เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2567พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.  พล.ต.ต..จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, สั่งการให้ พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 นำกำลังจับกุมน.ส.ชนิตา (สงวนนามสกุล)อายุ 28 ปี ชาวจ.พิษณุโลก ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ

 

พ.ต.อ.คมสัน  กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกว่า70 รายเข้าแจ้งความหลังสั่งซื้อรองเท้าผ่านแพลตฟอร์มอินสตาร์แกรม ชื่อบัญชีหนึ่งและไม่ได้สินค้า ซึ่งตำรวจแกะรอยจนทราบว่าเจ้าของบัญชีอินสตราแกรมคือ นางสาวชนิตา( สงวนนามสกุล)จึงได้รวบรวมหลักฐานและออกหมายจับ ก่อนจับกุมได้ที่บ้านในหมู่ 2 ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก  สอบสวนให้การว่าเป็นผู้ใช้บัญชีอินสตาร์แกรมดังกล่าวจริง โดยเปิดมานานกว่า 2 ปีมีผู้ติดตามกว่า 78,000คน และได้หลอกลวงขายสินค้าให้กับผู้เสียหายหลายราย ซึ่งหากบางรายเป็นคนดัง หรือเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดีย  ก็จะรีบโอนเงินคืนแต่หากผู้เสียหายคนใดไม่ติดตามหรือแจ้งความเพราะเห็นว่ามูลความเสียหายไม่เยอะก็จะปล่อยให้ ซึ่งในจุดนี้ทำให้คนร้ายใช้ช่องว่างนี้ในการหลอกลวง ซึ่งทำมาแล้วหลายสิบครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้คนร้ายได้หลอกลวงในลักษณะเดียวกันกับภรรยาของนักร้องหนุ่มรายหนึ่ง จนนางแบบสาวต้องโพสต์เรื่องราวผ่านอินสตราแกรมส่วนตัวชื่อหนึ่งว่า หากใครสั่งซื้อสินค้าจากเพจดังกล่าวแล้วไม่ได้ของมารวมกันตรงนี้ ซึ่งภายหลังทราบว่าคนร้ายได้มีการคืนเงินให้แล้ว  อย่างไรก็ตามขอขอบคุณนางแบบสาวที่เป็นกระบอกเสียงอีกทางหนึ่งและหากมีผู้เสียหาย ถูกหลอกลวงจากดังกล่าว ให้ติดต่อเข้าแจ้งความได้ที่ กองกำกับการ 4 กองบังคับตำรวจสิบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 กองบัญชาการตำรวจสิบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและขอฝากประชาสัมพันธ์ไว้ถึงพี่น้องประชาชน อย่าเห็นแก่ของถูก อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน ตามสโลแกนของตำรวจไซเบอร์

 

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกก.4บก.สอท.4 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป