ะ

คุณฟ้องชู้ 16 ก.พ. 66 ข้ามมาปีนึงคุณยังไปตามเขาอีกเหรอ?

ทนายพัฒน์ : มันฟ้องได้อีกนี่ครับ แล้วเจอมั้ย

ครูหนิง : เจอรถเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากปาเจโร่เป็นซีอาร์วี จากรั้วบ้านพังเป็นรั้วบ้านใหม่ค่ะ

มีหลักฐาน มีพยานมั้ย?

น้ำอ้อย : นี่ไงคะ เป็นพยาน อยู่กันสามคน

ดา : ตอนไปตามสามี สามีไปอยู่กับชู้ พี่หนิงมา หนูจัดทีมเมียหลวง หนูบอกหนูขอเคลียร์ขอหนูก่อน แล้วหนูไปรับแกที่หัวทะเล ผัวหนูไม่อยู่ หนูเลยให้พี่ตุ้ยมาส่งแกที่โลตัสหัวทะเลใกล้บ้านหนู วันที่ 27 เราไปเวียน เราวางแผนกัน ซื้อข้าวกิน เราไปลงบันทึกประจำวันนะคะ ทั้งหมดทั้งมวลเรามีหลักฐานหมดเลย พี่หนิงเขาได้รูปภาพที่คุณน้ำส่งมาในไลน์ หนูเลยบอกว่าไม่ปลอดภัย ให้พี่ตุ้ยไปแจ้งความ ว่าทำไมพวกหนูอยู่ด้วย ถึงถ่ายหนูไม่ติด ให้พี่ตุ้ยไปลง พี่ตุ้ยไป แต่ตร.ไม่รับแจ้งความ หนูก็เลยไปเอง พอดีหนูจะไปธุระด้วย หนูก็ลงบันทึกประจำวัน ตร.ก็ถามว่าหนูเป็นใคร หนูก็บอกว่าหนูอยู่ด้วย วันที่ 28 หนูไปส่งพี่อ้อย กับพี่หนิงที่บ้านหมวดตุ้ย ตอน 9 โมงกว่า เอารถปิกอัพไปส่งหน้าบ้านเลยค่ะ ถึงถามว่าทำไมถึงถ่ายไม่ติด

คุณเห็นมั้ยว่า 28 เขาไปส่งคุณหนิง?

น้ำพุ : ไม่เห็นมีปิกอัพไปส่งสักคัน

หมวดตุ้ย อยู่ในสาย รู้จักพี่น้ำพุมั้ย?

หมวดตุ้ย : เขาเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน เขาเป็นทหารรุ่นน้องครับ ไม่ได้สนิทกับผมหรอก เป็นรุ่นน้องที่นิสัยไม่ค่อยดี เจอหน้าผมไม่ค่อยทำความเคารพเลย

เห็นว่ากอดคอกินเหล้ากันไม่ใช่เหรอ?

หมวดตุ้ย : (หัวเราะ) อันนั้นฟังความข้างเดียว ผมไม่ได้สนิทขนาดนั้นครับ

ไปขอเบอร์ไลน์คุณหนิงจริงมั้ย?

หมวดตุ้ย : ขอไลน์กับหมวดออย อยากให้กำลังใจเพราะคนทำชื่อเสียงเสียคือทหารอากาศ ผมก็เป็นทหารอากาศคนนึง อยากกู้ชื่อเสียงที่เสียๆ ไป ผมจะทำทุกอย่างที่พอจะช่วยได้

จีบเขามั้ย?

หมวดตุ้ย : ไม่ครับ ผมจะเกษียณอีก 8-9 เดือน ผมจะหาห่วงผูกคอทำไมครับ

พี่เคยไปเที่ยวกับทางคุณหนิงมั้ย?

หมวดตุ้ย : ไม่เคยครับ

ใครบอกไปเที่ยวจันทบุรี?

หมวดตุ้ย : ไม่เคยครับ บ้านผมอยู่จันทบุรีอยู่แล้ว

เคยไปอ่าวมะนาวมั้ย?

หมวดตุ้ย : เคยไปอยู่แล้วกับครอบครัว

มีภาพพี่กินข้าวกับคุณหนิง?

