กระแสข่าวการปรับ ครม. ที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะมาควบ รมว.กลาโหม โดยให้ สุทิน คลังแสง ไปทำหน้าที่สส. ทำงานสภาฯให้พรรคเพื่อไทย เป็นผลจากการขยับทวง “ดีล” ของขั้วอนุรักษ์นิยม นั่นเอง

จึงมีชื่อ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  เลขานุการ รมว.กลาโหม  มาเป็น รมช.กลาโหม  เพราะมีชื่อชิงเก้าอี้ รมว.กลาโหม มาตั้งแต่ต้น โดยได้รับการเสนอชื่อ มาทาง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเวลานั้น

ชื่อของ พล.อ.ณัฐพล ถือ เป็นตัวแทน ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ส่งมาเป็น รมว.กลาโหมเท่านั้น เพราะนอกจากเป็นน้องรักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วยัง เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 20 ของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ด้วย

แต่ทว่า พล.อ.ณัฐพล ก็ได้เป็นแค่ เลขาฯรมว.กลาโหม โดยมี สุทิน คลังแสง  มาเป็น รมว.กลาโหม พลเรือนคนแรก ที่ไม่ได้เป็นนายกฯ  ที่เป็นการสะท้อนว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังไม่ยอมให้ ขั้วอนุรักษ์นิยม คุมกลาโหม คุมกองทัพแบบเบ็ดเสร็จ จึงให้นักการเมือง ครูอีสานบ้านนอก มาเป็น รมว.กลาโหม สร้างความฮือฮาไม่น้อย เพราะ สุทิน ไม่มีพื้นความรู้ ด้านการทหาร และ ความมั่นคง มาก่อนเลย  แต่เพื่อรักษาภาพของ รัฐบาลพลเรือน

ผ่านไป 7 เดือน สุทิน ก็ทำหน้าที่ได้ดี เข้าใจเรื่องทหาร ความมั่นคง ได้รวดเร็ว แถมสื่อสารจากความเข้าใจ ในสไตล์ของ สุทินเอง ไม่มีการปล่อยไก่ ที่ทำให้เสียหน้าเสียฟอร์ม ทั้งการให้สัมภาษณ์ หรือแถลงข่าว และแม้แต่การชี้แจงในสภา จนได้ฉายา เป็น โฆษกกลาโหม อีกด้วย

แต่ก็มีกระแสข่าว การทวงดีล  ถึงเวลาที่ รมว.กลาโหม ตัวจริง จะต้องมานั่งเก้าอี้ สนามไชย 1 แต่ทว่า กระแสข่าวการปรับ ครม. ที่ออกมา ก็ไม่ได้ระบุว่า จะให้ พล.อ.ณัฐพล เป็น รมว.กลาโหม  แต่ให้เป็นแค่ รมช. กลาโหม โดยไม่ยอมปล่อยกลาโหม ให้ทหาร จึงยังมีชื่อ เศรษฐา ควบ รมว.กลาโหม คุมเชิงอยู่ 

ดูเหมือนที่ผ่านมา เศรษฐา พยายาม ปูทาง การเป็น รมว.กลาโหม มาแล้ว ทั้งการคุมความมั่นคงเอง เพราะไม่ได้ตั้ง รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และ ใช้วิธีการพูดคุย สั่งการ กับ ผบ.เหล่าทัพเองโดยตรง ทั้งการโทรศัพท์ และการเรียกมาพบพูดคุย ทั้งที่ ทำเนียบรัฐบาล หรือ ไปพบที่โปโลคลับในวันหยุด บ่อยครั้ง

และบ่อยครั้งที่การพูดคุยวงเล็กของ นายกฯ กับหน่วยความมั่นคง แต่ไม่มีการเชิญ สุทิน ร่วมด้วย รวมทั้งการจัดมื้อดินเนอร์ กับ ผบ.เหล่าทัพ แบบสบายๆ โดยเชิญ สุทิน และ  พล.อ.ณัฐพล ร่วมวงด้วย  เพิ่มความใกล้ชิดสนิทสนม จนทำให้เกิดกระแสข่าวสะพัดว่า เศรษฐา จะควบ รมว.กลาโหม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แถมวันที่ไปพบทักษิณ ที่เชียงใหม่ สุทิน ก็ถูกทักษิณ มองเมินไม่สบตา จนทำให้ สุทิน หาโอกาสที่จะยื่นพวงมาลัย ให้ ทักษิณ ถึง 3 ครั้ง แต่ทว่า ทักษิณ ก็มองเมินไปทางอื่น  จนถูกตีความว่า เป็นสัญญาณของการ หลุดเก้าอี้ รมว.กลาโหม

