โล่งอก คงยังไม่มีสงครามใหญ่เกิดขึ้น ในตะวันออกกลาง

ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย

จากการที่อิสราเอลได้ทำการโจมตีสถานทูตของอิหร่าน ในกรุงดามัสกัส ซีเรีย จนทำให้สถานกงสุลอิหร่านพังมีคนตายไปเจ็ดคน ในวันที่ 1 เมษายน และอิหร่านได้ทำการโจมตีตอบโต้ในวันที่ 13 เมษายน โดยแจ้งล่วงหน้าถึง 72 ชั่วโมง

ทว่าผลของการโจมตีของอิหร่านด้วยโดรนและขีปนาวุธก็ยังมีข้อถกเถียงกัน ตามกุศโลบายทางทหารของแต่ละฝ่าย

โดยฝั่งอิสราเอลอ้างว่าป้องกันได้ถึง 99% และไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ก็ขู่ว่าจะโจมตีตอบโต้อิหร่าน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายต่างหวั่นวิตก ว่าสงครามจะบานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่

ทว่าทางสหรัฐฯก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน แต่ยืนยันจะคอยปกป้องอิสราเอล ทว่าหลังจากที่โดนโจมตีอิสราเอลก็ร้องขอเงิน พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะอิสราเอลร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศ เช่น แพทริออต ซึ่งกำลังขาดแคลน จนสหรัฐฯอาจจะต้องไปถอนการติดตั้งออกจากประเทศพันธมิตร เช่น ในยุโรปมาให้อิสราเอล สหรัฐฯก็รีบผ่านงบให้ทันที

ด้านอิหร่านจากการให้สัมภาษณ์ของนายพลจัตวา Amir Ali Hajizadeh ผู้บัญชาการกองกำลังการบินและอวกาศของ IRGC ที่ยืนยันว่าถ้าอิสราเอลมาโจมตีอิหร่าน ก็รับรองว่าอิหร่านตอบโต้แน่

และสรุปได้จากการให้สัมภาษณ์ของรมต. ต่างประเทศอิหร่านและผู้นำทางทหาร IRCG จับความได้ว่า

1.อิหร่านมิได้หวังผลว่าการโจมตีครั้งนี้จะเป็นการทำทายล้างอย่างสำคัญต่ออิสราเอล แต่โจมตีในพื้นที่จำกัด

2.นี่ไม่ใช่พลังโจมตีสูงสุดของอิหร่าน

3.แต่มันคือพลังป้องกันสูงสุดของอิสราเอล รวมทั้งความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส และบางประเทศในตะวันออกกลาง

4.นอกจากนี้อิหร่านยังปฏิเสธว่ากองกำลังในพื้นที่อย่างฮิซบอลเลาะห์ ฮูตี และกองกำลังในซีเรียมิได้ร่วมในการโจมตีด้วยในคราวเดียวกันนี้

อนึ่งมีข่าวว่าอิหร่านใช้ขีปนาวุธไม่เกิน 50 ลูก และโดรนอีกจำนวนหนึ่ง แต่มีการส่งโดรนไปก่อกวนระบบการป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล ตลอดจนอิหร่านได้ทำการป้องกันการโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์ของอิสราเอลที่หวังรบกวนระบบนำวิถีของอิหร่าน โดยใช้ระบบสั่งการในตัวเองหลังจากปล่อยจากที่ตั้ง

ผลของการโจมตีจากแหล่งข่าวที่ไม่ใช่สื่อตะวันตก คือ สนามบิน 2 แห่ง ของอิสราเอลถูกทำลายเสียหายโดยเฉพาะสนามบินรามอน ส่วนสนามบินนาวาติมนั้นอยู่ไม่ห่างจากศูนย์วิจัยและโรงงานปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดิโมนา ในทะเลทรายเนกิป ที่อยู่ทางใต้สุดของอิสราเอลเสียหายไม่มาก ด้านทางเหนือในเขตที่ราบสูงโกลัน เทือกเขาฮามอน ศูนย์ข่าวกรองของอิสราเอลก็ถูกทำลายย่อมยับ

นอกจากรายงานแล้วสำนักข่าวบางแห่งยังมีภาพประกอบจากภาพถ่ายดาวเทียม แสดงหลักฐานการโจมตีอีกด้วย

อย่างไรก็ตามทางเนทันยาฮู และผู้นำทางทหารของอิสราเอลก็ออกมายืนยันว่าจะตอบโต้ มิใยว่าพันธมิตรตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ จะพยายามโน้มน้าวไม่ให้โจมตีตอบโต้ก็ตาม เพราะเกรงจะเกิดสงครามใหญ่จากการสู้รบ ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน

ครั้นถึงวันที่ 19 เมษายน เวลาประมาณ 4 นาฬิกา คือเช้ามืดก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่อิสฟาฮาน ซึ่งข่าวตะวันตกอย่าง ABC และตามมาด้วย CBS และต่อมาคือนิวยอร์คไทม์ต่างก็ประโคมข่าวใหญ่ว่าอิสราเอลโจมตีตอบโต้อิหร่าน ด้วยการถล่มสนามบินอิสฟาฮาน และยังมีเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือทาบิซ ถูกโจมตีหนักอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีนักข่าวที่โพสต์ข่าวใน x ว่าอิหร่านถูกโจมตีถึง 7 เมืองใหญ่ๆ แต่ต่อมาก็ลบโพสต์ออก เพราะไม่มีสำนักข่าวใดๆออกมาเสนอข่าว นอกจาก ABC ที่เริ่มต้นเต้าข่าว

ความจริงได้รับการเปิดเผยจากสำนักข่าวทางการอิหร่าน ว่ามีการส่งโดรนขนาดเล็ก 3 ลำไปบินเหนือสนามบินอิสฟาฮาน ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในการทำวิจัยทางทหาร และอยู่ไม่ห่างเมือง NATANZ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและสกัดแร่ยูเรเนียม ตลอดจนที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต

แต่โดรนจิ๋วทั้ง 3 ลำก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วจากระบบการป้องกันทางอากาศของอิหร่าน ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าโดรนจิ๋วดังกล่าวน่าจะถูกปล่อยภายในบริเวณใกล้เคียง เพราะมีขีดความสามารถในการบินได้ไม่เกิน 5 กม. จึงสรุปได้ว่าทางอิสราเอลมิได้ทำการโจมตีตามที่สำนักข่าวตะวันตกประโคมข่าว ขณะที่ทางอิสราเอลก็มิได้ยืนยันการโจมตีแต่อย่างใด

ด้วยประการฉะนี้ ทางการอิหร่านจึงให้ข่าวว่าจะไม่มีการตอบโต้ใดๆอีก เพราะไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้น

จากการวิเคราะห์ของหลายฝ่ายเชื่อว่าเหตุการณ์คงจะยังไม่สงบโดยสิ้นเชิง เพราะยังมีสงครามตัวแทนอยู่ในพื้นที่และตะวันตกคือ ซี.ไอ.เอ. เอ็มไอ 6 และมอสสาดก็มีแผนที่จะใช้ผู้ก่อการร้ายอย่าง ไอซีส โคราซาน กองกำลังพันธมิตรแห่งชาติทาจิกิสถาน หรือกองกำลังกองทัพแห่งความยุติธรรมแถบชายแดนอิหร่าน-ปากีสถานเพื่อก่อการร้ายในอิหร่าน

ด้านสหรัฐฯก็ประกาศแซงก์ชัน อิหร่านมากขึ้นจากกรณีที่อิหร่านโจมตีตอบโต้อิสราเอล จากกรณีที่อิสราเอลมาโจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรีย โดยสหรัฐฯหรือตะวันตกไม่เคยตำหนิอิสราเอลที่ทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติเลย แถมยังตกรางวัลให้เงินช่วยเหลือและอาวุธเพิ่มอีก

ผลของสงครามย่อยทำให้ราคาหลักทรัพย์อย่างทองคำพุ่งขึ้น หุ้นตกระนาว แต่พอไม่มีการตอบโต้ทองคำก็ลดราคาลง หุ้นก็เพิ่มราคาขึ้น

แต่ผลของการแซงก์ชันอิหร่านที่ผ่านมาทำให้ SCG ไทย ถูกสหรัฐฯสั่งปรับ 300 กว่าล้าน ฐานเพราะไปซื้อเม็ดพลาสติกจากอิหร่านที่มีราคาถูก ซึ่งการกระทำของสหรัฐฯคือการแซงก์ชันฝ่ายเดียว มีผลทำให้ราคาพลังงานและผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม ไม่ว่าจะเป็นของอิหร่านหรือรัสเซียมีราคาแพงขึ้น กระทบต่อเงินเฟ้อโลก และการค้า แม้แต่จีนก็ยังโดนเล่นงาน แต่สหรัฐฯไม่กล้าแตะอินเดียเพราะต้องการดึงไว้เป็นพวก

นี่แหละมาตรฐานตะวันตกครับ