หมวดตุ้ย : โคราชครับ แต่อ่าวมะนาวไม่เคยไปครับ

น้ำพุ : (หัวเราะ) ขำเฉยๆ

หมวดตุ้ย : ขำเรื่องอะไรน้ำพุ

น้ำพุ : เรื่องอ่าวมะนาวนี่แหละ

หมวดตุ้ย : มีหลักฐานอะไรก็เอามาโชว์ อย่าพูดมั่ว

น้ำพุ : ไม่โชว์หรอก ไว้โชว์ที่ศาล

หมวดตุ้ย : งั้นก็ไปคุยกันในศาล

วันที่ 27 ครูหนิงไปค้างที่บ้านพี่หรือเปล่า?

หมวดตุ้ย : ไม่ครับ ครูหนิงมาตั้งแต่วันที่ 26 แล้วพี่หนุ่ม

สนิทกันถึงขั้นเอารถไปจอดที่บ้านเลยเหรอ?

หมวดตุ้ย : ใช่ครับ ที่ผมคลุมป้าย เพราะที่บ้านมีนกพิราบมาทำรัง รถผมจอดผมก็คลุม รถใครมาฝากจอด ผมก็กลัวรถเขาเลอะ ก็จอดกันรถพิราบ

แต่คลุมไม่หมดคัน?

หมวดตุ้ย : นกพิราบขี้แถวๆ หน้ารถ ไม่ถึงข้างหลังครับ

ฝั่งพี่เจี๊ยบกับพี่น้ำพุ บอกว่าไม่เห็นเพื่อนครูหนิงไปส่งที่หน้าบ้านเลย?

น้ำพุ : ทะเบียนรถอะไร เดี๋ยวไปถามยาม

ดา : ไปถามได้เลยค่ะ เพราะหนูให้พี่ตุ้ยไปสอบถามยามว่ามีป้ายทะเบียนรถอะไรบ้างเข้ามาในหมู่บ้าน ยามก็ไม่มี หนูถึงไปแจ้งความไงคะ เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ทีนี้ตร.บอกว่าให้ไปหาคนถ่ายมา ทีนี้พี่ตุ้ยไปขอติดตู้แดง หนูแนะนำเอง ว่าพี่ตุ้ยไม่ต้องไปนั่งเฝ้า เอาตู้แดงมาติดหน้าบ้านเลย ให้ตร.มาสอดส่อง ที่ทราบมา ยามไม่ได้ละเอียดขนาดจดรถทุกคัน ตร.ถามหนูมาทำไม หนูบอกว่าพวกหนูตัวเบ้อเร่อเลย ทำไมไม่ถ่าย ถ้าอยากจะจับชู้จริงๆ คุณต้องติดให้เห็นครูหนิงกับพี่ตุ้ยสิคะ

ทนายเอ็ม : ในหมู่บ้านหมวดตุ้ย ทำไมถึงแจ้งทางยามหรือรปภ.ว่าถ้ารถหมายเลขที่ครูหนิงขับเข้ามาในหมู่บ้านไม่ต้องจด ทำไมถึงแจ้งแบบนั้นล่ะครับ

หมวดตุ้ย :   มันเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้านครับ เจ้าของบ้านจะทำยังไงก็ได้

ทนายเอ็ม : รถครูหนิงมีเข้าออก วันที่เข้ามาในหมู่บ้าน ครูหนิงเคยเข้ามาหมู่บ้านหมวดตุ้ย ถูกต้องมั้ยคะ

หมวดตุ้ย : ครับ

แล้ววันนึงเข้ามาจะมีการเข้าลงเวลา เวลาออกก็จะลงเวลา หลังจากที่ได้รับหมายฟ้อง เหตุผลทำไมถึงมีการขีดฆ่าตอนที่ออกไปจากหมู่บ้าน?

หมวดตุ้ย : ขีดฆ่าในไหนครับ อันนั้นเป็นหน้าที่ของยาม ผมไม่ทราบครับ

ทนายเอ็ม : ครูหนิงรู้จักลูกสาวหมวดตุ้ยใช่มั้ยคะ

ครูหนิง : ไม่รู้จักค่ะ ไม่เคยพบเจอ ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยคุยกันเลย

ไพศาล : ตอนนี้เหมือนสืบกันในศาล มันไม่ใช่สาระ ต้องฟังการฟ้องสองฝ่าย แต่ฟังแล้วทางครูหนิงให้การสอดคล้องต้องกันไม่มีสะดุดเลยนะ แต่ทางนี้น้ำพุต้องตอบให้ได้ ประเด็นคืออย่าเล่นกับเซ้นส์ผู้หญิง เขาอาจเลิกแล้ว แต่ความเจ็บแค้นผู้หญิงมันต่อเนื่อง เขารู้สึกถูกทำร้าย เซ้นส์ผู้หญิงอันตรายสุด จบแบบไม่จบ ถ้าถามว่าเลิกแล้วไปตามทำไม เขาพูดชัดเจนมากว่าอยากรู้ เขาไปมีพยานบุคคลนะ ถึงเป็นพวกเดียวกัน ในเมื่อยังอยู่ในทะเบียนสมรส ถ้าจะไปหาหลักฐาน ก็เปิดไปให้เจอแล้วถ่ายเลย แต่ถ้ารักกันอยู่เข้าไปก็บันดาลโทสะ และต้องเข้าใจคำว่าล่วงเกินกับเปิดเผย พี่เห็นการจู่โจมพยาน เราเข้าใจนะ เขาพยายามหาเหตุและผล แต่ประเด็นสาระสำคัญเรื่องนี้มันตอบได้เลย อยากหย่าก็หย่าได้ แต่จ่ายเงินกูด้วย ฝ่ายนี้ก็บอกว่าไม่จ่าย

 คุณเชื่อที่เขาพูดมั้ย?

น้ำพุ :   ไม่เชื่อ

พี่เจี๊ยบ ตกลงพี่เจี๊ยบยืนยันว่าวันที่ 28 ไม่เห็นครูหนิงกลับเข้าไปในบ้านก่อน?

เจี๊ยบ : ไม่เห็นเลยนะคะ

พี่นั่งเฝ้าแบบไม่ได้ขี้ไม่ได้เยี่ยวเลยใช่มั้ย?

เจี๊ยบ : สลับกันไปกับหลานค่ะ

พี่คิดว่าครูหนิงอยู่ในบ้านหลังนั้นมั้ย?

เจี๊ยบ : อยู่ค่ะ พี่ได้ยินเสียง พี่เดินเหมือนเดินออกกำลังกาย

เห็นเขาเข้าห้องน้ำจริงมั้ย?

เจี๊ยบ : เห็นค่ะ วันที่ 27 ตอนเย็นๆ  

ทนายพัฒน์ : ทุกคนมีสิทธิ์กล่าวอ้างได้ พูดได้ เชื่อได้ แต่ข้อกฎหมายพยานหลักฐานจะเพียงพอที่จะกล่าวอ้างว่าเขาเป็นชู้ได้จริงหรือไม่ พอกล่าวอ้าง สังคมก็มาถามครูหนิงว่าจริงมั้ยคนเสียหายคือครูหนิงพยานหลักฐานที่คุณมีแล้วเปิดในรายการ อยากรู้ว่ามีอีกมั้ย คุณหนิงต้องมานั่งตอบ ทั้งที่คุณหนิงชนะมาแล้ว 4 คดี เขาเสียหาย เสียเวลา เสียเงินทอง เสียเวลาไปทำสวยอีก การฟ้องกัน กล่าวอ้างได้ พูดได้ ทำได้ แต่เขาเสียหาย รับผิดชอบยังไง ถ้าอยากหย่าคุยกันแมนๆ พี่ผิดจริง หรือไม่ผิดแล้วมีเหตุผลมั้ย แค่นี้จ่ายมั้ย ถ้าจ่ายก็จบ ไม่ใช่คดีแบบนี้ มันเหนื่อยทั้งคู่ ที่ผมชนะ 4 คดี แล้วมีคดีอื่นอีก ผมยังไม่ได้เอากลับสักคดีนะ เพราะอยากจะคุย พร้อมคุย มันมีโอกาสจะฟ้องกลับ พอยกฟ้องมันมีโอกาส

