มจพ. ลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น มุ่งผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับการทำงาน

วันที่ 30 เมษายน 2567  ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับ รองศาสตราจารย์ รังสรรค์ เลิศในสัตย์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุนันฑา  สดสี คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมดิจิทัล มจพ. กล่าวรายงาน โดยมีผู้บริหารของทั้ง 2 แห่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านวิชาการ โดยมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับการทำงาน  ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสายวิชาการ สายสนับสนุนวิชาการและนักศึกษา มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และใช้ทรัพยากรทางวิชาการร่วมกัน ส่งเสริมและสนับสนุนการทำวิจัยเพื่อการพัฒนานวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ร่วมกัน ร่วมมือในการบริการทางวิชาการแก่สังคม ชุมชน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดประชุมและสัมมนาทางวิชาการ ตลอดจนกิจกรรมทางวิชาการอื่น ๆ ทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ อาคารนวมินทรราชินี

ศ.ดร.สุชาติ อธิการบดี กล่าวว่า มจพ. มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กับ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ในครั้งนี้  นับเป็นโอกาสอันดี ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทยที่มีหน้าที่หลักในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพระดับแนวหน้า ให้บริการวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ชุมชนและสังคม อนุรักษ์ พัฒนาให้บริการเป็นศูนย์กลางทางด้านศิลปวัฒนธรรม และธํารงรักษา สืบสานความเป็นไทย และวิจัย สร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ ซึ่งมีภารกิจในการพัฒนาขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพและมีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ ตอบสนองต่อความต้องการของการพัฒนาประเทศ

อีกทั้งยังได้มองเห็นถึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีพันธกิจคือ ผลิตบัณฑิตที่พึงประสงค์ วิจัยและพัฒนา บริการวิชาการ แก่สังคม เพื่อให้มีแนวทางการประสานความร่วมมือและการร่วมดำเนินการ  ที่ชัดเจนบนฐานความประสงค์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายสู่ความร่วมมือ ด้านวิชาการพัฒนาความรู้ทางวิชาการ พัฒนาการศึกษา และความมั่นคงในทุกด้านของประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยกระดับประสิทธิภาพ การดำเนินงานและคุณภาพของบุคลากรทั้งสองฝ่าย ร่วมกันประสานผลประโยชน์ในการพัฒนาความรู้ทางวิชาการ พัฒนาการศึกษา และความมั่นคงในทุกด้านของประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระหว่างทั้งสองหน่วยงานและในภาคอุตสาหกรรมของประเทศต่อไป