เอกชนพร้อมตรึงราคาสินค้าให้นานที่สุด แม้ต้นทุนทุกอย่างปรับขึ้น แนะรัฐบาลเร่งหามาตรการกระตุ้น ศก.ทุกด้านช่วยภาคธุรกิจ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้แนวโน้นต้นทุนวัตถุดิบเช่น น้ำมันดีเซลจะขยับสูงขึ้น โดยที่ภาครัฐจะไม่ต่อมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลแล้วก็ตาม ประกอบกับปัญหาความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนอ่อนค่าลงแม้จะส่งผลดีราคาสินค้าส่งออกได้ราคาสูงขึ้น หรือจากสภาพอากาศในปีนี้แล้งและร้อนนานส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรน้อยแต่มีราคาแพงขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือว่ากระทบต่อต้นทุนของภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศอย่างมาก และในฐานะภาคเอกชนในหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอาหารคงจะพยายามช่วยกันตรึงราคาสินค้าไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนทั่วประเทศให้น้อยที่สุดด้วยเช่นกัน

โดยผลกระทบต้นทุนดังกล่าวภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลเร่งหามาตรการต่างๆเข้ามาช่วยเหลือทุกกลุ่มภาคอุตสาหกรรมไม่ให้ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป โดยเฉพาะเมื่องบประมาณปี 2567 สามารถมีผลบังคับใช้จริงต้องการให้ภาครัฐเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพื่อกระจายลงในพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว แม้จะมีปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น สงครามที่เกิดขึ้นยังมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม ดังนั้นภาคเอกชนไม่อยากเห็นการใช้เงินกองทุนน้ำมันมาพยุงราคาน้ำมันอีกแต่หากจะปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรมยิ่งขึ้นน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า โดยภาคเอกชนเห็นด้วยที่จะปรับโครงสร้างราคาน้ำมันที่ใช้อยู่ให้ดีและสอดคล้องกับความเป็นจริง

ขณะเดียวกันมองว่า มาตรการที่รัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลประกาศจะเดินหน้าทำเต็มที แต่ภาคเอกชนก็อยากให้โครงการนี้ถึงมือประชาชนระดับรากหญ้า เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนแต่สิ่งที่อยากให้คลอบคลุมร้านค้าอยากเป็นร้านค้ารายย่อยด้วยเพื่อเป็นการกระตุ้นรอบด้านทุกกลุ่ม ดังนั้น ในปีนี้ถือว่ายังมีปัจจัยกระทบหลายด้าน จึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพียงแค่ร้อยละ 2.6 เท่านั้น แม้จะมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ก็ตาม

#ราคาสินค้า #หอการค้า #ดิจิทัลวอลเล็ต #ข่าววันนี้ #สยามรัฐวันนี้