ไพศาล : ถ้าสืบกันไม่ถึง น้องจะไล่พฤติการณ์ทั้งปวงคดีไล่ได้หมด สาระสำคัญคือเปิดเผยกับล่วงเกิน  เอาหลักกฎหมายมาคุย ถ้าผัวจะฟ้องเมียมีชู้ หลักมีแค่ว่าล่วงเกินภรรยาในทางชู้สาว มีภาพอยู่ด้วยกันมั้ย ขนาดมีแชตไลน์บางทียังสืบไปไม่ถึง แต่ของผู้หญิงไม่ต้องมีล่วงเกิน แค่แสดงตนโดยเปิดเผย แค่นี้เรียบร้อยเลย ผู้หญิงฟ้องเมียน้อยได้แล้ว แต่ผู้ชายฟ้องว่าเมียมีชู้ต้องมีภาพว่าเขาอยู่ด้วยกัน ถ้าเอาแต่รถ แต่เสียง มันไม่ชัด เขาเรียกว่าสืบไม่ถึง เป็นห่วง แต่ก็อยู่ตรงกลาง อยากให้คุยกันให้ได้ คดียุติได้ ศาลให้ความเมตตาอยู่แล้ว

ครูหนิง : ขอถามพี่น้ำพุนะคะว่าโกรธอะไรทนายความหนู ร้องเรียนมรรยาททนายความหนูทำไม ทั้งคุณน้ำ และพี่น้ำพุ ร้องเรียนมรรยาททนายความหนู คนละฉบับค่ะ

ร้องทำไม?

ทนายพัฒน์ : หลายข้อ ผมจำไม่ได้ ทั้งการไปว่าความ ข่มขู่พยาน การถามการโยน ซึ่งมีข้อกล่าวอ้างของเขา เรื่องเนื้อหาคดีศาลก็ไม่เคยสั่งละเมิดอำนาจศาล หลายเรื่อง แต่ไม่เป็นไรหรอก ต่างคนต่างใช้สิทธิ์ไปแล้วกัน

ไพศาล : ผมเป็นห่วงทั้งสองฝ่าย การใช้สิทธิ์ในศาลดีแล้ว อะไรไม่ได้รับความเป็นธรรมเราทำได้ แต่การร้องมรรยาททนายต้องชัด ถ้าไม่ชัดอย่าลืมว่ากรรมการมารยาทสภาทนายความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ถ้าทางนี้ชี้แจงได้ มันจะเป็นการให้การเท็จ

น้ำพุ : การโยนเอกสารให้ดูมันใช่มั้ยครับในศาล

ไพศาล : คุณต้องมีหลักฐาน ให้ศาลบันทึกไว้ เข้าใจหมดเลย แต่ทนายมีหน้าที่ว่าความ ส่วนเขาทำอะไรที่ดูไม่ถูกไม่ควร เก็บหลักฐานอย่างเดียว อย่าลืมว่ากรรมการมารยาทเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผมเป็นห่วง คุยกันได้คุย ถ้าเขาชี้แจงได้ แล้วเขาตอบโต้มันจะเป็นอีกหนึ่งข้อหาเรา

ทนายพัฒน์ :   ผมเป็นคนนอก ไม่อยากเป็นตัวความเองอยู่แล้ว แต่บางอย่างเราต้องทำบทบาทของเรา คือปกป้องเมียหลวง การถามพยานที่รุนแรงในศาลเป็นสิทธิทนายความ ศาลท่านคุมกติกาอยู่แล้ว ถ้าไม่ถูกต้องท่านก็ต้องเตือน

ทนายจะบอกว่าจริงๆ แล้วมันคืออาชีพของเขา เหมือนมือปืนรับจ้าง เขาก็ต้องทำเต็มที่ แต่ถ้าพัฒน์เขายุให้ฟ้อง ให้เป็นความ ฟ้องได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ ให้ฟ้องไว้ก่อน เพื่อหวังเอาเงินได้ทรัพย์จากเขา อันนี้โดนแน่ คนละเรื่องกัน?

ไพศาล : ท่าทางชั้นเชิงลีลา ทำไมทำรุนแรง เทคนิคทนายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนใช้เทคนิคหลอกล่ออะไรกันก็ตาม ผมเชื่อว่าถ้าภาคสองยุติได้คือยุติการไกล่เกลี่ย ลองคุยดู

อยากให้ลงยังไง?

ครูหนิง : ก็หย่ากันแล้วจ่ายค่าทดแทนให้หนู

จบ ถอนหมด?

ครูหนิง : ค่ะ

ทนายพัฒน์ : ผมแล้วแต่ตัวความเลย ผมไม่มีปัญหา

ครูหนิง : หย่ากัน แล้วพี่น้ำพุจ่ายค่าทดแทนให้หนู

เรื่องเขาตามถ่ายภาพ?

ทนายพัฒน์ : อย่างที่บอก ยังไม่ได้เริ่ม 1 2 3 4 5 ที่เกินขอบเขต ถ้าผมยุป่านนี้โดนไปเยอะมากเลย แต่ผมพยายามไม่ทำ ไม่ก่อ ไม่เริ่มพอโดนคดีเยอะๆ เสียเวลาทำสวยมากมาย เสียเงิน เสียค่าทนายความ ซึ่งผมไม่อยากได้หรอก ผมไปทำเรื่องอื่นดีกว่า เรื่องนี้มันซ้ำซาก เสียเวลา เอาเงินจ้างทนายไปใช้ชีวิตดีกว่า

ครูหนิง : หนูก็ไม่รู้ว่าทนายโกรธเกลียดอะไรหนู ก็ร้องเรียนวินัยหนูด้วย

ทนายเอ็ม : ตั้งแต่ได้เข้ามาทำคดีให้คุณน้ำและพี่น้ำพุ ครูหนิงทำไมอยากจะสอบถามเหมือนกัน มีบางคนเขาไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงในคดีทั้งหมด เข้ามาสอบถามว่าอยากเห็นหน้าทนายจำเลยว่าเป็นใคร ทำไมครูหนิงบอกว่าทางทนายเองไม่มีคุณธรรม

ครูหนิง : คนอยากเห็นหน้าทนายคือใครคะ

ทนายเอ็ม : คิดผิดตั้งแต่ต้นแล้ว มีหลักฐานนะคะ

ครูหนิง : ใครล่ะคะ

ทนายเอ็ม : ทำไมครูหนิงตอบเอฟซีครูหนิงอย่างนั้นล่ะคะ เขาถามว่าทนายเขาคิดอะไรอยู่ ทำไมมาทำทนายให้จำเลย คือครูน้ำ หลายๆ โพสต์นะคะ นี่ยกตัวอย่าง ตัวทนายเองทำหน้าที่เท่าที่มีหลักฐานก็สู้กันไปตามกฎหมาย

คุณเองก็รับเป็นอาชีพเหมือนกัน ต้องเห็นใจว่าต้องโปรเทคลูกความเหมือนกัน?

ทนายเอ็ม : ใช่ค่ะ ไม่ใช่ว่าพายเรือให้โจรนั่ง จะถูกผิดยังไงว่ากันไปตามกระบวนการค่ะ บางคดี ตัวครูหนิงก็รู้ว่าทนายไม่ได้ทำคนเดียว แล้วทนายไม่ต้องแจกแจงว่าขอบคุณที่ทำให้มีวันนี้ ชนะทุกคดี ทนายไม่ได้เป็นส่วนทำให้ครูหนิงชนะทุกอันนะคะ

คุณเลยไปร้องเรื่องนี้?

