กระแสความสำเร็จอย่างล้นหลามของการจัดงาน เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567 ที่ได้รับเสียงชื่นชมกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ว่ายิ่งใหญ่อลังการ ทำดีและทำถึง จากภาพรวมการจัดงาน 11 – 15 เมษายน 2567 มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานเกือบ 785,000 คน เกิดเป็นกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2,800 ล้านบาท  ที่น่าจะเป็นแรงบวกสำคัญในการกระชากเรตติ้งให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน

ทว่าดูเหมือนบุญมีแต่กรรมบัง เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์ พาวเวอร์แห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ควรจะได้อานิสงส์และแต้มต่อทางการเมืองมากที่สุด  แต่กลับกลายเป็น “จุดอ่อน” เจอทัวร์ลงเพราะมีรายงานข่าวว่า เจ้าตัวมีแพลนทริปฮ่องกงในช่วงสงกรานต์ ย้อนแย้งกับการประกาศผลักดันให้ การเล่นน้ำสงกรานต์เป็นซอฟต์พาวเวอร์ และเชิญชวนคนทั่วโลกมาเล่นน้ำสงกรานต์ทั้งเดือนที่ประเทศไทย 

ซ้ำถูก เทพไท เสนพงศ์ ขยี้ซ้ำประกาศตามคนหาย ไม่เคลื่อนไหวเล่นสงกรานต์ ผิดธรรมชาตินักการเมือง แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานการเดินทางไปต่างประเทศตามรายงานที่ออกมา  แต่ก็เป็นจังหวะที่ไม่ควรเพี่ยงพล้ำ มีเพียงอดีตสส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย จิระพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ที่ออกมาตอบโต้ “เทพไท” ว่าอคติ และ “อุ๊งอิ๊ง”มีแสงในตัวอยู่แล้ว ไม่ใช่อะไรก็หาแสง

 คู่ขนานกับกระแสสาดโคลนใส่ “อุ๊งอิ๊ง” ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา “ลุงโทนี่”ทักษิณ ชินวัตร โชว์พาวเวอร์ศูนย์กลางอำนาจตัวจริง รายล้อมด้วยบรรดารัฐมนตรีเกือบครึ่งครม. ขณะปักหลักร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่เชียงใหม่ ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับครม. ที่โผรายชื่อหลุดว่อนออกมาก่อนวันสงกรานต์

ในขณะที่ตนเองตกเป็นจำเลยสังคมกรณีนักโทษ VVIP ที่กลับบ้านมาอย่างเท่ๆอยู่แล้ว กระแสยังไม่สร่างซา ล่าสุดเขายังประกาศไทม์ไลน์สำคัญของน้องสาวคือ “ปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าจะได้กลับบ้านในปีหน้า ในบางช่วงบางตอนที่ “ทักษิณ”ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนขณะเดินทางมาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

“นายกฯปู อวยพรสงกรานต์ก่อนที่ผมจะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอกเดี๋ยวปีหน้า เรามาทำบุญด้วยกัน สงกรานต์ปีหน้า นายกฯปูคงได้มีโอกาสมาทำบุญ” ทักษิณ ระบุ

ส่งสัญญาณ “ท้าทาย” และช่วงชิงเกมเร็วกับดุลอำนาจ “ดีลการเมือง”

อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิการเมืองที่ร้อนแรงช่วงสงกรานต์นั้น ดูเหมือนจะยังใม่ใช่ “จุดเดือด” ด้วยหลังสงกรานต์  เกมภายในพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะยิ่งเข้มข้นขึ้น จากกระแสข่าวการปรับครม.ที่ถูกปล่อยออกมาอย่างตั้งใจกระแทกเข้าใส่

ขณะเดียวกันก็เป็นที่น่าสังเกตความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ด้วยก่อนหน้านี้อัยการสูงสุด เพิ่งเลื่อนกำหนดสั่งคดีที่ “ทักษิณ” ติดบ่วงออกไปเป็นปลายเดือนพฤษภาคม  ที่เงื่อนเวลาดันไปสอดคล้องต้องตามนัยทางการเมือง ให้ต้องตีความกันว่า เป็นช่วงที่ สว.ชุดปัจจุบันจะต้องพ้นอำนาจไปแล้ว ซึ่งนั่นก็หมายถึง ดุลอำนาจใน “ดีลลับ” จะมีการเปลี่ยนแปลง!!

สวนทางกับเรตติ้งที่หดหายไม่เหมือนเดิมของอดีตนายกฯ ที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ “พ่อด้อมส้ม” อย่างพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่อีสาน

แต่เมื่อเพื่อไทย ไส “ขุน” ออกมาเปิดหน้าเดินชนยังกู้เรตติ้งไม่ฟื้น นานไปยี่ห้อ “ทักษิณ”อาจกลายเป็นยาหมดอายุ เพื่อไทยจะเหลืออะไรมาเป็นตัวเล่น  หากเสีย “ขุน”ไป

ดูเหมือน สงครามหลังสงกรานต์ จึงเป็นสงครามที่เพื่อไทย ภายใต้ปีกของ “ทักษิณ”ที่ต้องต่อสู้เพื่อกอบกู้ศรัทธาให้กับตัวเอง ที่ต้องให้น้ำหนักมากกว่าคู่ต่อสู้ทางการเมือง