ในขณะที่สุทิน เอง กลับปลอบใจตัวเองว่า ยังไม่มีสัญญาณ เรื่องการเปลี่ยน รมว.กลาโหม  แต่ก็ทำใจหากต้องพ้นตำแหน่ง พร้อมนับถอยหลัง เพราะเก้าอี้ รมต.อายุมันสั้นมาก “ ที่ผ่านมาผมทำหน้าที่เต็มที่ มั่นใจว่าทำเต็มที่ และมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรเสียหาย  แต่ก็ไม่เสียใจ แต่เสียดายว่าเราน่าจะมีโอกาสพัฒนากระทรวงกลาโหม ได้มากกว่านี้” นายสุทิน ออกตัว

ขณะที่ เศรษฐา พูดถึงกระแสข่าวควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม หลังเข้าสวัสดี สงกรานต์ ทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า กระแสข่าวที่ออกมา เพราะตนเองไปเยี่ยมทหารและบ้านพักของข้าราชการทหาร รวมทั้งที่ สนิทสนมส่วนตัวกับผบ.ทบ.และผบ.ทหารสูงสุด มีการยกหูพูดคุยกันได้ ซึ่งเป็นหน้าที่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาเป็น รมว. กลาโหม เพราะสถาบันทหารเองทุกคนก็มีความเป็นมืออาชีพ มีวินัย ถ้าเผื่อนายกรัฐมนตรีขออะไรไป และเป็นเรื่องที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ก็เชื่อว่าทุกคนพร้อมจะทำให้อยู่แล้ว” นายเศรษฐา  พยายามลดกระแส

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เศรษฐา เคยออกตัวว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นที่ตนเองจะต้อง ควบ รมว.กลาโหม แต่อย่างไรก็ตาม  ทีมงานตึกไทยคู่ฟ้า ในยุค เศรษฐา ก็ยังไม่เคยปิดประตู โอกาสที่ เศรษฐา จะควบ รมว.กลาโหม อยู่แค่ว่าจะเมื่อใด เท่านั้น

ปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้ ขั้วอนุรักษ์นิยมพยายามทวงเก้าอี้ รมว. กลาโหม เพราะจะมี การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลครั้งใหญ่ ประจำปี ในห้วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้แล้ว จึงถือว่าเป็นโผครั้งสำคัญเพราะจะต้องแต่งตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่ แทน “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ที่จะเกษียณ ราชการ 30 กันยายนนี้ รวมทั้งการแต่งตั้ง ผบ.ทร.คนใหม่ แทน “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ที่จะเกษียณ ก.ย.นี้เช่นกัน

รวมถึงต้องเตรียมวางตัวนายทหารที่จะเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งผู้บัญชาการทหารอากาศ ในโยกย้ายปลายปี 2568 แทน คนที่จะเกษียณราชการด้วย จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่ขั้วอนุรักษ์นิยม ต้องการจะเข้ามามีบทบาทในการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร เพื่อป้องกันการล้วงลูก หรือแทรกแซง ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

แม้ว่าการแต่งตั้ง ผบ.ทบ. ที่เป็นเรื่องของ ฉก.ทม.รอ.904 เป็นเรื่องของทหารคอแดง  ที่ ฝ่ายการเมืองจะแทรกแซง ไม่ได้ก็ตาม  แต่ในตำแหน่งอื่น ฝ่าย การเมืองอาจจะพยายามเข้ามาแชร์อำนาจในกองทัพ ด้วย จึงเป็นความพยายามของฝ่ายอนุรักษ์นิยม และบิ๊กทหารในยุคเก่าที่ต้องการจะปกป้องกองทัพ จาก ฝ่ายการเมือง  แต่ทว่า ทักษิณ ที่มีบทเรียน และ รู้จักขั้วอนุรักษ์นิยมและบรรดาคีย์แมนบิ๊กๆทหาร เหล่านั้น เป็นอย่างดี จึงยังไม่ยอมง่ายๆ ที่จะให้ฝ่ายทหารมาคุมกองทัพมาเป็น รมว.กลาโหม แบบเบ็ดเสร็จ

จึงอาจมีการยื้อเกม ให้ สุทิน เป็น รมว.กลาโหม ต่อไป เพื่อรักษาภาพของรัฐบาลพลเรือนและกลาโหมพลเรือน เอาไว้ก่อน เพื่อยื้อดีล ยื้อเวลา เมื่อใดที่ใช้ สุทิน ยื้อเวลาไม่สำเร็จแล้ว  ก็จะถึงด่านการยื้อเวลา ด้วยการให้ เศรษฐา ควบ รมว.กลาโหม ไว้ก่อน  ยื้อดีล ให้ได้นานที่สุด

แต่หากฝ่ายอนุรักษ์นิยม รุกหนัก  ต่อรอง เรื่องการกลับไทย ของ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามที่ ทักษิณ ได้ประกาศเอาไว้ว่า น้องสาวจะกลับมาฉลองสงกรานต์ด้วยกันในปีหน้า  แล้วทักษิณ ก็อาจจำเป็นต้องยอม เมื่อเวลานั้นใกล้เข้ามา ก็เป็นได้