ทนายเอ็ม : ใช่ค่ะ เพราะว่าล่าสุดโพสต์ภาพกับพี่น้ำพุโดยไม่ได้รับอนุญาต

ครูหนิง : โพสต์นั้นคุณทนายตั้งค่าสาธารณะ การตั้งค่าสาธารณะหมายความว่าอนุญาตให้แชร์ได้

ทนายเอ็ม : ไม่ใช่ค่ะ การร้องเรียนตรงนี้ วันที่ 8 ที่เจอกันนัดแรกวันฟ้องหย่า ทำไมครูหนิงต้องไปอธิบายว่าอุ้ย เปลี่ยนทนายบ้างก็ได้ หมายความว่าอย่างไรคะ

ครูหนิง : ก็ครูหนิงรู้สึกว่าทนายคนนี้ทำงานให้กับมือที่สามสามีครูหนิง แล้วสามีครูหนิงก็ใช้ทนายคนเดียวกับผู้หญิงคนนี้ ครูหนิงคับข้องใจว่าถ้าสามีครูหนิงไม่ได้เป็นอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แล้วทำไมต้องใช้ทนายคนเดียวกัน เกิดความข้องใจ สงสัยค่ะ

ไพศาล : ทนายความเขามีหน้าที่ทำคดีให้ทั้งโจทก์และจำเลย เขาจะรู้เองว่าถูกผิดคืออะไร เขามีหน้าที่ทำตามพยานหลักฐาน เข้าใจความเจ็บแค้นครูหนิง เรื่องตัวความทนายมีหน้าที่ในศาลเท่านั้น แต่ทนายจะไปรับให้ใคร ถ้าทนายในประเทศนี้ทนายไม่สามารถรับว่าความให้คนกระทำผิดได้ ประเทศจะหาความยุติธรรมได้ยาก คนผิดเวลามาหา อย่างพี่จะถามว่าสำนึกมั้ย เยียวยาเขามั้ย ให้สารภาพไป ผ่อนหนักเป็นเบา เข้าใจครู เข้าใจน้อง ถ้าเป็นพี่ก็คือทำหน้าที่ ขอให้อภัยและเริ่มต้นกันใหม่นะสองฝ่าย ไกล่เกลี่ยกัน ครูหนิงก็จะเตือนว่าน้องเขาทำหน้าที่ นี่คือกระบวนการยุติธรรม ฝากไว้

คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับครูหนิง ไม่ได้จีบ ไม่ได้เกินเลย?

หมวดตุ้ย : ยืนยันครับ ให้รถไปจอดเพราะเป็นเพื่อนครับ

น้ำพุ : หึ! ตลก

หมวดตุ้ย : ตลกยังไง พูดมาเลย

น้ำพุ : ที่อื่นก็มีจอด

หมวดตุ้ย : เช่นที่ไหนครับ

น้ำพุ : แล้วรู้จักลึกซึ้งกันขนาดไหน ผมอยู่กับเมียผมเขาไม่เคยเอารถไปฝากที่ไหนเลย

หมวดตุ้ย :   (หัวเราะ) ขำคุณนั่นแหละ

ฟ้องหย่าเขาแล้ว จะไปตามดูเขาทำไม?

น้ำพุ : อยากรู้

ครูหนิง : เขาฟ้องหย่าแต่ศาลยกฟ้องค่ะ ในคำฟ้องเขาบอกเสียใจ น่าจะยังรักหนูอยู่ค่ะ

น้ำพุ : ผมไม่ได้เขียน แต่อยากให้เขาร้องเพลงๆ นึง ไม่รู้จักยิ่งรักเธอ ของดา เอ็นโดรฟิน

ครูหนิง : พี่ยังรักหนูอยู่เหรอคะ ถ้ารักจะได้ร้อง

น้ำพุ : ไม่ อยากฟังว่าเสียงเขาเป็นไง

1 ล้านมาก่อน แล้วจบเลยเรื่องฟ้องหย่า เขาจะหย่าให้?

ครูหนิง : ค่ะ

น้ำพุ : ไม่จ่ายครับ

ทนายพัฒน์ : เหมือนผมบอก เราอยากเจรจา ไม่อยากค้าคดีมันเสียเวลา ถ้าตัวเลขจบกันได้ทุกอย่างก็จบ

ไพศาล : คิดว่ามีโอกาสเจรจามั้ย

ทนายเอ็ม :   ต้องเป็นสิทธิ์พี่น้ำพุค่ะ

น้ำพุ : คิดว่าไม่นะครับ