ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค.67 ชะลอลงจากอุปสงค์ในประเทศและภาคท่องเที่ยวที่ลดลงหลังจากที่เร่งไปมากในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะจากมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-receipt และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจโดยรวมในไตรมาส 1/67 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนอัตราการขยายตัวยังอยู่ในระดับต่ำราว 1% โดยแรงขับเคลื่อนมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ดีต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคบริการ และการจ้างงานที่เกี่ยวเนื่องขยายตัว

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามการทยอยลงทุนของธุรกิจใหม่ ๆ การส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมทรงตัว โดยบางอุตสาหกรรมยังได้รับแรงกดดันจากการค้าโลกที่ฟื้นตัวช้าและปัจจัยเชิงโครงสร้าง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนลดลงจากการซื้อสินค้าคงทน แม้การบริโภคสินค้าไม่คงทนยังขยายตัวได้ดีจากไตรมาสก่อน ด้านการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจาก พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า

ขณะที่ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน จากหมวดอาหารสดที่ผลของฐานสูงในปีก่อนเริ่มหมดไป ประกอบกับราคาผักและผลไม้เพิ่มขึ้น และจากหมวดพลังงานที่ราคาน้ำมันเบนซินปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงจากผลของฐานสูงในปีก่อน ประกอบกับราคาในหมวดของใช้ส่วนตัวลดลงตามการทำโปรโมชันของผู้ประกอบการ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้า ตลาดแรงงานปรับดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต้องติดตามการจ้างงานในภาคการผลิต โโยไตรมาส 1/67 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากหมวดอาหารสด และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นตามรายรับภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ตลาดแรงงานปรับแย่ลงเล็กน้อยตามการจ้างงานในภาคการผลิตเป็นสำคัญ

สำหรับแนวโน้มในระยะต่อไป ธปท.เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตได้จากแรงขับเคลื่อนสำคัญคือ การท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐ แต่ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของการส่งออก อย่างไรก็ตาม การที่มูลค่าส่งออกในเดือน มี.ค.พลิกมาติดลบค่อนข้างมาก เป็นเพราะฐานในปีก่อนสูง ซึ่งเป็นตามคาดการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แต่ก็เชื่อว่าการส่งออกจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล 

#แบงก์ชาติ #งบประมาณ67 #ข่าววันนี้ #ท่องเที่ยว #เงินเฟ้อ