วันที่ 25 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ , พ.ต.อ.วิจักรณ์ ตารมย์ , พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ , พ.ต.อ.วีระพงษ์ หอมหวล ผกก.1 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.วิทยา วรสุวรรณรักษ์,พ.ต.ท.พรชัย เฮงจิตตระกูลรอง รอง ผกก.1 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วิสศรุษฏ์ ไทยจันอัด สว.กก.1 บก.ปอศ. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. เจ้าหน้าที่ กอรมน. ลพบุรี และตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทโทรคมนาคมชื่อดัง ร่วมกันจับกุมตัว นายคชาเทพ อายุ 52 ปี โดยกล่าวหาว่า “มี นำเข้า ค้า ซึ่งเครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต , นำเข้า จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่าย อุปกรณ์เพื่อให้บุคคลอื่นนำไปใช้รับหรือแปลงสัญญาณในการรับรายการกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกโดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมด้วยของกลาง กล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียมและระบบอินเตอร์เน็ต FIRE BOX F1 จำนวน 148 เครื่อง สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เชียงคา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี


 
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ บริษัทโทรคมนาคมชื่อดัง ได้ตรวจสอบพบว่ามีบุคคลโพสต์เสนอขายกล่องรับสัญญาณ ที่สามารถดูช่องทีวีของบริษัท ได้โดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือน ผ่านทาง เฟซบุ๊ก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อสำนักงาน กสทช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทดลองสั่งซื้อกล่องสัญญาณดังกล่าว ปรากฏว่าเป็นกล่องรับสัญญาณที่สามารถดูช่องรายการของบริษัทดังกล่าวได้จริง และได้สืบสวนจนทราบถึงผู้กระทำความผิด

​จากนั้นเจ้าหน้าที่ กสทช. เจ้าหน้าที่ กอรมน. ลพบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบผู้ต้องหาและของกลาง โดยผู้ต้องหารับว่าเคยเป็นข้าราชการสังกัดหนึ่ง ทำหน้าที่และมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับวงจรอิเล็คทรอนิกส์ ได้ลาออกมาประกอบกิจการรับซ่อมอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ และสั่งซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีจากต่างประเทศ มาดัดแปลงให้สามารถดูรายการของบริษัทโรคมนาคมชื่อดัง  ได้โดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิก โดยเสนอขายในราคา รับชมได้ 1 ปี ราคา 1,699 บาท รับชมได้ 2 ปีราคา 2,800 บาท โดยดัดแปลงกล่องทีวีเสนอขายมากว่า 3 ปี จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม และ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ และ กก.1 บก.ปอศ. จะได้ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์กับผู้ต้องหานี้ต่อไป


 
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา